เด็กเล็กเป็นวัยที่ชอบเรียนรู้ ด้วยการหยิบสิ่งของเข้าปาก หากคุณแม่เผลอเรอแล้วลูกหยิบสิ่งแปลกปลอมเข้าปากจนเกิดติดคอลูกขึ้นมาจะต้องทำอย่างไร มีอันตรายมากหรือไม่ วันนี้เรามีคำแนะนำในการช่วยเหลือ เมื่อลูกมีสิ่งแปลกปลอมติดคอ พร้อมทั้งวิธีป้องกันมาฝากกันค่ะ
อันตรายแค่ไหน เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมติดคอลูก
การเลี้ยงดูเด็กเล็กจำเป็นต้องเก็บกวาดสิ่งของต่างๆ ให้พ้นมือเด็ก หรือหากมีเหตุสุดวิสัยที่เด็กได้ไปหยิบเอาสิ่งแปลกปลอมเข้าปากอมไว้ในปากจนหลุดติดคอ โดยเฉพาะเม็ดกระดุม หรือเมล็ดผลไม้เล็กๆ อย่างเช่นเมล็ดส้ม เมล็ดลำไย เมื่อเด็กอมหรือกลืนลงไปอาจจะเล็ดลอดลงไปปิดกั้นทางเดินหายใจ จนทำให้เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ หรือในบางรายที่ช่วยเหลือได้ แต่ก็สายไปแล้วเพราะสิ่งแปลกปลอมมีการอุดกั้นทางเดินหายใจนานเกินไป ทำให้ออกซิเจนไปเลี้ยงสมองไม่ได้ สมองบางส่วนหยุดทำงาน จนทำให้เด็กกลายเป็นเจ้าหญิงนินทรา นอนหลับไปชั่วชีวิต
วิธีรับมือเมื่อลูกอายุน้อยกว่า 1 ขวบ
เมื่อลูกมีสิ่งแปลกปลอมหลุดเข้าไปในคอคุณแม่ควรทำวิธีการดังนี้
1.ห้ามล้วงเข้าไปในคอหากมองไม่เห็นวัตถุสิ่งแปลกปลอมที่ติดอยู่ที่คอ รวมทั้งไม่ควรจับเด็กห้อยหัวแล้วตบหลังเด็ดขาดเพราะจะทำให้สิ่งแปลกปลอมหลุดเข้าไปลึก จนทำให้อุดหลอดลมได้
2.รีบปฐมพยาบาลเบื้องต้นโดยจับเด็กนอนคว่ำบนท่อนแขนให้ส่วนศีรษะต่ำกว่าลำตัว ใช้มือข้างไม่ถนัดจับบริเวณขากรรไกร เพื่อช่วยประคองคอ แล้วใช้สันมือข้างที่ถนัดกระแทกกึ่งกลางสะบักของเด็กอย่างแรง 5 ครั้ง
3.จับเด็กนอนหงายบนท่อนแขนหายศีรษะต่ำกว่าลำตัว กดนิ้วชี้กับนิ้วกลางลงบนกระดูกกึ่งกลางหน้าอกต่ำกว่าระดับหัวนมเล็กน้อย และกดติดต่อกันเร็วๆ 5 ครั้ง
4.ทำสลับไปมาระหว่างใช้ส้นมือกระแทกหลัง 5 ครั้ง และกดกระแทกหน้าอก 5 ครั้งไปเรื่อยๆ จนกว่าสิ่งแปลกปลอมจะหลุดออกมา
5.หากเด็กหมดสติให้รีบนำส่งโรงพยาบาล และกดหน้าอกทันทีโดยไม่ต้องคลำชีพจร โดยกดหน้าอก 30 ครั้งสลับกับช่วยหายใจ 2 ครั้งจนกว่าจะถึงโรงพยาบาล
วิธีรับมือเมื่อลูกอายุมากกว่า 1 ขวบ
การรับมือกรณีเด็กอายุมากกว่า 1 ขวบมีสิ่งแปลกปลอมหลุดเข้าไปในคอสามารถทำได้ดังนี้
1.หากเด็กยังหายใจได้ พูดได้ให้ทำการตบหลังเบาๆก่อน เพื่อช่วยกระตุ้นสิ่งแปลกปลอมให้หลุดออกมา สำหรับเด็กที่เป็นมากจนพูดไม่ได้ ให้ยืนข้างหลังเด็กสอดแขนเข้าใต้รักแร้เพื่อโอบรอบตัว
2.แล้วกำมือข้างหนึ่ง ให้ด้านนิ้วหัวแม่มือวางบริเวณกึ่งกลางท้องเด็ก สูงกว่าสะดือเล็กน้อย และใช้มือจับมือข้างที่กำอยู่แล้วรัดให้แน่น กระตุกขึ้นพร้อมกันแรงๆ จนกว่าสิ่งที่ติดคอจะหลุดออกมา หรือมีเสียงเล็ดรอดออกมาได้
3.ในกรณีที่เด็กหมดสติให้นำส่งโรงพยาบาลทันที พร้อมกับรีบช่วยให้ฟื้นโดยจับนอนหงายบนพื้น ใช้มือยกคางขึ้นและดันศีรษะเด็กให้แหงนไปข้างหลังให้มากที่สุด เพื่อช่วยเปิดทางเดินหายใจ
