คุณแม่ผ่าตัดคลอด หลังจากได้พักฟื้นจนร่างกายแข็งแรงดีแล้ว ก็อาจจะอยากขับรถออกนอกบ้าน ไปช้อปปิ้งหรือทำธุระส่วนตัวบ้าง แต่ก็มีความกังวลใจว่าขับรถแล้วจะทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพหรือไม่ วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจกันว่าผ่าคลอดกี่วัน ขับรถได้ และยังมีคำแนะนำอื่นๆ มาฝากกันด้วยค่ะ
ผ่าคลอดกี่วัน ขับรถได้ เรามีคำตอบ
หลายคนสงสัยว่า ผ่าคลอดกี่วัน ขับรถได้ ซึ่งหลังจากคุณแม่ได้พักฟื้นและดูแลสุขภาพร่างกายตัวเองเป็นระยะเวลาครบ 40-50 วันแล้ว รู้สึกว่าแข็งแรงอยากขับรถออกนอกบ้านก็สามารถทำได้ โดยให้ขับรถในระยะทางสั้นๆ ก่อน ไม่ควรขับรถที่ใช้เวลานานหรือเดินทางไกล ส่วนคุณแม่พักฟื้นครบเวลาที่กำหนดแล้วแต่สุขภาพโดยรวมยังไม่แข็งแรงอาจมีอาการอ่อนเพลีย เวียนศีรษะ หรือเจ็บแผลหน้าท้อง ก็ไม่ควรรีบออกไปขับรถ เพราะการขับรถอาจส่งผลเสียทำให้แผลผ่าตัดมีปัญหาได้
คำแนะนำในการขับรถ หลังผ่าคลอด
ผ่าคลอดกี่วัน ขับรถได้ เมื่อได้คำตอบกันไปแล้ว ทีนี้เรามาดูคำแนะนำกันบ้างดีกว่า
1.ขับรถในระยะใกล้
คุณแม่ที่เพิ่งฟื้นตัวหลังจากคลอดลูก ควรขับรถในระยะสั้นก่อน ซึ่งอาจจะไปธุระที่บริเวณใกล้บ้าน หรือขับรถไปซื้อของใกล้ๆ นั่นเอง โดยหากจำเป็นจริงๆ ก็ควรให้คุณพ่อทำหน้าที่ขับให้จะดีกว่า และที่สำคัญไม่ควรนั่งรถในระยะทางไกลๆ ด้วย
2.ไม่ควรขับรถไปในที่การจราจรหนาแน่น
คุณแม่ที่เพิ่งผ่าคลอด ควรหลีกเลี่ยงการขับรถในเส้นทางที่มีการจราจรคับคั่ง เพราะอาจเกิดสิ่งที่ไม่คาดฝันหรืออุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ อีกทั้งอาจทำให้ร่างกายของคุณแม่มีความตึงเครียดจากการที่จะต้องเจอกับปัญหาการจราจรอีกด้วย
3.รัดเข็มขัดโดยไม่ให้กดทับบริเวณแผล
ผ่าคลอดกี่วัน ขับรถได้ ถึงจะขับได้เมื่อพักฟื้นจนร่างกายเริ่มแข็งแรงแล้ว แต่ถ้าขับรถยนต์ คุณแม่ควรรัดเข็มขัดโดยไม่ให้กดทับบริเวณแผล ซึ่งอาจจัดตำแหน่งของเข็มขัดให้ขึ้นมาเหนือแผลหน่อยนั่นเอง
ถาม-ตอบคำถามอื่นๆ ที่แม่ๆ อยากรู้
แม่ผ่าคลอดหลายๆ คน อาจจะมีความกังวลเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวหลังจากคลอดลูก ว่าจะสามารถใช้ชีวิตอย่างปกติได้หรือไม่ ซึ่งนอกจากคำถามที่ว่าผ่าคลอดกี่วัน ขับรถได้ วันนี้เราก็ได้รวบรวมข้อสงสัยพร้อมคำตอบมาบอกให้คุณแม่ได้เข้าใจกันค่ะ ไปดูกันเลย
1.หลังผ่าคลอด อาบน้ำได้ไหม
หลังจากผ่าตัดคลอดแล้วคุณแม่ยังอาบน้ำไม่ได้ เนื่องจากจะทำให้บาดแผลเปียกชื้น เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย โดยในระยะ 7 วันแรกหลังคลอด ควรทำความสะอาดร่างกายด้วยการเช็ดตัวด้วยผ้าชุบน้ำสะอาดทั้ง 7 วัน ซึ่งคุณหมอจะปิดบริเวณบาดแผลด้วยพลาสติกกันน้ำมาให้ เพื่อป้องกันไม่ให้บาดแผลถูกน้ำนั่นเอง
2.ออกกำลังกายได้เมื่อไหร่
