วิตามินสำหรับเด็ก สำคัญอย่างไรกับเด็กเล็ก และคุณแม่ควรให้ลูกน้อยทานวิตามินอะไรบ้างในช่วงเวลาใด เป็นคนถามในใจของคนเป็นแม่ส่วนมาก ที่กำลังสงสัยและต้องการคำแนะนำ ในวันนี้เราได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับคุณสมบัติของวิตามินต่าง ๆ มาฝากคุณแม่ที่ยังไม่แน่ใจว่า จะให้วิตามินกับลูกน้อยดีหรือไม่ รายละเอียดตามนี้ค่ะ
วิตามินสำหรับเด็ก สำคัญอย่างไร
อย่างที่คุณแม่รู้กันดีอยู่แล้วว่า วิตามินและแร่ธาตุนั้นมีความสำคัญต่อสุขภาพร่างกาย โดยเฉพาะกับเด็กที่กำลังเติบโตเป็นผู้ใหญ่ยิ่งมีความต้องการวิตามินจำเป็นอย่างครบถ้วน เพื่อนำไปเสริมสร้างกระบวนผลิตกระดูก กล้ามเนื้อ อวัยวะต่าง ๆ และสมอง หากเด็กได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ จะทำส่งผลเสียต่อสุขภาพ ทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย ไม่เติบโตตามวัยอันควร และที่ทำให้คุณแม่เป็นกังวลก็คือ ไม่ช่วยกระตุ้นเซลล์สมอง หรือช่วยพัฒนาการทางสมองของพวกเขา
ดังนั้น วิตามินจึงมีความสำคัญต่อร่างกายของเด็กมากกว่าร่างกายของผู้ใหญ่ นั่นเพราะร่างกายของเด็กยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่ โดยเฉพาะโครงกระดูก การที่ร่างกายของเด็กได้รับวิตามินเพียงพอ จะช่วยในกระบวนการทำงานอย่างเป็นระบบ
มาดูว่าวิตามินสำหรับเด็กมีอะไรบ้าง
- วิตามิน A
วิตามิน A มีหน้าที่ช่วยในการมองเห็น เสริมสร้างการเจริญเติบโตของกระดูก ช่วยการแบ่งตัวของเซลล์ กระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายของลูกน้อย เพื่อป้องกันโรคต่าง ๆ จากสิ่งแวดล้อมภายนอก ช่วยซ่อมแซมเซลล์ที่เสื่อมสภาพ และกระตุ้นให้เซลล์เม็ดเลือดขาวทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย
หน้าที่หลักของวิตามิน A คือ การสร้างกระดูก เสริมสร้างความแข็งแรงให้กับผิว ผม ฟัน และเหงือก ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงขึ้น วิตามิน A จึงเหมาะสำหรับเด็กที่ต้องการเสริมสร้างร่างกายให้เจริญเติบโตสมวัย แข็งแรง
- วิตามิน E
วิตามิน E เป็นวิตามินที่มีคุณสมบัติ “แอนติออกซิแดนท์” ที่ช่วยต่อต้านสารอนุมูลอิสระ และช่วยให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้ดีขึ้น ช่วยบำรุงและส่งเสริมการทำงานของตับ มีหน้าที่สำคัญเกี่ยวกับเลือด ช่วยป้องกันเม็ดเลือดแตกเปราะง่าย เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง สามารถป้องกันโรคต่าง ๆ ได้อย่างเช่น โรคลิ่มเลือดในหลอดเลือด โรคหลอดเลือดตีบ โรคหัวใจ และโรคไตอักเสบ เป็นต้น นอกจากนี้ยังช่วยให้เซลล์ประสาท กล้ามเนื้อและระบบสืบพันธุ์ ทำงานได้เป็นปกติ เด็กทารกที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคโลหิตจางหลังคลอด ควรได้รับวิตามิน E ในปริมาณที่เหมาะสม ทั้งควรให้แพทย์เป็นผู้แนะนำอีกครั้ง
- วิตามิน D
วิตามิน D เป็นสารสำคัญในการควบคุมการหลั่งของฮอร์โมนพาราธัยรอยด์ ที่เกี่ยวกับสมดุลแคลเซียม และฟอสฟอรัสในร่างกาย ช่วยในการดูดซึมแคลเซียม และฟอสฟอรัสในลำไส้เข้าสู่กระแสเลือดได้ดีขึ้น ช่วยกระตุ้นให้มีการหลั่งแคลเซียมออกจากผิวกระดูกไปยังกระแสเลือด มีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างกระดูก และช่วยสะสมแคลเซียม ฟอสฟอรัสในกระดูก รวมถึงช่วยกระตุ้นการสังเคราะห์สารที่จำเป็นในการสร้างคอลลาเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้วิตามิน D ยังกระตุ้นการทำงานของระบบประสาท ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบกล้ามเนื้อ อัตราการเต้นของหัวใจ และการแข็งตัวของเลือด ให้มีการทำงานที่สมดุลกันทุกระบบ สามารถป้องกันลูกน้อยจากโรคกระดูกอ่อนได้
