การผ่าคลอด เป็นทางเลือกของคุณแม่ที่ต้องการกำหนดวันคลอดให้ลูก หรืออีกบางส่วนเป็นเพราะคุณแม่ที่มีปัญหาสุขภาพจึงต้องผ่าตัดคลอด ซึ่งแผลผ่าคลอดก็จะแตกต่างกันไป แล้วแต่คุณหมอจะเป็นผู้พิจารณาว่าจะเย็บด้วยไหมชนิดไหน บางรายอาจจะใช้แม็กเย็บแผลเพื่อความสะดวกรวดเร็ว ซึ่งมีข้อดีหลายประการ วันนี้เรามาทำความรู้จักกับการผ่าคลอดแบบใช้แม็กว่าเป็นอย่างไร ใช้แล้วคุณแม่จะเจ็บแผล เมื่อต้องเอาลวดที่เย็บแผลออกหรือไม่ มาดูกันเลยค่ะ

การผ่าคลอดแบบใช้ แม็กเย็บแผล

การผ่าคลอดแล้วใช้แม็กเย็บแผล เป็นทางเลือกของแพทย์ผู้ทำคลอด ที่จะนำมาใช้กับคุณแม่หลังการผ่าคลอด ด้วยการผ่าตัดคลอดทางหน้าท้อง เพื่อนำทารกออกมา แพทย์จะใช้การผ่าตัดได้ทั้ง 2 แบบคือทั้งการผ่าคลอดแนวตั้งตามความยาวของลำตัวคุณแม่ และแนวนอนหรือผ่าตามขวางของลำตัว เมื่อการคลอดเสร็จสิ้นแล้วแพทย์ผู้ทำคลอดจะใช้แม็กเย็บแผล หรือการใช้ลวดเย็บ ซึ่งทำด้วยวัสดุที่มีปฏิกิริยาต่อเนื้อเยื่อน้อย แต่มีประโยชน์ในการป้องกันแผลผ่าตัดไม่ให้เกิดการติดเชื้อ หรืออักเสบได้ นอกจากนี้ยังสามารถเย็บแผลได้เร็ว สะดวกกว่าการเย็บแผลแบบใช้ไหม ไม่เจ็บตอนถอดลวดออก และแม็กที่เย็บก็มีความแข็งแรงทนทาน ไม่หลุดง่าย ทำให้แผลสวยอีกด้วย ซึ่งวิธีการใช้แม็กเย็บแผลนี้ จะสะดวกในการเย็บแผลที่มีความชื้น หรือมีเลือดไหลออกมาก็สามารถเย็บได้ ต่างจากการผ่าคลอดและเย็บด้วยไหม อาจจะต้องคอยซับเลือดให้แห้งแล้วจึงลงมือเย็บได้

กี่วันหมอถึงจะนัดเอาแม็กออก

เมื่อคุณหมอได้ผ่าตัดคลอดและใช้แม็กเย็บแผลให้คุณแม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แผลก็จะติดสนิทหลังจากแผลประสานกันดีแล้ว คุณหมอก็จะนัดมาเพื่อดึงเอาลวดที่เย็บแผลไว้ออกจากผิวหนัง ซึ่งปกติแล้วแผลจะสมานกันได้ดีในเวลา 7 -14 วันนั่นเองค่ะ

การเอาแม็กเย็บแผลออก เจ็บไหม

การเอาแม็กเย็บแผลออกส่วนใหญ่จะไม่ทำให้เกิดอาการเจ็บแผลแต่ประการใด แต่ในคุณแม่บางรายอาจจะทำให้รู้สึกเจ็บจี๊ดๆ เบาๆ ได้บ้างเช่นกัน ทั้งนี้ต้องบอกเลยว่าไม่ได้น่ากลัวเลย

คำแนะนำการดูแลแผลหลังผ่าคลอด

หลังการผ่าตัดคลอดลูก คุณแม่ควรดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง เพื่อไม่ให้กระทบกระเทือนถึงบาดแผลผ่าตัด มาดูกัน

1.ไม่ยกของหนักในช่วง 6 สัปดาห์แรกหลังผ่าคลอด

การยกของหนักทุกชนิด ควรงดหลังผ่าคลอดเป็นเวลา 6 สัปดาห์ เพื่อป้องกันไม่ให้บาดแผลเกิดการปริแยก เนื่องจากมีการเกร็งบริเวณหน้าท้อง ซึ่งจะทำให้กล้ามเนื้อมีการเกร็งตัว และอาจทำให้บาดแผลได้รับความกระทบกระเทือนได้ เช่นการหิ้วของในปริมาณที่มาก ถึงแม้ตอนตั้งครรภ์เคยทำมาก็ตาม แต่ขณะหลังคลอดควรงดไปก่อน นอกจากนี้การทำงานบ้านบางอย่างที่ต้องออกแรงในการทำ เช่นการถูบ้าน การยกกะละมังอาบน้ำลูก รวมถึงการยกตะตร้าผ้าจำนวนมากไปตากที่ราว

2.หมั่นล้างแผลและทำความสะอาดผิวอย่างสม่ำเสมอ

ควรทำความสะอาดบริเวณรอบๆ แผลผ่าตัด ด้วยแอลกอฮอล์ให้สะอาดอยู่เสมอ เพื่อช่วยกำจัดเชื้อโรค และป้องกันการหมักหมมของเชื้อโรค ที่อาจเล็ดลอดเข้าสู่บาดแผลได้ ทุกครั้งที่มีการทำแผลต้องล้างมือให้สะอาดก่อนเสมอ และห้ามใช้มือจับ หรือสัมผัสบาดแผล

