วิธีดูแลคุณแม่ตั้งครรภ์ ความสมบูรณ์แบบของครอบครัว ไม่สามารถเกิดขึ้นได้เพียงแค่คนใดคนหนึ่งในครอบครัวเท่านั้น ความสมบูรณ์แบบของชีวิตจะต้องช่วยกับสร้างและร่วมแก้ไขปัญหาไปพร้อม ๆ กัน การดูแลคุณแม่ตั้งครรภ์ก็เช่นเดียวกัน ถ้าต้องการให้การตั้งครรภ์เป็นไปอย่างราบรื่น ทุกคนในครอบครัวก็ต้องใส่ใจดูแล และค่อยให้ความช่วยเหลือ โดยเฉพาะคุณพ่อที่อยู่ใกล้ชิดกับคุณแม่มากที่สุด จะต้องเป็นผู้ช่วยและค่อยดูแลเอาใส่ใจอย่างใกล้ชิด เพราะขณะที่คุณแม่กำลังตั้งครรภ์อยู่นั่น เป็นช่วงเวลาที่ต้องการใครสักคนอยู่เป็นเพื่อน และค่อยเป็นกำลังใจให้ ช่วยปรับอารมณ์ให้กับมาเป็นปกติ วันนี้เรามีเทคนิคการดูแลคุณแม่ตั้งครรภ์ได้ง่าย ๆ สำหรับคุณพ่อมือใหม่มาฝากค่ะ
วิธีดูแลคุณแม่ตั้งครรภ์ แบบง่าย ๆ
เลือกอาหารที่มีคุณค่า และพาไปกินอาหารที่คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องการ
คุณพ่อต้องเป็นคนค่อยบริการเรื่องการกินให้คุณแม่ เพื่อบำรุงครรภ์ โดยเลือกอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากเป็นพิเศษ หรือลองมองหาอาหารที่คุณแม่ชอบ และอยากรับประทานมากที่สุด เพราะช่วงเวลาที่คุณแม่กำลังตั้งครรภ์อยู่นี้ ร่างกายของคุณแม่มีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว และต้องการรับประทานอาหารมากเป็นพิเศษ เพื่อให้เพียงพอกับการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ คุณพ่อสามารถช่วยให้ทารกในครรภ์มีการเจริญเติบโตแข็งแรงได้ โดยการเลือกอาหารที่ดีต่อร่างกาย เน้นอาหารประเภทโปรตีน แคลเซียม กรดอะมิโน โอเมก้า 3, 6, 9 มาให้ก็น่าจะช่วยให้คุณแม่มีความสุขมากขึ้น สามารถตั้งครรภ์ได้อย่างมีคุณภาพแล้วล่ะค่ะ
ไปเป็นเพื่อนทุกครั้งที่คุณแม่ไปพบแพทย์
เรื่องนี้สำคัญต่อจิตใจของคุณแม่อย่างมาก ทุกครั้งที่คุณแม่ต้องไปตามนัดเพื่อตรวจครรภ์ คุณแม่จะมีความกังวลและสับสนมากกว่าปกติ ยิ่งถ้าปล่อยให้ไปคนเดียวอีกก็ยิ่งทำให้คุณแม่มีความเครียดได้ ดังนั้น เพื่อให้คุณแม่สามารถรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ คนเป็นพ่อจะต้องเป็นผู้ที่พาคุณแม่ไปพบแพทย์ด้วยตัวเอง และจะต้องไปเป็นเพื่อนทุกครั้งด้วย เพื่อให้คุณแม่สบายใจ สามารถรับการตรวจได้โดยไม่เครียด และมีสุขภาพจิตที่ดีขึ้น
ถ่ายรูปด้วยกันบ่อย เพื่อบันทึกภาพแห่งความทรงจำ
คุณพ่อรู้หรือไม่ว่า เวลาเพียง 9 เดือนเป็นเวลาที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว คุณพ่ออาจจะยังไม่ทันได้มีความสุขร่วมกันกับการตั้งครรภ์ของภรรยา จนทำให้เสียดายช่วงเวลาดี ๆ ไป ดังนั้นเพื่อเก็บทุกความทรงจำแห่งช่วงเวลาที่สำคัญ คุณพ่อจะต้องถ่ายรูปกับคุณแม่บ่อย ๆ และพาคุณแม่ไปเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ แล้วเก็บภาพประทับใจไว้มาก ๆ เมื่อลูกน้อยคลอดออกมาคุณพ่อจะสามารถบอกและอธิบายเรื่องต่างที่ผ่านมาด้วยความภาคภูมิใจได้
พาไปเที่ยวนอกบ้านบ่อย ๆ
การตั้งครรภ์ไม่ใช่ป่วย ดังนั้นคุณพ่ออย่ามองว่าคุณแม่เป็นคนป่วยเลยให้อยู่แต่บ้าน ไม่ยอมพาไปเที่ยวไหน การทำเช่นนี้อาจจะทำให้คุณแม่มีภาวะซึมเศร้าหลังคลอดได้ และแน่นอนว่าส่งผลกระทบต่อพัฒนาการของลูกน้อยอย่างมาก ดังนั้น เพื่อให้สุขภาพร่างกาย และจิตใจของทั้งคุณแม่และลูกเป็นปกติ คุณพ่อต้องพาคุณแม่ตั้งครรภ์ไปเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ที่สวยงามบ่อย ๆ
ห้ามบ่น เลิกต่อปากต่อคำ จำไว้ว่าคุณแม่ตั้งครรภ์ถูกเสมอ
