หลังผ่าตัดคลอดบุตร นอกจากที่คุณแม่ต้องดูแลเอาใจใส่เลี้ยงดูลูกน้อยอย่างใกล้ชิดแล้ว ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่คุณแม่ไม่ควรละเลย แต่ควรให้ความสำคัญด้วยเช่นกัน นั่นก็คือ สุขภาพของคุณแม่ในช่วงที่ฟื้นตัว ดังนั้นมาดูกันสิว่าอาการหลังผ่าคลอดแบบไหนที่เป็นปกติ และเมื่อมีความผิดปกติเกิดขึ้น คุณแม่ควรรีบไปปรีกษาสูติแพทย์ทันที
อาการหลังผ่าคลอดแบบไหนปกติ
คุณแม่หลังผ่าคลอดหลายคน อาจมีความกังวลกับการเลี้ยงทารกที่เพิ่งคลอดมาได้ไม่นาน ซึ่งถ้าสุขภาพของคุณแม่ไม่มีปัญหาใดๆ ก็ย่อมทำให้สามารถดูแลลูกได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นมาดูกันสิว่า หลังผ่าคลอดแล้ว แบบไหนที่เรียกว่า เป็นอาการปกติ
1. หน้าท้องยังใหญ่อยู่
เนื่องจากผิวหนังหน้าท้องมีการขยายตัว รวมทั้งมดลูกภายในที่โตขึ้นเพื่อรองรับการเติบโตของลูกน้อยตลอด 9 เดือน โดยหลังคลอด คุณแม่บางท่านอาจพบว่าหน้าท้องไม่ยุบลงเลย ซึ่งความจริงนั้น กว่ามดลูกจะหดกลับไปมีขนาดเท่าเดิมก็ต้องใช้เวลา 6-8 สัปดาห์ ดังนั้นถ้าคุณแม่คนไหนอยากให้หน้าท้องกลับมากระชับดังเดิม ควรให้ลูกดูดนม เพราะจะทำให้มดลูกหดตัวได้เร็วขึ้น ร่วมกับการออกกำลังกายเบาๆ และควบคุมอาหารหลังคลอด ก็จะทำให้ได้ผลเร็วขึ้น
2. มีน้ำคาวปลา
น้ำคาวปลาที่ออกมาหลังคลอดนั้นถือเป็นเรื่องปกติของผู้หญิงหลังคลอด โดยในช่วงสามวันแรกน้ำคาวปลาจะมีสีแดงสด คล้ายกับประจำเดือน แต่หลังจากนั้นจะมีลักษณะคล้ายเมือก โดยหลังคลอด 2-3สัปดาห์ น้ำคาวปลาจะค่อยๆ ลดน้อยลง และจะค่อยๆ หมดไปภายใน 4-6 สัปดาห์หลังคลอด
3. ฝ้า กระ สิว ผิวหมองคล้ำ
ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ คุณแม่อาจประสบกับปัญหาผิวพรรณ ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนภายในร่างกาย จึงทำให้เกิดเป็นสิว ฝ้า กระ ผิวหมองคล้ำได้ แต่อาการเหล่านี้จะค่อยๆ ดีขึ้นหลังคลอด เมื่อฮอร์โมนกลับมาเข้าสู่ภาวะปกตินั่นเอง
4. ภาวะซึมเศร้าหลังคลอด
ภาวะซึมเศร้าหลังคลอดนี้ เป็นอาการหลังผ่าคลอดที่เกิดขึ้นในชั่วครูหนึ่ง และไม่ได้เกิดกับคุณแม่ทุกคน ซึ่งสาเหตุนั่นเกิดจากระดับของฮอร์โมนที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในช่วงหลังคลอด ทำให้คุณแม่มีอาการซึมเศร้า กังวล เสียใจ จนบางคนอาจร้องไห้ออกมาโดยไม่ทราบสาเหตุ แต่อาการเหล่านี้นั้นก็สามารถหายไปเองได้ตามธรรมชาติ ภายใน 3-4สัปดาห์ ดังนั้นบุคคลในครอบครัวควรทำความเข้าใจ ซึ่งกำลังใจจากครอบครัว จะทำให้คุณแม่หายจากภาวะซึมเศร้านี้ได้
อาการหลังผ่าคลอดแบบไหน ไม่ปกติ
สภาพร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไปตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์จนกระทั้่งคลอดนั้น จำเป็นที่ต้องได้รับการฟื้นฟู ไม่ว่าจะเป็นการเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ การพักผ่อนที่เพียงพอ คุณแม่ยังจำเป็นต้องหมั่นสังเกตอาการผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นหลังผ่าคลอดด้วย ซึ่งอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นนี้ จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาอย่างทันถ่วงที
