คุณพ่อคุณแม่รู้ไหมว่าการอ่านนิทานให้กับลูกฟังบ่อยๆ เป็นเหมือนการเปิดโลกแห่งจินตนาการให้กับลูก มีผลวิจัยออกมาว่าเด็กที่พ่อแม่อ่านนิทานให้ฟังตั้งแต่ยังเด็กบ่อยๆ จะเป็นเด็กที่มีจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์มากกว่าเด็กที่พ่อแม่ไม่เคยอ่านให้ฟัง เพราะในนิทานจะสอดแทรกแง่คิด คุณธรรม พร้อมกับจริยธรรมเอาไว้ ทำให้เด็กที่ได้อ่านได้ฟังบ่อยๆ เกิดความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ สร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็กๆ ได้ โดยการเลือกหนังสือให้เหมาะกับเด็กนั้นก็สำคัญ เพราะเด็กในแต่ละช่วงวัยจะมีความสามารถในการรับรู้ที่แตกต่างกันออกไป เลือก หนังสือนิทาน อย่างไรให้เหมาะกับวัยของลูก วันนี้เรามีวิธีเลือกมาแนะนำ ถ้าพร้อมแล้วมาดูกันเลยดีกว่า
หลักในการเลือกหนังสือนิทาน ให้เหมาะกับช่วงวัยของลูก
หากพูดถึง หนังสือนิทาน คุณพ่อคุณแม่ก็คงจะรู้ดีว่า มีผลต่อพัฒนาการของลูกมากๆ เพราะในนิทานมักจะสอดแทรกข้อคิด ความรู้ คุณธรรม และจินตนาการเอาไว้ การที่ลูกได้ยินได้ฟังบ่อยๆ จะทำให้มีพัฒนาการทั้งในด้านภาษา และพัฒนาการสมองเกี่ยวกับจินตนาการความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น ช่วยให้ความจำดี มีนิสัยรักในการอ่านมากขึ้น ซึ่งเด็กในแต่ละวัยนั้นจะมีความสามารถในการรับรู้ที่แตกต่างกันออกไป คุณพ่อคุณแม่จำเป็นจะต้องเลือกหนังสือให้เหมาะกับวัยของลูก โดยหลักในการเลือกหนังสือให้เหมาะกับลูกในแต่ละช่วงวัยนั้นก็จะมีดังนี้

การเลือกหนังสือนิทานสำหรับเด็กวัย 0-1 ปี
ในวัย 0-1 ปี วัยนี้จะเป็นช่วงที่มีพัฒนาการด้านการมองเห็น เด็กจะมองเห็น หนังสือนิทาน เป็นเพียงของเล่นชิ้นหนึ่งที่สีสันสดใส ทรงสี่เหลี่ยม และเด็กก็จะรู้สึกสนุกมากขึ้นเมื่อเปิดเข้ามาในหนังสือและพบกับรูปภาพต่างๆ ที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิตจริง อย่างเช่นรูปการ์ตูน รูปสัตว์ต่างๆ เป็นต้น โดยหนังสือที่เหมาะสมสำหรับเด็กวัยนี้ก็จะเป็นหนังสือที่มีสีสันสดใส ไม่ต้องมีคำบรรยาย ภาพประกอบชัดเจนเป็นเหมือนภาพจริง เช่นรูปสัตว์ต่างๆ รูปผัก ผลไม้ จะเป็นหนังสือที่ทำจากผ้า หรือพลาสติกที่หนาหนุ่ม ไม่เป็นอันตรายต่อเด็กเมื่อเวลาหยิบเล่น

การเลือกหนังสือนิทานสำหรับเด็กวัย 2-3 ปี
ในวัย 2-3 ปี เด็กวัยนี้จะมีพัฒนาการด้านภาษาอย่างรวดเร็ว วัยนี้จะมีความอยากรู้อยากเห็นสิ่งรอบตัวมากขึ้น และจะชอบที่สุดเมื่อคุณพ่อคุณแม่อ่านหนังสือให้ฟังบ่อยๆ และเล่มไหนที่เป็น นิทานเด็ก เล่มโปรดก็จะชอบให้อ่านให้ฟังซ้ำ โดยไม่มีเบื่อ ซึ่งก็จะเป็นประโยชน์มากต่อพัฒนาการด้านภาษาของลูก คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรเบื่อที่จะอ่าน หนังสือนิทาน ให้ลูกฟัง เพราะยิ่งอ่านก็เป็นเหมือนการฝึกนิสัยรักการอ่านให้กับลูกไปในตัว เป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างนิสัยรักการอ่านให้กับลูกในอนาคต โดย หนังสือนิทาน ที่เหมาะสำหรับเด็กวัยนี้ควรเป็นหนังสือที่มีภาพสีสันสวยงาม เน้นเรื่องราวที่ไม่ซับซ้อน คำบรรยายเป็นประโยคสั้นๆ หรือคำคล้องจองเพื่อให้ลูกจดจำได้ง่ายขึ้น

