ถึงแม้ว่าประเทศไทยจะเป็นประเทศที่อากาศร้อนชื้นมีหน้าร้อนที่ยาวนาน หรือแทบจะร้อนทุกๆ ฤดูแต่ในช่วงที่ร้อนและพีคที่สุดก็เห็นจะเป็นเดือนเมษายนไปจนถึงมิถุนายน ในช่วงนี้อากาศจะร้อนอบอ้าวพร้อมทั้งยังมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นบ่อยๆ คุณแม่จึงต้องรับมือกับโรคที่มาพร้อมกับอากาศที่ร้อนอบอ้าว เพราะเด็กๆ มักจะเจ็บป่วยได้ง่าย เนื่องจากอากาศที่ร้อนเชื้อโรคจะเจริญเติบโตได้ง่าย และอาหารบูดเสียเร็วขึ้น มาดูกันว่า โรคหน้าร้อน มีโรคอะไรบ้างที่มักจะเกิดขึ้นกับเด็ก พร้อมวิธีดูแลป้องกันให้ลูกรักห่างไกลจากโรคเหล่านี้
โรคหน้าร้อน อะไรบ้างที่ต้องระวังในเด็ก
ในหน้าร้อนแต่ละปีจะมีอากาศที่ร้อนอบอ้าว บางปีอุณหภูมิสูงถึง 38 – 40 องศา บางวันฝนตก บางวันอากาศร้อนถึงร้อนมากจึงทำให้ร่างกายของเด็กที่มีภูมิคุ้มกันต่ำกว่าผู้ใหญ่เจ็บป่วยได้ง่าย และโรคที่มักจะมากับหน้าร้อนก็มีหลายโรคด้วยเช่นกัน ซึ่งโรคหน้าร้อน ที่เกิดขึ้นในเด็กพบมากที่สุดก็จะมีดังนี้
1.โรคผดผื่นคัน
โรคหน้าร้อน ยอดฮิตที่มักจะเกิดขึ้นกับเด็กนั่นก็คือ โรคผดผื่นคัน ที่มีสาเหตุเกิดจากรูขุมขนอุดตันไม่สามารถที่จะขับเหงื่อได้ จนกลายเป็นผื่นแดงบริเวณผิวหนังและมีอาการคันตามมา ซึ่งโรคผดผื่นคันนี้สามารถที่จะหายเองได้ภายใน 1 – 3 วัน ระหว่างที่เป็นผดผื่นควรสวมใส่เสื้อผ้าที่สามารถระบายเหงื่อให้กับลูกเพื่อที่จะทำให้สบายตัวมากยิ่งขึ้น แต่หากคุณแม่พบว่าหลายวันแล้วผื่นยังไม่ยุบควรพาลูกไปพบแพทย์ เพื่อที่จะหาสาเหตุของการเกิดผดผื่นที่แท้จริง
2.โรคท้องร่วง
โรคท้องร่วงมักจะระบาดอย่างหนักในช่วงหน้าร้อน เพราะอากาศที่ร้อนเหมาะแก่การเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียได้ดี ส่งผลทำให้เด็กเกิดโรคท้องร่วงเมื่อทานอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อโรคเข้าไป โดยอาจจะเป็นอาหารเป็นพิษหรือมีอาการอาเจียนร่วมด้วย ซึ่งหากรุนแรงอาจทำให้เกิดช็อคหมดสติได้เลยทีเดียว เพราะฉะนั้นคุณแม่ควรดูแลเรื่องอาหารการกินของลูกในช่วงหน้าร้อนนี้ให้ดี ควรปรุงสุกสะอาด และให้ลูกล้างมือให้สะอาดก่อนรับประทานอาหารทุกครั้ง
3.เลือดกำเดาไหล
โรคในเด็กยอดฮิตอีกโรคในช่วงหน้าร้อนนั่นก็คือ อาการเลือดกำเดาไหล ซึ่งพบบ่อยในเด็กที่เป็นโรคจมูกอักเสบ ภูมิแพ้ที่ไวต่ออากาศที่เปลี่ยนแปลงเป็นปัญหาสำหรับเยื่อจมูก ทำให้เด็กคัดจมูกและชอบขยี้แรงๆ จนเส้นเลือดในโพรงจมูกแตก จึงเป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการเลือดกำเดาไหลนั่นเอง
4.โรคทางเดินหายใจ
จากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปมาในหน้าร้อน เดี๋ยวก็อยู่ในห้องแอร์ เดี๋ยวก็ออกนอกบ้านพบอากาศที่ร้อนจัดทำให้ร่างกายของเด็กปรับสภาพไม่ทัน ส่งผลให้ป่วยเป็น โรคหน้าร้อน เช่น ทางเดินหายใจได้ง่าย อย่างเช่น โรคไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ เป็นต้น หากพบว่าลูกมีอาการปวดหัว ตัวร้อน ไอจาม มีน้ำมูกคัดจมูกนั่นแปลว่าลูกกำลังป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจ หรือโรคหวัด หากลูกมีไข้ควรเช็ดตัวให้ลูกเพื่อระบายความร้อนออกจากตัว พร้อมทานยาลดไข้ หากอาการไม่ดีขึ้นควรพาไปพบแพทย์