1. มีไข้ ปวดศีรษะ
ถ้าคุณแม่มีอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง ร่วมกับมีไข้สูงเกินกว่า 38 องศาเซลเซียล และเมื่อได้กินยาแล้ว แต่ไข้ก็ยังไม่ลด ให้สงสัยว่าอาจมีการติดเชื้อขึ้นภายในร่างกาย ดังนั้นแนะนำให้คุณแม่ไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่เกิดขึ้น
2. ปวดท้องรุนแรง
ถ้าพบว่าอาการปวดท้องที่เกิดขึ้น ไม่ใช่เกิดจากอาหารที่กินเข้าไป ซึ่งทำให้เกิดอาการปวดท้องจนตัวบิด ก็จำเป็นต้องรีบไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุและทำการรักษาต่อไป
3. การตกเลือด
ภาวะตกเลือดหลังคลอด สามารถพบว่าโดยอาจเกิดขึ้นได้เฉียบพลันหลังคลอด ไปจนถึง 12 สัปดาห์หลังคลอด ซึ่งมีสาเหตุมาจากที่มดลูกไม่สามารถหดรัดตัว เพื่อกลับสู่ภาวะปกติได้ ร่วมกับมีเลือดออก ซึ่งสังเกตได้จากความผิดปกติของน้ำคาวปลา มดลูกไม่เข้าอู่ และมีการติดเชื้อที่โพรงมดลูกเกิดขึ้น เป็นต้น โดยเป็น ภาวะหลังคลอด ที่อันตราย ทำให้คุณแม่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลโดยด่วน
4. แผลผ่าคลอดอักเสบ
อาการที่บ่งบอกว่าแผลผ่าคลอดอักเสบ ได้แก่ปวดแผล ปวดท้องน้อยรุนแรง แผลบวมแดง แผลปริ มีเลือดซึม เหล่านี้ให้สันนิษฐานว่ามีการติดเชื้อเกิดขึ้น จำเป็นต้องพบแพทย์ เพราะแผลอาจติดเชื้อจนลุกลาม เป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ ดังนั้นหลังผ่าตัดคลอด การดูแลแผลให้สะอาดอย่างถูกวิธี และไปพบแพทย์ตามนัดหมาย จะช่วยป้องกันการติดเชื้อจากแผลผ่าคลอดได้
5. น้ำคาวปลาผิดปกติ
อาการหลังผ่าคลอดคุณแม่จะมีน้ำคาวปลาออกมาทางช่องคลอด และจะหมดไปเองภายใน 4-6 สัปดาห์ แต่ระหว่างนั้นถ้าพบว่าน้ำคาวปลามีความผิดปกติควรรีบไปพบแพทย์ในทันที โดยอาการน้ำคาวปลาผิดปกตินั่น ได้แก่น้ำคาวปลาออกมากทำให้ต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยทุกชั่วโมง น้ำคาวปลาออกเป็นลิ่มเลือดขนาดใหญ่กว่าลูกกอล์ฟเป็นเวลานาน น้ำคาวปลามีกลิ่นเหม็นมาก น้ำคาวปลากลับมามีสีแดงสดอีกครั้งหลังจากสีจางลง2-3วัน
6. เต้านมผิดปกติ
การให้นมลูกด้วยตนเองเป็นสำคัญ เพราะนมแม่ช่วยให้ลูกมีพัฒนาการที่ดี อีกทั้งนมแม่ยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่จำเป็นต่อร่างกายของทารก ดังนั้นคุณแม่ต้องหมั่นสำรวจเต้านมด้วย โดยถ้าพบความผิดปกติเช่น ปวดเต้านม เต้านมบวมแดง มีก้อนในเต้านม อาจบ่งบอกถึงอาการอักเสบของเต้านม หรืออาจเป็นมะเร็งเต้านมก็ได้ จึงควรไปพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัย
ไม่ว่าจะคลอดแบบธรรมชาติ หรือผ่าตัดคลอด การหมั่นสังเกตอาการผิดปกติ อาการหลังผ่าคลอดที่เกิดขึ้นแก่ร่างกาย นับว่าเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งควรทำควบคู่ไปกับการฟื้นตัวหลังคลอด ทั้งการเลือกกินอาหารที่เป็นประโยชน์ ครบทุกหมวดหมู่ ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงอาการหลังผ่าคลอดที่จะเกิดความผิดปกติหลังคลอดลงได้
= = = = = = = = = = =