เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่หลายท่าน อาจจะเคยได้ยินมาบ้างแล้วเกี่ยวกับโรคนอนใหลตาย หรือนอนหลับไปแล้วไม่ตื่นอีกเลย ซึ่งโรคนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับผู้ใหญ่เท่านั้น แต่ในเด็กก็พบโรคนี้ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะกับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 1 ปี โดยทางการแพทย์จะเรียกโรคนี้ว่า SIDS หรือ (Sudden Infant Death Syndrome) ซึ่งความน่ากลัวของโรคนี้ก็คือ เป็นโรคที่ไม่ได้แสดงอาการใดๆ ออกมาให้เห็น สามารถเกิดขึ้นได้กับเด็กทุกคน สาเหตุของโรค หลับไม่ตื่น เกิดจากอะไร จะป้องกันโรคดังกล่าวนี้ด้วยวิธีไหนได้บ้าง เรามาหาคำตอบในบทความนี้กันเลยดีกว่า
ทารกหลับไม่ตื่น ภาวะ SIDS เกิดจากอะไร
โรคหลับไม่ตื่น ( SIDS) เป็นโรคที่สามารถเกิดขึ้นได้กับเด็กทารกทุกคน โรคนี้ยังเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตในเด็กเป็นอันดับต้นๆ ของโลกถึงรอยละ 40% เลย และจะเสี่ยงมากในเด็กตั้งแต่อายุ 1เดือน -1 ปีแรก สามารถเกิดขึ้นได้แม้กับเด็กที่มีสุขภาพที่แข็งแรง มีพัฒนาการที่ดี ได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน โดยสาเหตุของการเกิด โรคใหลตายมักจะเกิดจากสิ่งที่มากีดขวางระบบทางเดินหายใจขณะที่นอนหลับดังเช่น
- การให้ลูกนอนในท่าที่ไม่เหมาะสมอย่างเช่น ให้ลูกนอนคว่ำ หรือนอนตะแคง ซึ่งท่าดังกล่าวอาจจะทำให้ลูกน้อยหายใจลำบาก โดยเฉพาะถ้านอนบนที่นอนที่นิ่มและยุบตัวมากเกินไป
- การที่ที่นอนของลูกมีของมากเกินไปอย่างเช่น ตุ๊กตานิ่ม หมอนข้าง หรือผ้าห่มมาปิดหน้าของลูกขณะที่นอนหลับ เพราะจะไปขัดขวางระบบการหายใจของลูก
- การที่ให้ลูกนอนเตียงเดียวกับพ่อแม่ และถูกพ่อแม่นอนทับ เนื่องจากเด็กทารกยังไม่สามารถที่จะเคลื่อนไหวโยกย้ายศีรษะได้ดี
- ทารกมีอาการติดเชื้อทางเดินหายใจอย่างเช่นเป็นหวัด คัดจมูก เพราะอาการดังกล่าวจะทำให้เด็กมีปัญหาในการหายใจ
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ที่ทำให้เด็กทารก หลับไม่ตื่น อย่างเช่นทารกคลอดก่อนกำหนด เนื่องจากสมองส่วนที่ควบคุมการหายใจ และภาวะตื่นตัวขณะที่นอนหลับยังทำงานไม่เต็มที่ รวมถึงปัจจัยเสี่ยงจากคนในบ้านที่สูบบุหรี่ และคุณแม่ตั้งท้องอายุต่ำกว่า 20 ปี ปัจจัยเหล่านี้ล้วนแต่เป็นสาเหตุทำให้เด็กทารก หลับไม่ตื่น ได้เช่นกัน
SIDS โรคนี้พบมากในเด็กวัย 1 ปีแรก
โรค SIDS หรือโรค หลับไม่ตื่น เป็นโรคที่เกิดกับเด็กวัย 1 ปีมากที่สุด โดยเฉลี่ยการเสียชีวิตจากทั่วโลกสูงถึงร้อยละ 40-50% ต่อปี ถือเป็นสถิติที่สูงมาก โดยเด็กจะเสียชีวิตขณะที่นอนหลับ โรคนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับเด็กทุกคน แม้ว่าจะมีสุขภาพที่แข็งแรง มีพัฒนาการที่ดี ก็สามารถเกิดโรคนี้ได้ เพราะเด็กจะไม่มีอาการป่วย หรือแสดงอาการอะไรให้เห็นเลย และจะพบบ่อยมากที่สุดในเด็กอายุตั้งแต่ 2-4 เดือน ซึ่งสาเหตุของการเกิดโรคนี้มาจากการที่ทางเดินหายใจมีสิ่งกีดขวางในขณะที่นอนหลับอย่างเช่น ตุ๊กตา ผ้าห่ม หมอน และผู้ใหญ่นอนทับเป็นต้น