5.โรคฮีตสโตรกหรือโรคลมแดด
อากาศที่ร้อนในช่วงเวลากลางวัน หากเด็กอยู่ในอากาศที่ร้อนเป็นเวลานานๆ จนทำให้สมองทำงานผิดปกติในด้านการควบคุมร่างกาย ซึ่งจะส่งผลทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตและสมองทำงานแย่ลง โดยสังเกตอาการได้จากอุณหภูมิร่างกายของเด็กจะสูงขึ้น แต่ไม่มีเหงื่อออก ปวดศีรษะ หน้าแดง กระหายน้ำมากๆ อ่อนเพลีย และชีพจรเต้นเร็วขึ้น ความดันโลหิตลดลง ถือว่าเป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องรีบเข้ารักษาเพราะเด็กอาจจะเสียชีวิตได้ ดังนั้นคุณแม่ควรให้ลูกหลีกเลี่ยงแสงแดดในช่วงเวลากลางวัน โดยทำกิจกรรมอยู่ในร่มจะดีกว่า
ดูแลลูกรักอย่างไรให้ห่างไกลโรค
คุณพ่อคุณแม่ทุกคนต่างก็อยากให้ลูกมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงห่างไกลจากโรคต่างๆ โดยเฉพาะ โรคในเด็ก ยอดฮิตหลายๆโรค เพราะฉะนั้นหากอยากให้ลูกแข็งแรงมีภูมิต้านทานต่อสู้กับโรคต่างๆ ได้ดีควรดูแลดังต่อไปนี้
1.ส่งเสริมให้ลูกออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงไม่เจ็บป่วยง่าย คุณแม่ควรส่งเสริมให้ลูกได้ออกกำลังกายบ่อยๆ หากิจกรรมทำในร่มเพื่อให้ห่างไกลจาก โรคหน้าร้อน เล่นกีฬาที่ชอบ เพื่อช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรงมีภูมิคุ้มกันมากขึ้น และเมื่อร่างกายแข็งแรงไม่ว่าจะหน้าร้อน หน้าหนาว หรือ ฝนตก ลูกก็จะไม่เจ็บป่วยง่าย
2.นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
เด็กๆ ควรได้รับการหลับพักผ่อนให้เพียงพอให้เหมาะสมตามวัย เพราะขณะที่นอนหลับสนิทร่างกายจะหลั่งโกรทฮอร์โมนออกมาได้อย่าเต็มที่ ซึ่งฮอร์โมนดังกล่าวนี้จะช่วยส่งเสริมให้ร่างกายเจริญเติบโตสมวัย ห่างไกลจาก โรคในเด็ก และการหลับเต็มอิ่มจะช่วยให้ระบบเลือดและเซลล์ต่างๆ ในร่างกายทำงานได้ดีขึ้นอีกด้วย
3.ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
การที่เด็กได้รับสารอาหารครบ 5 หมู่ในสัดส่วนที่สมดุลและเหมาะสมตามวัยจะช่วยให้ร่างกายของเด็กเจริญเติบโตและแข็งแรง เพราะอาหารจะช่วยเข้าไปซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย ทำให้ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ ห่างไกลจาก โรคหน้าร้อน ที่มักจะเกิดขึ้นในเด็ก
เมื่อรู้แล้วว่าช่วงหน้าร้อนมีโรคอะไรบ้างที่มักจะเกิดขึ้นกับเด็กๆ คุณแม่จึงต้องคอยดูแลเฝ้าระวังให้ลูกน้อยห่างไกลจากโรคต่างๆ ด้วยการให้ลูกทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะ ล้างมือทุกครั้งก่อนรับประทานอาหาร พาไปฉีดวัคซีนให้ครบเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับลูก นอกจากนี้ยังต้องหมั่นพาลูกออกกำลังกายทานอาหารที่มีประโยชน์พักผ่อนให้เพียงพอ ก็จะช่วยทำให้ลูกแข็งแรงห่างไกลจาก โรคหน้าร้อน ได้แล้ว
= = = = = = = = = = =