เคยไหม ลูกดิ้นน้อยหรือเบามากจนแทบสัมผัสถึง การดิ้นของลูก ไม่ได้ ทำให้คุณพ่อคุณแม่เกิดความกังวลเป็นอย่างมาก ว่าลูกผิดปกติหรือเปล่า ทั้งที่ความจริงแล้วลูกอาจเพียงแค่ดิ้นเบาเกินไปหรือกำลังนอนหลับอยู่เท่านั้นเอง ดังนั้นก่อนจะกังวลไปไกล เรามีวิธีการทดสอบว่าลูกยังคงดิ้นปกติหรือไม่มาฝากกัน นั่นคือการกระตุ้นให้ลูกดิ้นนั่นเอง โดยมีวิธีการกระตุ้นดังต่อไปนี้
เคล็ดลับกระตุ้น การดิ้นของลูก
สำหรับเคล็ดลับการกระตุ้นเพื่อให้ลูกดิ้นดีกว่าเดิมก็ทำได้ไม่ยาก โดยมีเคล็ดลับอะไรบ้างนั้นก็ต้องไปดูกันเลย
1.เปิดเพลงจังหวะเพลินๆ
เพราะลูกน้อยในท้องสามารถรับรู้ได้ และแน่นอนว่าเขาก็ชอบเสียงเพลงเป็นอย่างมากอีกด้วย ดังนั้นเพียงแค่คุณแม่เปิดเพลงที่มีจังหวะเพลิดเพลินฟัง ก็จะทำให้เจ้าตัวน้อยตอบสนองด้วยการดิ้นมากขึ้น เพื่อบอกให้แม่รู้ว่าเขาชอบและถูกใจเสียงเพลงที่แม่เปิดให้ฟังนั่นเอง
2.เปลี่ยนท่าบ้าง
บางทีการที่คุณแม่นอนท่าใดท่าหนึ่งนานๆ อาจทำให้ลูกน้อยรู้สึกไม่ค่อยชอบใจมากนัก หรืออาจเป็นท่าที่สัมผัสถึงการดิ้นของลูกได้เบามาก จึงเข้าใจว่าลูกไม่ค่อยดิ้นเลย ดังนั้นลองเปลี่ยนท่านอนบ้างดูสิ เช่น เปลี่ยนจากนอนหงายเป็นนอนตะแคง เปลี่ยนจากการนอนตะแคงเป็นนอนคว่ำ เป็นต้น แต่ทั้งนี้จะนอนท่าไหนก็ต้องดูตามความเหมาะสมด้วย เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อลูกน้อยในครรภ์ หรือทำให้คุณแม่รู้สึกไม่ค่อยสบายตัวนั่นเอง
3.ดื่มน้ำที่เย็นจัด
คุณแม่รู้ไหมว่าการดื่มน้ำที่มีความเย็นจัด ก็จะช่วยกระตุ้นให้ลูกดิ้นดีขึ้นได้เหมือนกัน เพราะบางครั้งการที่คุณสัมผัสถึงการดิ้นของลูกไม่ได้ อาจเป็นเพราะลูกกำลังนอนหลับอยู่ ซึ่งการดื่มน้ำเย็นจัดเข้าไป ก็จะไปปลุกให้เจ้าตัวน้อยตื่นและลุกขึ้นมาดิ้นแสดงถึงความซุกซนให้คุณแม่สัมผัสได้นั่นเอง
4.กินของหวาน
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ การกินของหวานจะทำให้ลูกดิ้นดีขึ้นได้ ซึ่งก็รับรองเลยว่าแค่กินของหวานแล้วรอประมาณ 2-3 นาที เจ้าตัวน้อยจะดิ้นให้คุณสัมผัสได้อย่างแน่นอน แต่ทั้งนี้ก็ไม่ควรกินมากหรือกินบ่อยเกินไปเด็ดขาด เพราะอาหารของหวานหรือขนมหวานจะทำให้อ้วนหรือเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวานในขณะตั้งครรภ์ได้
5.กดท้องเบาๆ
การกดท้องด้านใดด้านหนึ่งเบาๆ จะทำให้ลูกรู้ว่าแม่กำลังทักทายเขาอยู่ และส่วนมากเจ้าตัวน้อยก็จะตอบกลับมาทันที ด้วยการดิ้นเพื่อสัมผัสกับคุณแม่นั่นเอง เอาเป็นว่าลองทำการกันดู แล้วคุณจะสัมผัสถึงการดิ้นของลูกน้อยได้ไม่ยาก
ลูกดิ้นแบบไหน บ่งบอกว่าอันตราย