คุณพ่อจงจำเสมอว่า ช่วงเวลาที่คุณแม่กำลังตั้งครรภ์อยู่นี้ ร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทำให้ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้เท่าไหร่ บางครั้งจะหงุดหงิดทุกอย่าง บางครั้งก็เครียด บางครั้งก็ไม่ถูกใจ อาจจะมีการบ่น จนคุณพ่อทนไม่ไหวทำให้เกิดการต่อปากต่อคำได้ และส่งผลต่อสภาพจิตใจของคุณแม่ตั้งครรภ์อย่างมาก ดังนั้น เพื่อรับมือกับอารมณ์ที่ปรวนแปรของคุณแม่ คุณพ่อจะต้องเงียบ เก็บทุกความรู้สึกไว้ในใจ คิดเพียงว่าอีกไม่นานช่วงเวลาเหล่านี้ก็จะผ่านไปแล้ว และทำความเข้าใจกับความรู้สึกของคุณแม่ให้มาก ๆ เพื่อให้ทั้งคุณแม่และลูกน้อยมีอารมณ์และสุขภาพจิตที่ดี
บริการภรรยาด้วยความรัก
คุณแม่ตั้งครรภ์ควรมีคนค่อยดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะร่างกายที่เปลี่ยนแปลง การเคลื่อนไหวร่างกายก็ลำบาก ไม่สามารถทำอะไรได้ด้วยตัวเอง หรือทำได้แต่ก็ไม่เหมือนเดิม ดังนั้นเพื่อให้คุณแม่รู้สึกดี คุณพ่อจะต้องเป็นคนค่อยบริการ ไม่ว่าจะเป็นการตัดเล็บเท้า การนวดพุง หรือพาไปสระผม การทำเช่นนี้จะทำให้คุณแม่รู้สึกดี และไม่กังวล เพราะว่ามีคนค่อยช่วยเหลือบริการอยู่ตลอดเวลานั่นเอง การบริการด้วยความรักและความใส่ใจย่อมทำให้ทั้งแม่และลูกมีความสุขมากขึ้นเท่านั้น
เตรียมพร้อมสำหรับการคลอด
คุณแม่ตั้งครรภ์ไม่มีเวลาที่จะไปจัดของจำเป็นที่ต้องใช้เมื่อเวลาใกล้คลอดมาถึง ดังนั้นคุณพ่อจึงควรเป็นผู้จัดการเตรียมพร้อมสำหรับการคลอดให้กับภรรยา เริ่มจากการจัดกระเป๋า เตรียมของใช้ทั้งของคุณแม่ และลูกน้อย ควบคุมอารมณ์เมื่อใกล้ถึงเวลาคลอด ถ้าคุณพ่อตื่นเต้นมาไปอาจทำให้คุณแม่เป็นกังวลได้นะคะ คุณพ่อควรจะเป็นผู้สร้างความผ่อนคลายให้กับคุณแม่ โดยการให้กำลังใจ ปลอบโยน ให้คุณแม่รู้เสมอว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นคุณพ่อจะอยู่ข้างเสมอ ๆ เพื่อให้ทุกอย่างราบรื่น คุณพ่อต้องแสดงความรักที่มีต่อคุณแม่และลูกในครรภ์ให้มาก ๆ เพื่อปรับสภาพจิตใจของคุณแม่เป็นปกติและสามารถรับมือสถานการณ์ที่กำลังจากมาถึงได้
แบ่งเบาภาระภายในบ้าน
หลังคลอดแล้วสุขภาพร่างกายของคุณแม่จะไม่สมบูรณ์นัก แต่ร่างกายต้องการผ่อนมากกว่าปกติ ในช่วง 1 – 3 สัปดาห์แรกคุณแม่จะไม่สามารถทำงานบ้านได้เต็มที่นัก อาจจะทำให้คุณแม่เป็นกังวล และรู้สึกหงุดหงิด เพราะสภาพร่างกายของตนเองไม่เป็นปกติ ทำให้การเคลื่อนไหว และความสามารถบางอย่างลดลง ทำให้คุณแม่ไม่สามารถทำงานบ้านได้นั่นเอง ดังนั้น เพื่อลดความกังวลนี้คุณพ่อควรจะช่วยแบ่งเบาภาระของคุณแม่บ้าง ด้วยการทำงานบ้านแทน และช่วยคุณแม่เลี้ยงลูกน้อย เพื่อสร้างสานสัมพันธ์รักระหว่างคุณกับลูกน้อย
เห็นไหมว่า การดูแลภรรยาไม่ใช่เรื่องยากอะไร เพียงแต่คุณพ่อทำด้วยใจ รับรองสามารถสร้างความสุขและความอบอุ่นให้ครอบครัวของคุณมากขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ
= = = = = = = = = = = =
ติดตามความรู้ดี ๆ และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่
https://www.facebook.com/teamkonthong/
We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about how can you grow up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or have any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook
https://www.facebook.com/teamkonthong/
บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..