คุณแม่ที่เป็นซิงเกิ้ลมัมในยุคนี้มีมากขึ้น เรื่องสำคัญในการเลี้ยงลูกคนเดียว คือต้องแบกรับภาระทุกอย่างไว้คนเดียว หากคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวได้ศึกษาแนวทางในการเลี้ยงดูลูกไว้บ้าง ก็จะทำให้การเลี้ยงดูลูกเป็นไปได้ง่าย ซึ่งเป็นแนวทางที่จะช่วยให้คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวหลายๆ คนพร้อมรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างมั่นใจ ทั้งนี้เราไปดูคำแนะนำเหล่านี้กันเลยดีกว่า
ซิงเกิ้ลมัม เลี้ยงลูกคนเดียว ไม่แย่อย่างที่คิด
หากคิดว่าพร้อมจะเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว สามารถเลี้ยงลูกคนเดียวได้ ไม่ว่าสถานการณ์บังคับจากการที่ลูกสูญเสียคุณพ่อ หรือว่าฝ่ายคุณพ่อแยกทางไป จนทำให้คุณแม่ต้องลุกขึ้นสู้กับชีวิตมาเลี้ยงลูกคนเดียว เป็นทั้งคุณพ่อคุณแม่ในเวลาเดียวกัน คุณแม่หลายคนก็ทำได้ดี และมีความสุขกับการเลี้ยงดูลูกเพียงคนเดียว การตัดสินใจคนเดียว นับว่าเป็นการดีที่จะคิดหรือทำสิ่งใดได้อย่างอิสระและอยู่บนแนวทางที่ถูกต้อง ซึ่งคุณแม่หลายๆ ท่านก็เลี้ยงดูลูกเพียงคนเดียวได้ดี และประสบความสำเร็จมานักต่อนักแล้ว
คำแนะนำ การเลี้ยงลูกคนเดียว
การเลี้ยงลูกคนเดียว คุณแม่ต้องรับบทบาททั้งคุณพ่อ คุณแม่ และเป็นเพื่อนเล่นกับลูก คุณสมบัติข้อไหนบ้างที่ควรนำมาใช้ในการเลี้ยงลูกให้เติบโตสมวัยทั้งร่างกาย จิตใจ และสติปัญญา เรามาดูกันเลยค่ะ
1.มอบความรักความอบอุ่นให้ลูก
การเลี้ยงดูลูกให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ จำเป็นต้องเอาใจใส่ดูแลให้ความอบอุ่น มีเวลาในการเล่น หรือทำกิจกรรมกับลูกตามเวลาที่เหมาะสม มอบความรัก ความอบอุ่นให้ลูกด้วยการเอาใจใส่ดูแล แสดงออกถึงความรู้สึกให้ลูกเห็นว่าคุณแม่รักและอยู่เคียงข้างลูกเสมอ
2.สอนให้ลูกรู้จักระเบียบวินัย
การได้ฝึกให้ลูกรู้จักการดูแลตนเองทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกิน เรื่องการเล่น การแต่งกาย และเรื่องนอน คุณแม่ควรฝึกให้ลูกรู้ว่าเวลาไหนควรทำอะไร การฝึกจะช่วยให้ลูกมีวินัย ทำให้ชีวิตในแต่ละวันของลูกดำเนินไปอย่างราบรื่น หากคุณแม่มีการจ้างพี่เลี้ยงมาช่วยเลี้ยงลูก ก็จำเป็นต้องแจ้งให้พี่เลี้ยงช่วยสอนการมีระเบียบวินัย ให้กับลูกด้วย โดยการสอนที่ทำได้ง่ายและเห็นชัดเจนคือ การสอนให้พูดจาไพเราะและให้เกียรติผู้อื่น หรือการจำกัดเวลาในการดูการ์ตูน รวมถึงการสอนให้ลูกรู้จักเก็บของเล่นให้เป็นที่เป็นทางด้วย
3.เลือกผู้ดูแลลูกที่เชื่อถือได้
สำหรับคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ไม่ค่อยมีเวลาว่างในการเลี้ยงดูลูก และมีความจำเป็นต้องฝากลูกให้คนอื่นเลี้ยงดู คุณแม่ควรเลือกคนใกล้ชิดที่ค่อนข้างเชื่อใจได้ เพื่อช่วยเพิ่มความมั่นใจว่าเขาจะดูแลลูกได้อย่างปลอดภัย และได้รับการดูแลเลี้ยงดูเอาใจใส่อย่างดีในระหว่างที่คุณแม่ไม่อยู่ นอกจากนี้หากมีเด็กที่โตกว่าอยู่ร่วมบ้านกับคนที่คุณแม่ไว้ใจให้ดูแลลูก ก็ควรจะต้องคอยดูไม่ให้เด็กโตมารังแกลูกได้ สำหรับคุณแม่ที่เลือกใช้สถานรับเลี้ยงเด็กหรือเนอสเซอรี่ก็ควรเลือกสถานที่ที่น่าเชื่อถือ ทั้งบุคลากร และสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยกับลูก
4.ใส่ใจดูแลตนเอง