3.คุณแม่ควรกินอาหารให้ครบ 5 หมู่

ซึ่งอาหารจะช่วยให้แผลผ่าตัดหายได้เร็วขึ้น เน้น โปรตีน เนื้อสัตว์ นม ไข่ ถั่วเหลือง และถั่วเมล็ดแห้ง กินคู่กับอาหารที่มีวิตามินซีที่จะช่วยสร้างผนังของเซลล์ ทำให้เส้นเลือดฝอยแข็งแรง ไม่ก่อให้เกิดการอักเสบ ช่วยให้การไหลเวียนโลหิตดีขึ้นอีกด้วย แผลจะหายเร็วขึ้น

4.ไม่ดึงปลายไหมเย็บแผลที่โผล่ออกมา

กรณีที่เย็บด้วยไหม อาจมีเส้นไหมที่หลุดออกมา คุณแม่ควรแจ้งแพทย์ทราบ เพื่อจะได้เล็มปลายไหมให้เรียบร้อยเป็นการป้องกันเส้นไหมไปเกี่ยวกับเสื้อผ้า จนทำให้แผลอักเสบและติดเชื้อได้

5.ห้ามลงแช่น้ำในอ่าง

การอาบน้ำหลังคลอด อาจจะใช้ขันตักน้ำจากภาชนะรองรับ ห้ามลงแช่น้ำในอ่างอาบน้ำ ในสระว่ายน้ำในแม่น้ำ ลำคลอง หรืออาจใช้การอาบน้ำจากฝักบัว จะลดโอกาสการติดเชื้อที่จะเข้าสู่บาดแผลได้

6.อาบน้ำด้วยสบู่ที่มีฤทธิ์อ่อน

ขณะอาบน้ำไม่ควรฟอกสบู่ เจลอาบน้ำ หรือทาแป้งลงบนแผลโดยตรง และเมื่ออาบน้ำเสร็จแล้วควรซับแผลให้แห้งด้วยผ้าสะอาดทุกครั้ง นอกจากนี้ควรสวมเสื้อผ้า และกางเกงชั้นในที่หลวม จะช่วยป้องกันการเสียดสีของเสื้อผ้ากับบาดแผลบริเวณที่ใช้แม็กเย็บแผลไว้ได้

7.ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยากินหรือยาทาสำหรับรักษาแผลผ่าคลอดทุกครั้ง

Sponsored

หากมีความจำเป็นต้องกินยา หรือทายาเพื่อใช้รักษาแผลผ่าคลอด ควรขอคำแนะนำจากแพทย์ทุกครั้ง

8.หมั่นเช็ดบริเวณผิวหนังที่เป็นรอยพับเหนือแผลผ่าตัดให้แห้งอยู่เสมอ

บริเวณเหนือแผล ซึ่งจะเป็นรอยพับของผิวหนังบริเวณหน้าท้อง มักจะมีความอับชื้นเกิดขึ้นได้ คุณแม่ควรหมั่นทำความสะอาด และเช็ดให้แห้งอยู่เสมอ จะช่วยป้องกันรักษาให้แผลผ่าตัดหายเร็วขึ้น

9.ควรพบแพทย์ทันทีในกรณีที่พบสัญญาณการเกิดแผลติดเชื้อ

หากมีความผิดปกติเกี่ยวกับบาดแผล ควรพบแพทย์ทันที เช่น เกิดรอยแดงที่แผล แผลมีน้ำเหลืองไหลซึมและมีกลิ่นเหม็นร่วมด้วย มีตุ่มหนองเกิดขึ้น รวมถึงการมีไข้ขึ้นสูง ต้องรีบไปพบแพทย์ทันที

10.ขอคำแนะนำจากแพทย์ในการอุ้มลูก อย่างถูกวิธี

ในการอุ้มลูกเพื่อให้ดื่มนมแม่ คุณควรได้รับการแนะนำ ถึงท่าอุ้มลูก ที่ลดโอกาสของน้ำหนักตัวลูกจะกดทับลงบนแผลผ่าคลอดของคุณแม่ จนทำให้แผลเกิดอักเสบ บวมแดงหรือปริแตก

เย็บแผลหลังผ่าคลอดมีหลายวิธีการที่แพทย์จะใช้วัสดุในการเย็บแผล การเย็บด้วยแม็กเย็บแผลก็เป็นวิธีหนึ่งที่ได้รับความนิยม เพราะมีความสะดวก รวดเร็ว และทำให้มีความปลอดภัย ลดการเกิดแผลอักเสบหลังผ่าตัดได้ดี ทั้งนี้คุณแม่ควรปรึกษาคุณหมอที่ทำคลอด ว่าจะใช้การผ่าคลอดและเย็บด้วยวิธีการไหน ที่จะเหมาะสม ซึ่งการผ่าตัดคลอดและเย็บแผลหลังผ่าตัดทุกวิธี ก็ล้วนแต่ช่วยให้คุณแม่มีความปลอดภัยได้ทั้งสิ้น และนอกจากนี้อย่าลืมดูแลแผลผ่าคลอดย่างถูกวิธีด้วย

= = = = = = = = = = = =

ติดตามความรู้ดี ๆ  และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่ https://www.facebook.com/teamkonthong/

We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about growing up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook

https://www.facebook.com/teamkonthong/

บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..

1.ผ่าคลอดกี่วัน ขับรถได้? และคำแนะนำดีๆ ที่คุณแม่ต้องอ่าน

2.ผ่าคลอด มีลูกได้กี่คน? และคำแนะนำสำหรับคนท้องที่เคยผ่าคลอดมาก่อน