การดิ้นของลูกเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างมาก ซึ่งคุณแม่ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด โดยทั้งนี้หากพบว่าลูกไม่ดิ้นเลย แม้ว่าจะได้มีการกระตุ้นการดิ้นของลูกตามวิธีข้างต้นไปแล้ว ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วน เพราะอาจเป็นอันตรายได้ โดยมีลักษณะการดิ้นที่ควรรีบไปหาหมออย่างเร่งด่วนดังนี้
- ลูกดิ้นไม่ถึง 10 ครั้ง ใน 4 ชั่วโมง
- ลูกหยุดดิ้นไปเป็นเวลานานถึง 12 ชั่วโมง
- ลูกดิ้นน้อยกว่าปกติมากจนน่าตกใจ เช่น จากปกตินับลูกดิ้นได้ไม่ต่ำกว่า 10 ครั้งใน 1 ชั่วโมง แต่วันนี้กลับนับลูกดิ้นได้แค่ 1-2 ครั้งภายใน 1 ชั่วโมงเท่านั้น
ลูกดิ้นน้อย อาจมาจากสาเหตุเหล่านี้
สำหรับสาเหตุที่ทำให้ลูกดิ้นน้อยลง อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน ซึ่งอาจจะไม่ได้อันตรายแบบที่หลายคนคิดก็ได้ โดยมีสาเหตุที่ทำให้ลูกดิ้นน้อยดังต่อไปนี้
1.ทารกกำลังนอนหลับ
ทารกในครรภ์ก็เหมือนกับเด็กทั่วๆ ไป ที่ต้องมีการนอนหลับบ้าง ดังนั้นการที่ลูกดิ้นน้อยหรือไม่ดิ้นเลยในบางช่วงเวลา อาจเป็นเพราะว่าเขากำลังนอนหลับอยู่ก็ได้ ซึ่งก็ไม่ต้องกังวลไป ลองสังเกตดูว่าในระหว่างวันลูกยังคงดิ้นครบ 10 ครั้งอยู่หรือไม่
2.ทารกมีขนาดตัวใหญ่
สาเหตุนี้มักจะพบในช่วงไตรมาสที่ 3 ใกล้คลอด เนื่องจากทารกมีขนาดตัวใหญ่ขึ้น ทำให้เคลื่อนไหวได้ยากกว่าปกติ จึงรู้สึกว่าลูกดิ้นน้อยลง อย่างไรก็ตาม หากลูกยังคงดิ้นครบ 10 ครั้งขึ้นไปใน 1 วัน ก็ยังไม่ต้องกังวลเพื่อถือเป็นเรื่องปกติของทารกในช่วงอายุครรภ์แก่ใกล้คลอดนั่นเอง
การดิ้นของลูกเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด เพราะนั่นเป็นสัญญาณที่บ่งบอกได้ถึงการมีชีวิตอยู่ของลูก ทั้งนี้หากพบว่าลูกดิ้นน้อยหรือเบามาก ให้ลองกระตุ้นตามคำแนะนำข้างต้นดู แต่หากทำทุกวิถีทางแล้วก็ยังแทบสัมผัสถึงการดิ้นของลูกไม่ได้อยู่ดี ก็ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วน อย่าได้รอช้าเด็ดขาด
= = = = = = = = = = = =
ติดตามความรู้ดี ๆ และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่
https://www.facebook.com/teamkonthong/
We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about how can you grow up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or have any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook
https://www.facebook.com/teamkonthong/
บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..