คุณแม่ที่พักฟื้นจนร่างกายแข็งแรงดีแล้ว รู้สึกปวดเมื่อยตัวอยากออกกำลังกายให้สดชื่น จะได้ขับเหงื่อและของเสียออกจากร่างกาย สามารถทำได้แบบเบาๆ เมื่อครบ 4 เดือนขึ้นไป โดยเริ่มจากการบริหารบริเวณอุ้งเชิงกราน การนอนยกขาขึ้นลง และการโก่งตัวท่าแมว เพื่อช่วยให้มดลูกเข้าอู่ได้ดีขึ้น จนเมื่อครบกำหนด 6 เดือนแล้วจึงออกกำลังกายได้ตามปกติ
3.ห้ามกินอะไรบ้าง
สำหรับคุณแม่หลังผ่าตัดคลอดมีข้อห้ามไม่ให้กินอะไรบ้างนั้นมาดูกันค่ะ
- ผัก ผลไม้ที่มีแก๊สมาก เพราะอาจทำให้เกิดอาการท้องอืด ปวดท้องได้ โดยผลไม้ที่ควรเลี่ยงได้แก่ ทุเรียน ฝรั่งและแตงโม ส่วนผักที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ หน่อไม้ กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก รวมถึงเผือกและกรอย เพราะอาจทำให้เกิดอาการแพ้คันบริเวณแผลได้
- อาหารค้างคืน โดยปกติคุณแม่หลังคลอดควรจะได้รับอาหารที่ปรุงสุกใหม่ทุกมื้อ ทั้งนี้เพื่อจะได้รับคุณค่าสารอาหารทุกวันและยังช่วยในการผลิตน้ำนมอีกด้วย ซึ่งหากกินอาหารค้างคืนถึงแม้ว่าจะอุ่นใหม่จนร้อนแล้วก็ตาม แต่คุณค่าสารอาหารก็ได้ลดน้อยลงไปแล้ว และยังเสี่ยงต่ออาการท้องเสียได้ด้วย เพราะฉะนั้นจึงควรกินอาหารที่ปรุงสุกใหม่จะดีกว่า
- เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ คุณแม่หลังคลอดควรหลีกเลี่ยง รวมถึงยาที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ด้วย เพราะหากลูกน้อยกินนมแม่ก็จะทำให้ลูกได้รับแอลกอฮอล์ที่ปนมาในน้ำนมได้ ซึ่งส่งผลเสียต่อระบบประสาทของลูก อีกทั้งยังทำให้เกิดการผลิตน้ำนมน้อยลงอีกด้วย
- อาหารหมักดอง ผลไม้หมักดอง และผักดอง ล้วนแต่ไม่มีประโยชน์ อีกทั้งยังอาจส่งผลเสียทำให้คุณแม่มีอาการท้องเสียได้ เนื่องจากสุขภาพยังอ่อนแอไม่มีภูมิต้านทาน ส่วนคุณแม่ที่ให้นมลูกก็จะทำให้ลูกได้รับผลเสียไปด้วย โดยอาจจะทำให้ลูกท้องเสียหรือท้องอืดได้นั่นเอง
- เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนทั้ง ชา กาแฟ ช็อกโกแลต รวมถึงน้ำอัดลม ซึ่งช่วงหลังคลอดก็ยังคงต้องงดไปก่อนจนกว่าจะเลิกให้นมลูกแล้ว ถึงจะกลับมากินได้
- อาหารสุกๆ ดิบๆ ไม่ว่าจะเป็นส้มตำปูปลาร้า แหนมดิบ ปลาดิบ ถึงแม้ว่าคุณแม่อยากกินอาหารเหล่านี้มากแค่ไหน ก็ต้องอดทนรอไปก่อนเพราะช่วงหลังคลอดคุณแม่ภูมิคุ้มกันต่างๆ ลดลงอาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย และที่สำคัญจะส่งผลเสียถึงลูกได้ด้วย
ผ่าคลอดกี่วัน ขับรถได้ ก็ได้รู้คำตอบกันไปแล้วนะคะ ซึ่งการดูแลสุขภาพของคุณแม่หลังคลอด ทั้งเรื่องอาหาร การปฏิบัติตัว รวมถึงการขับรถก็ล้วนแต่มีผลต่อสุขภาพโดยรวมทั้งสิ้น หากคุณแม่ใส่ใจในช่วงเวลาหลังคลอด ดูแลตัวเองให้ดี ก็จะลดปัญหาที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพอื่นๆ ได้แน่นอน
= = = = = = = = = = = =
ติดตามความรู้ดี ๆ และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่