4.รีบช่วยให้เด็กหายใจทันที โดยใช้นิ้วชี้และนิ้วโป้งบีบจมูกและเป่าลมเข้าปาก 2 ครั้ง มองหาสิ่งแปลกปลอมในปากก่อนช่วยหายใจ หากมองเห็นสิ่งแปลกปลอมอยู่ในปากเด็ก ให้ใช้นิ้วล้วงสิ่งแปลกปลอมออกมาก่อน แต่หากมองไม่เห็นหรือไม่มั่นใจว่ามีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในปากห้ามใช้นิ้วกวาดเด็ดขาด เพราะจะทำให้สิ่งแปลกปลอมหลุดเข้าไปอุดกั้นทางเดินหายใจอีกครั้ง
5.ให้ทำการกดหน้าอกและช่วยการหายใจอย่างต่อเนื่อง โดยกดหน้าอก 30 ครั้งช่วยหายใจ 2 ครั้งทำซ้ำประมาณ 5 รอบหรือ 2 นาทีจนกว่ารถพยาบาลที่มีเครื่องมือพร้อมจะมาถึง หรือสิ่งแปลกปลอมออกมาได้แล้ว
คุณแม่ป้องกันได้ด้วยวิธีเหล่านี้
การป้องกันไม่ให้เกิดเหตุสิ่งแปลกปลอมติดคอลูกย่อมเป็นสิ่งดีที่สุดคุณพ่อคุณแม่ควรจะทำสิ่งเหล่านี้
1.จัดเก็บข้าวของให้เป็นระเบียบเรียบร้อย สิ่งของที่เป็นขนาดเล็กเช่น กระดุม น๊อต เข็มหมุด กี๊ปหนีบกระดาษ ลวดเย็บกระดาษ ควรเก็บใส่กล่องให้มิดชิด และพ้นมือเด็ก
2.สอนให้เด็กกินอาหารอย่างช้าๆ โดยค่อยๆ เคี้ยวไม่ต้องรีบร้อน และไม่ให้เด็กนอนราบกินอาหาร หลีกเลี่ยงการซื้อขนมที่ลื่นๆ หยุ่นๆ ประเภทเยลลี่ให้ลูกกินในวัยที่ยังไม่มีฟันเคี้ยว เพราะจะทำให้เกิดลื่นหลุดลงคอ หรือเกิดสำลักจนไปปิดกั้นการหายใจได้
3.สอนเด็กให้รู้ว่าสิ่งใดคืออาหารที่กินได้ สิ่งใดไม่ใช่อาหารไม่ควรนำเข้าปากเด็ดขาด
4.ขณะกินอาหารไม่ควรให้เด็กวิ่งเล่น พูดคุย หรือเล่าเรื่องขำๆ จนหัวเราะ ทั้งที่มีอาหารอยู่ในปากจนเป็นเหตุให้อาหารลูกลื่นหลุดลงไปในคอได้ง่าย
5.ผลไม้ที่มีเมล็ด เช่น ส้ม องุ่น ลำไย ลิ้นจี่ แตงโม น้อยหน่า ละมุด พุทรา ลองกอง มังคุด ควรเอาแต่เนื้อให้ลูกกิน นำเมล็ดไปทิ้งทันที เพราะในเด็กเล็กยังไม่มีฟันสำหรับเคี้ยว จึงแยกไม่ออกว่านั่นคือเมล็ด เด็กจึงกลืนลงท้อง หากกลืนไม่ลงก็เป็นเหตุให้มีการติดคอได้
การดูแลลูกในช่วงวัยเด็กเล็กคุณพ่อคุณแม่ควรเอาใจใส่ทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะช่วงเวลาไหนล้วนแต่มีความสำคัญกับเด็กทั้งสิ้น เมื่อเด็กได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด ก็สามารถหลีกเลี่ยงการเกิดสิ่งแปลกปลอมหลุดเข้าไปติดที่คอได้ แต่ทั้งนี้ เหตุไม่คาดฝันก็สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ความไม่ประมาทเป็นสิ่งที่ดีที่สุด แต่หากเกิดเหตุขึ้นแล้วขอให้คุณพ่อคุณแม่มีสติ แล้วทำตามคำแนะนำที่กล่าวมาข้างต้น ก็จะช่วยแก้ปัญหาและป้องกันได้
= = = = = = = = = = = =
ติดตามความรู้ดี ๆ และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่
https://www.facebook.com/teamkonthong/
We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about how can you grow up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or have any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook
https://www.facebook.com/teamkonthong/
บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..