ป้องกันลูกเกิดภาวะ SIDS ได้อย่างไร
สำหรับวิธีป้องกันโรคSIDS หรือ โรคใหลตาย นั้นในปัจจุบันยังไม่มีวิธีป้องกัน แต่สามารถลดความเสี่ยงของการเกิดโรคนี้ได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้
- จัดท่านอนให้ลูกอย่างเหมาะสม โดยให้ลูกนอนหงายไม่ว่าจะเป็นนอนกลางวัน และกลางคืน
- ไม่สูบบุหรี่ภายในบ้าน และไม่นำเด็กไปยังที่ที่มีควันบุหรี่
- สวมชุดนอนที่พอดีตัวให้กับลูก เพื่อให้ร่างกายอบอุ่นแบบไม่ร้อนจนเกินไป และไม่ใช้ผ้าคลุมในบริเวณศีรษะของเด็กขณะที่นอนหลับ
- ไม่อยากให้ลูกเสี่ยงเกิดโรค หลับไม่ตื่น คุณแม่จะต้องหมั่นตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอทั้งก่อน และหลังตั้งครรภ์ รวมทั้งงดสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
- ให้ลูกใช้จุกหลอกในขณะที่นอนหลับ ทั้งนี้ไม่ควรใช้จุกหลอกที่มีสายคล้องคอเด็ก และไม่ควรผูกจุกหลอกไว้กับเสื้อผ้า หรือสิ่งของใดๆ เพราะจะเป็นอันตรายต่อเด็กได้
- หลีกเลี่ยงการใช้ที่นอนที่นิ่มหรือยุบตัวมากจนเกินไป เพื่อป้องกันลูกนอนใหลตาย
- ก่อนวางเด็กลงในเปล หรือที่นอน ให้นำสิ่งของอย่างเช่น หมอน ผ้าห่ม ตุ๊กตา และแผ่นรองกันชนออก รวมทั้งไม่ใช้แผ่นรองที่นิ่ม หรือหนามากเกินไป แต่ควรใช้ที่นอนที่แข็ง และผ่านการรับรองแล้วว่าปลอดภัย และผ้าปูที่นอนควรมีขนาดที่พอดีกับเปล หรือที่นอน
- ให้ลูกดื่มนมแม่จากเต้าอย่างน้อย 6 เดือน เพื่อให้เด็กตื่นตัวกับสิ่งเร้าได้ง่ายขณะที่นอนหลับ รวมทั้งนมแม่ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระไปยังทารก ช่วยป้องกันการติดเชื้อได้ดี
- ไม่ควรให้ลูกนอนเตียงเดียวกับพ่อแม่ ควรแยกให้เป็นสัดส่วน เพื่อป้องกันการนอนทับเด็ก เนื่องจากพ่อแม่ หรือผ้าห่มอาจจะไปปิดจมูก และปากของลูกขณะที่นอนหลับอยู่ หรือเด็กอาจจะดิ้นไปติดกับระหว่างเตียงกับฟูก จนทำให้ขาดอากาศหายใจ และหลับไม่ตื่น อีกเลย
- พาลูกไปรับการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคต่างๆ เนื่องจากมีงานวิจัยพบว่า การที่เด็กได้รับวัคซีนจะช่วยลดความเสี่ยง การเสียชีวิตจาก โรคใหลตาย ได้ถึง 50% เลยทีเดียว
โรคSIDS หรือโรค หลับไม่ตื่น เป็นโรคที่สามารถเกิดขึ้นได้กับเด็กทุกคน ถึงแม้ว่าจะเด็กจะมีสุขภาพที่แข็งแรง มีพัฒนาการที่ดี ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนก็ตาม เนื่องจากโรคดังกล่าวนี้เกิดจากสิ่งกีดขวางทางเดินหายใจขณะที่นอนหลับ เพราะฉะนั้นไม่อยากให้ลูกเสี่ยงที่จะเกิดโรคนี้ คุณพ่อคุณแม่จึงต้องใส่ใจ ดูแลลูกน้อยให้ดี ปฏิบัติคำแนะนำข้างต้น จะช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคนี้ลงได้
= = = = = = = = = = = =