การเลือกหนังสือนิทานสำหรับเด็กวัย 4-6 ปี
เด็กในวัย 4-6 ปีวัยนี้จะมีความคิดและจินตนาการมากขึ้น เริ่มอยากเรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติและสภาพแวดล้อมรอบตัวมากขึ้น วัยนี้จะมีคำถามมากมายอยู่ในหัว ว่าสิ่งนี้มาจากไหน และทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้ และก็จะเริ่มเข้าใจความแตกต่างระหว่างความจริงและเรื่องสมมติ การให้ลูกหัดอ่าน นิทานเด็ก ที่สนใจ หรือจะอ่านให้ลูกฟัง จะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการและจินตนาการความคิดสร้างสรรค์มากขึ้นหนังสือนิทานที่เหมาะสำหรับลูกวัยนี้ จึงควรเป็น หนังสือนิทาน ที่มีเรื่องราวที่ยาวขึ้น เข้าใจง่าย และที่สำคัญจะต้องอิงจากความจริงอยู่บ้างอย่างเช่น เรื่องเจ้าหญิง เจ้าชาย ที่สอดแทรกเรื่องคุณธรรม มีภาพประกอบที่สวยงาม ภาษาที่ใช้เข้าใจง่าย ตัวหนังสือไม่บรรยายมากเกินไป มีขนาดที่พอดีไม่เล็กและใหญ่จนเกินไป

การเลือกหนังสือนิทานสำหรับเด็กวัย 7-10 ปี
เด็กในวัย 7-10 ปี เป็นวัยที่เติบโตพอสมควร วัยนี้จะมีพัฒนาการทางด้านภาษา คณิตศาสตร์ และความคิดที่มีเหตุมีผลมากขึ้น วัยนี้เป็นวัยที่สามารถเรียนรู้หลายๆ สิ่งรอบตัวพร้อมกันในเวลาเดียว และสามารถเรียนรู้เรื่องราวที่ซับซ้อนและเขาสนใจจริงๆ คุณพ่อคุณแม่จึงควรเลือก นิทานเด็ก ที่ลูกสนใจ หรือให้ลูกเป็นคนหยิบจับเลือกเองตามความเหมาะสมกับวัยของลูก โดยที่ไม่ต้องบังคับให้ลูกอ่านในสิ่งที่ลูกไม่ชอบ เพราะจะทำให้ลูกไม่อยากสนใจในการอ่าน แต่หากเขาได้เลือกในสิ่งที่เขาสนใจก็จะทำให้เขากล้าเข้าสู่โลกแห่งการเรียนรู้ที่ไร้ขอบเขต และหนังสือนิทาน ที่เหมาะสำหรับเด็กวัยนี้ก็คือ หนังสือนิทาน เรื่องยาวที่สามารถอ่านให้ลูกฟังเป็นตอนๆ ได้ หรือจะเป็นหนังสือเกี่ยวกับแนวผจญภัย ที่ชวนให้สนุกตื่นเต้น กับการสร้างจินตนาการ หรือจะเป็นแนวสืบสวนสอบสวนก็ได้ เพราะจะยิ่งช่วยให้ลูกมีความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการตามไปด้วยในเวลาอ่าน
การอ่าน หนังสือนิทาน ให้ลูกฟังบ่อยๆ จะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการให้กับลูก พร้อมยังช่วยให้ลูกมีจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องการให้ลูกเติบโตมาเป็นเด็กที่ฉลาดมีความคิดสร้างสรรค์ การอ่านหนังสือให้ลูกฟังบ่อยๆ ช่วยได้ เพราะในหนังสือสอดแทรกความรู้ แนวคิด ทัศนคติ และจริยธรรมในการใช้ชีวิต และเมื่อลูกได้ยินได้ฟังบ่อยๆ เติบโตมาก็จะดำเนินชีวิตที่ดีขึ้นได้
= = = = = = = = = = = =