คุณแม่ที่เลี้ยงลูกคนเดียว จำเป็นต้องมีสุขภาพกายที่แข็งแรง มีสุขภาพจิตที่ดี จะช่วยให้คุณแม่มีความพร้อมที่จะรับมือกับความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า จากการเลี้ยงลูกคนเดียวได้มากขึ้น คุณแม่ควรกินอาหารให้ครบถ้วนเพียงพอ และถูกหลักโภชนาการ ต้องมีการพักผ่อนให้เต็มอิ่ม และหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ควรมีเวลาให้ตัวเองได้ทำในสิ่งที่ชอบ หรือช่วยผ่อนคลายด้วย
5.ขอความช่วยเหลือจากคนใกล้ชิด
การเลี้ยงลูกคนเดียว แน่นอนว่าจะทำให้คุณแม่อาจรู้สึกท้อ เหนื่อยในการเลี้ยงดูลูก โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่พบเจอปัญหา หากคุณแม่เจอปัญหาเหล่านี้ อย่าแบกรับไว้คนเดียว คุณแม่ควรขอคำปรึกษา หรือความช่วยเหลือจากคนใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนสนิท หรือเพื่อนบ้านที่คุ้นเคยกันก็ได้ เพราะการที่คุณแม่ได้พูดคุยระบายความทุกข์ออกมาบ้าง จะช่วยให้สบายใจขึ้นได้
6.เข้าร่วมกลุ่มให้ความช่วยเหลือในการเลี้ยงดูลูก
สำหรับคุณแม่ที่ไม่สามารถพูดคุยปรึกษากับคนรอบข้างได้ ก็ควรเข้ากลุ่มการเลี้ยงดูลูกที่มีในสื่อโชเชียล หรือองค์กรที่สนับสนุนในการเลี้ยงดูเด็ก ซึ่งมีให้สอบถามข้อมูลแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางออนไลน์ได้
7.อย่าโทษตัวเองที่ลูกต้องขาดพ่อหรือแม่
คุณแม่เลี้ยงเดียว ควรให้ความสำคัญกับการเอาใจใส่ลูกให้ดีที่สุด เลิกคิดวกวนอยู่กับอดีตหรือเรื่องที่ผ่านมาแล้ว ที่สำคัญคุณแม่ห้ามชดเชยให้ลูกด้วยการตามใจลูกทุกอย่าง ซึ่งจะส่งผลเสียกับลูกได้ในอนาคต
8.มองโลกในแง่ดีเข้าไว้
การมองปัญหาที่เข้ามาในชีวิตอย่างยินดีและคิดในแง่บวกให้มาก คิดเสียว่าเมื่อเรื่องร้ายๆ ผ่านไปแล้ว ทุกอย่างก็จะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นได้ เลี่ยงการคาดหวังเพื่อให้เด็กเข้าใจกับสถานการณ์ทั้งหมด หรือการคาดหวังให้เด็กทำได้แบบผู้ใหญ่ เด็กก็จะมีความสามารถอยู่ในระดับของเด็ก การสอนให้ลูกรู้จักรับผิดชอบตามที่ควรจะทำได้ในช่วงอายุนั้นๆ ของลูก ก็เป็นพอแล้ว
9.รู้จักปล่อยวาง
สำหรับครอบครัวที่พ่อแม่แยกทางกัน คุณแม่หรือคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวอาจอยากให้อีกฝ่ายมาหาลูกในโอกาสสำคัญบ้าง เช่น วันเกิดของลูก แต่คุณแม่ควรปล่อยในเรื่องที่ควบคุมไม่ได้ เพราะอาจทำให้รู้สึกขุ่นเคืองใจ สิ่งที่คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวทำได้ก็คือ ทำในส่วนที่เป็นหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุดก็พอ
10.ควบคุมสติอารมณ์
หากคุณแม่รู้สึกเหนื่อยล้าเพราะหลายๆ อย่างไม่เป็นดั่งใจ จนทำให้รู้สึกหงุดหงิดมากแค่ไหน แต่ห้ามนำมาใส่อารมณ์กับลูกเด็ดขาด
การเลี้ยงลูกคนเดียว ถึงแม้ว่าจะมีความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้ามากแค่ไหนก็ตาม แต่ทุกเวลาที่คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวได้เห็นความเจริญเติบโตของลูก พัฒนาการไปในทิศทางที่ดีขึ้น ก็ย่อมนำมาซึ่งความสุขและหายจากความเหน็ดเหนื่อยได้แล้ว การเลี้ยงลูกเพียงคนเดียวสำหรับคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว จึงเป็นเรื่องที่ไม่ได้ยาก แต่ก็ไม่ได้ง่ายนัก ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการปรับตัวและการเรียนรู้ ที่จะใช้ชีวิตคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวอย่างไรให้ลูกมีคุณภาพที่สุด
= = = = = = = = = = = =