น้ำนมแม่อาหารที่ธรรมชาติรังสรรค์มาเพื่อลูกน้อย ด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่เหมาะสมกับพัฒนาการของลูกน้อย อีกทั้งน้ำนมแม่ยังเปรียบประดุจวัคซีนเข็มแรกของลูกน้อยที่ได้รับจากธรรมชาติเพื่อเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ป้องกันการเกิดโรคและอันตรายต่าง ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน น้ำนมแม่จึงนับว่าเป็นสิ่งพิเศษที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก และด้วยเหตุนี้คุณแม่ทั้งหลายจึงต้องการน้ำนมให้ลูกน้อยได้ดื่มกินในปริมาณมาก ซึ่งบทความนี้เราจะขอพาเหล่าคุณแม่ทั้งหลายไปพบกับวิธีกระตุ้นน้ำนมแม่ที่คุณแม่สามารถทำได้ง่าย ๆ และได้ผลอย่างแน่นอน
รวมวิธีกระตุ้นน้ำนมแม่ แนะนำให้ลอง
เราขอเริ่มต้นการเปิดเผยวิธีกระตุ้นน้ำนมแม่ที่ได้รับการยอมรับในทางการแพทย์แล้วว่าสามารถช่วยเพิ่มปริมาณและคุณภาพของน้ำนมแม่ได้จริง ซึ่งมีดังนี้
1.ให้ลูกน้อยเป็นผู้ดูดกระตุ้น
หลังจากที่คุณแม่คลอดลูกน้อยออกมาแล้ว ควรให้ลูกน้อยเริ่มดูดนมจากเต้าของคุณแม่ภายในระยะเวลา 1 ชั่วโมง เพื่อเป็นการกระตุ้นการไหลของน้ำนมตามกลไกธรรมชาติ ส่วนนี้อาจไม่มีน้ำนมไหลออกมาในช่วงแรก ซึ่งคุณแม่ไม่ต้องกังวลไปเพราะเป็นเรื่องปกติตามธรรมชาติ
2.ให้ลูกน้อยดูดนมจากเต้าบ่อย ๆ
เพราะกลไกการดูดนมของลูกน้อยจะไปกระตุ้นกลไกการผลิตและการไหลของน้ำนม ซึ่งจะทำให้มีปริมาณน้ำนมที่เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้การดูดนมของลูกน้อยจากเต้าบ่อย ๆ ยังเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยลดอาการตันของเต้านม ซึ่งนำไปสู่อาการคัดเต้านม หรือ การอักเสบของเต้านมคุณแม่ได้
3.ฝึกลูกน้อยให้ดูดนมจากเต้าอย่างถูกวิธี
เพื่อให้เกิดการกระตุ้นที่ถูกจุด แล้วทำให้เกิดการไหลของน้ำนม โดยวิธีกระตุ้นน้ำนมแม่วิธีนี้คุณแม่ต้องให้ลูกน้อยดูดนมจนถึงบริเวณลานนม
4.สร้างความสมดุลของเต้าทั้งสอง
วิธีกระตุ้นน้ำนมแม่แบบสมดุลวิธีนี้ คือ การให้ลูกน้อยสลับเต้าดูดนมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้น้ำนมของคุณแม่เกิดการกระตุ้นให้มีการไหลออกมาทั้งสองเต้านม
5.ดื่มน้ำอย่างเพียงพอ
น้ำนมจากเต้าก็มีน้ำเป็นองค์ประกอบ และ ร่างกายของคนเราก็มีน้ำเป็นองค์ประกอบถึง 70% ดังนั้นคุณแม่จึงควรดื่มน้ำ หรือ จิบน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการในการผลิตน้ำนม
6.พักผ่อนอย่างเพียงพอ
เพื่อให้ร่างกายของคุณแม่มีความสมบูรณ์พร้อม สำหรับการผลิตน้ำนม
7.หมั่นฝึกจิตให้เบิกบานอยู่เสมอ
เป็นเรื่องปกติที่คุณแม่หลังคลอดมักมีความกังวลในการเลี้ยงดูลูกน้อย แต่ความกังวลนี้ก็ไม่ควรมากเกินไปจนกระทบจิตใจ และ วิธีกระตุ้นน้ำนมแม่จากส่วนของจิตใจก็ช่วยให้ร่างกายของคุณแม่ผลิตน้ำนมออกมาจำนวนมากกว่าปกติได้ด้วย