- วิตามิน B12
วิตามิน B12 ช่วยบำรุงประสาท เพิ่มสมาธิ ความจำ และการทรงตัว ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของร่างกาย ช่วยให้เด็กเจริญอาหาร ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน เนื่องจากวิตามิน B12 มีบทบาทสำคัญในการช่วยดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่ร่างกาย ป้องกันการขาดแคลเซียมที่มีส่วนสำคัญในการสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง
การขาดวิตามินบางอย่างในเด็กจะเป็นอย่างไร
การที่ร่างกายของเด็กขาดวิตามินบางอย่างไปนั้น อาจส่งผลกระทบต่อพัฒนาการ และการทำงานของอวัยวะสำคัญ หรือระบบการทำงานในร่างกายผิดปกติได้ ทั้งนี้อาจส่งผลเสียต่อพัฒนาการด้านสมองและสติปัญหา นั่นเป็นเพราะร่างกายของเด็กยังมีความต้องการสารอาหารจำเป็น เพื่อเสริมสร้างร่างกายให้เติบโตเต็มที่ ทำให้พัฒนาการชะลอตัว ผลของการชะลอตัวจะทำให้การเจริญเติบโตช้า และพัฒนาทางปัญญาไม่ดีเท่าที่ควร
การขาดวิตามิน A จะทำให้เด็กอาจจะมีอาการตาบอดเวลากลางคืน ทำให้เด็กมาในที่มืดไม่ชัดจนห้กล้มได้ง่าย การเจริญเติบโตช้า ส่งผลให้เป็นโรคกระดูกอ่อน และฟัน ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายลดลง การสร้างเม็ดเลือดขาวที่ผิวหนัง ผนังลำไส้ และผนังหลอดลม ทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย และใช้ระยะเวลานานในการรักษาตัว
การขาดวิตามิน C ภูมิคุ้มกันลดลง ป่วยบ่อย รอยฟกช้ำตามร่างกาย ผิวสีซีด เนื่องจากวิตามิน C มีหน้าที่กระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว อันเป็นกลไกสำคัญของระบบภูมิคุ้มกัน การขาดวิตามิน C ในเด็กจึงทำให้ลูกน้อยป่วยบ่อย ติดเชื้อไวรัสได้ง่าย และร่างกายอ่อนเพลียไม่แข็งแรง
ดังนั้น วิตามินจึงจำเป็นต่อเด็กอย่างมาก การเลือกให้ลูกน้อยได้รับประทานวิตามินตามธรรมชาติ อย่างเช่น เนื้อปลา, ผักใบเขียว, ไข่แดง และธัญพืชต่าง ๆ นอกจากจะช่วยให้ลูกน้อยมีร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังช่วยกระตุ้นพัฒนาการด้านสติปัญญาให้กับลูกน้อยอีกด้วย
คุณแม่ที่เคยสงสัยว่า จำเป็นต้องให้วิตามินในรูปของอาหารเสริมกับลูกเพิ่มหรือไม่ ในเรื่องนี้คุณแม่ต้องไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะดีกว่าหาซื้อให้ลูกน้อยรับประทานเองค่ะ อย่างไรก็ตาม วิตามินธรรมชาติมีอยู่มากมาย ส่วนมากจะพบในผัก และผลไม้ ซึ่งคุณแม่สามารถเลือกให้ลูกน้อยรับประทานผัก ผลไม้เพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามินจากธรรมชาติน่าจะดีกว่า วิตามินในรูปของอาหารเสริมค่ะ
= = = = = = = = = = = =
ติดตามความรู้ดี ๆ เพิ่มเติมกับเราได้เลย ที่เว็บแม่และเด็ก www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่
https://www.facebook.com/teamkonthong/
We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about how can you grow up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or have any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook
https://www.facebook.com/teamkonthong/
บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..
Sponsored