8.การนวดกระตุ้นเต้านม
แม้จะเป็นช่วงที่ลูกน้อยพักจากการดูดนม หรือ ช่วงหลังอาบน้ำ คุณแม่ก็สามารถกระตุ้นกลไกการสร้างน้ำนมตามธรรมชาติได้ด้วยการนวดกระตุ้นน้ำนมด้วยตัวของคุณแม่เอง
9.รับประทานอาหารอย่างเพียงพอ
คุณแม่ต้องหมั่นรับประทานอาหารให้เพียงพอกับความต้องการของตนเอง และ เพียงพอในการสร้างน้ำนม และอาหารที่คุณแม่รับประทานควรเลือกที่มีประโยชน์ ถูกต้องตามโภชนาการ
อาหารที่ช่วยบำรุงน้ำนมแม่ มีอะไรบ้าง
นอกจากวิธีกระตุ้นน้ำนมแม่ดังที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว เราก็ขอพาคุณแม่ไปพบกับอาหารเพิ่มน้ำนม ซึ่งมีดังนี้
1.หัวปลี
อาหารเพิ่มน้ำนมยอดฮิตที่ได้ผลจริง ได้ผลชัวร์ ซึ่งปัจจุบันก็มีการแปรรูปหัวปลีมาเป็นเครื่องดื่มให้คุณแม่เลือกวิธีบริโภคได้ง่าย
2.ขิง
เป็นอีกหนึ่งอาหารเพิ่มน้ำนม โดยขิงนั้นช่วยให้เกิดการไหลเวียนโลหิตภายในร่างกายของคุณแม่ ที่จะช่วยให้เกิดการไหลเวียนของเลือดบริเวณเต้านมคุณแม่ได้อีกด้วย
3.มะรุม
โดยเฉพาะส่วนของใบและดอกที่มีผลในการช่วยกระตุ้นการขับน้ำนม ทำให้เกิดการไหลของน้ำนมที่มากขึ้น นอกจากนี้มะรุมยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่สามารถช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันให้กับตัวคุณแม่เองและลูกน้อยได้อีกด้วย
สิ่งที่ควรเลี่ยง เพราะจะทำให้น้ำนมน้อย
แน่นอนว่านอกจากวิธีกระตุ้นน้ำนมแม่ก็ยังมีสิ่งที่คุณแม่ต้องหลีกเลี่ยง เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้น้ำนมของคุณแม่น้อยลง ซึ่งมีดังนี้
1.การสูบบุหรี่
2.การดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน และ แอลกอฮอล์
3.การหักโหมมุ่งมั่นกับการเลี้ยงดูลูกน้อยโดยไม่พักผ่อน
4.ความวิตกกังวลจนเกินกว่าเหตุ
5.การอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่ไม่เหมาะแก่การให้นมลูกน้อย อย่างที่ร้อนมาก ๆ หรือ การอยู่ที่ที่มีเสียงดังมาก ๆ
6.การอยู่ท่ามกลางสังคมที่สร้างความเครียดความกดดัน
วิธีกระตุ้นน้ำนมแม่ที่เราได้กล่าวไปในบทความข้างต้นล้วนเป็นวิธีที่คุณแม่สามารถทำได้ด้วยตนเองเพื่อให้ตนมีปริมาณและคุณภาพของน้ำนมที่เพียงพอและมีคุณค่าทางโภชนาการที่เหมาะสมกับลูกน้อยมากที่สุด คุณแม่จึงไม่ควรพลาดในการนำวิธีกระตุ้นน้ำนมแม่ไปปรับใช้ให้เหมาะกับตนเอง และไม่เพียงแต่วิธีเหล่านี้จะช่วยให้คุณแม่มีน้ำนม วิธีเหล่านี้ยังเป็นวิธีที่ช่วยบำรุงสุขภาพของคุณแม่เองอีกด้วย คุณพ่อหรือคนใกล้ชิดที่คอยดูแลคุณแม่ก็สามารถเป็นหนึ่งในผู้มีส่วนร่วมเป็นกำลังใจให้กับคุณแม่ เพื่อเป็นอีกหนึ่งพลังทางใจช่วยให้คุณแม่และลูกน้อยมีความแข็งแรงทั้งทางร่างกายและจิตใจ
= = = = = = = = = = = =