เชื่อว่าคงมีคุณแม่หลายคนที่กำลังกังวลกับปัญหาท้องไม่มีพ่ออยู่ใช่ไหม โดยเฉพาะ การแจ้งเกิด ลูกที่ปกติจะต้องระบุ ทั้งชื่อบิดาและมารดาลงไป ทำให้เกิดความสงสัยว่าถ้าไม่ระบุชื่อว่าใครเป็นพ่อเด็กจะสามารถแจ้งเกิดได้หรือไม่ และจะมีปัญหาต่างๆ ตามมาหรือเปล่า ซึ่งเราก็ต้องบอกเลยว่าคุณแม่ซิงเกิ้ลมัมหมดกังวลไปได้เลย เพราะ การแจ้งเกิดลูกสามารถทำได้ตามปกติ โดยจะมีวิธีการแจ้งเกิดอย่างไร และมีผลตามมาอย่างไร เราก็ได้รวบรวมข้อมูล มาให้คุณได้ทำความเข้าใจดังนี้
การแจ้งเกิด ลูกน้อย เมื่อเป็นซิงเกิ้ลมัม
สำหรับการแจ้งเกิดลูก ในกรณีที่คุณแม่เป็นซิงเกิ้ลมัม ก็สามารถทำได้ไม่ยากเลย โดยก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนเลยว่าการเป็นซิงเกิ้ลมัมนั้น มีได้ 2 กรณี คือ
- พ่อเด็กยอมให้ระบุชื่อเป็นบิดาลงในใบแจ้งเกิด แต่จะไม่ข้องเกี่ยวใดๆ กับแม่เด็ก
- พ่อเด็กไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้นและไม่ยอมให้ระบุชื่อเป็นบิดาลงในใบแจ้งเกิด
ดังนั้นการแจ้งเกิดลูกสำหรับคุณแม่ที่เป็นซิงเกิ้ลมัม จึงสามารถทำได้ 2 วิธี คือการแจ้งเกิดโดยระบุชื่อพ่อและแบบ ไม่ระบุชื่อพ่อลงไปในใบสูติบัตรของลูก แต่อย่างไรก็ตามสิทธิของลูกที่เกิดมาก็ย่อมเป็นบุตรโดยชอบธรรม ของแม่เท่านั้น
การแจ้งเกิดโดยระบุชื่อพ่อลงในใบเกิด
ก่อนไปแจ้งเกิดลูกที่อำเภอ คุณแม่จะต้องแจ้งชื่อผู้เป็นบิดากับทางโรงพยาบาลก่อน โดยให้นำสำเนาบัตรประชาชนของผู้เป็นบิดามาใช้เป็นหลักฐาน ซึ่งทางโรงพยาบาลจะทำการระบุชื่อผู้เป็นบิดา มารดาลงไปในใบรับรองให้เรียบร้อย จากนั้นก็เตรียมเอกสารดังต่อไปนี้ พร้อมไปแจ้งเกิดที่อำเภอเป็นลำดับต่อไป โดยจะต้องแจ้งเกิดภายในไม่เกิน 15 วัน นับแต่วันที่เด็กเกิดเท่านั้น
เอกสารที่ต้องใช้
- หนังสือรับรองการเกิดที่โรงพยาบาลออกให้ (ท.ร.๑/๑)
- บัตรประจำตัวประชาชนของผู้แจ้งเกิด
- สำเนาทะเบียนบ้านที่จะเพิ่มชื่อเด็กเข้าไปอยู่
สิ่งที่คุณแม่ต้องรู้ก่อนแจ้งเกิดโดยระบุชื่อพ่อ
- กรณีที่แจ้งเกิดโดยระบุชื่อพ่อลงในใบเกิด ลูกสามารถใช้นามสกุลของพ่อหรือแม่ก็ได้ โดยหากใช้นามสกุลของพ่อ ลูกก็จะมีสิทธิได้รับมรดกจากพ่อด้วย
- ในอนาคตหากต้องทำเอกสารบางอย่าง จะต้องมีการลงลายมือชื่อของผู้เป็นพ่อด้วย ซึ่งก็จะทำให้เกิดความยุ่งยากตามมา หากไม่สามารถตามตัวผู้เป็นพ่อได้ โดยเฉพาะการทำพาสปอร์ตหรือธุรกรรมต่างๆ ขณะที่เด็กยังมีอายุไม่ครบ 20 ปีบริบูรณ์
เพื่อให้อำนาจในการปกครองลูกเป็นสิทธิขาดของผู้เป็นแม่แต่เพียงผู้เดียว นอกจากการแจ้งเกิดลูกแล้วคุณแม่ซิงเกิ้ลมัมควรทำใบ ปค.14 ซึ่งจะทำให้คุณแม่สามารถจัดการเอกสารให้ลูกง่ายขึ้น โดยไม่ต้องลงลายมือชื่อของผู้เป็นพ่อ
การแจ้งเกิดโดยไม่ระบุชื่อพ่อลงในใบเกิด
คุณแม่จะต้องแจ้งกับทางโรงพยาบาลว่าไม่ปรากฏบิดา โดยให้ระบุแต่เพียงชื่อของมารดาอย่างเดียว ซึ่งทางโรงพยาบาลจะออกใบรับรองให้ จากนั้นจึงนำไปแจ้งเกิดที่อำเภอตามลำดับขั้นตอนต่อไป โดยการแจ้งเกิดลูกต้องแจ้งให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน นับจากวันที่เด็กเกิดเช่นกัน
เอกสารที่ต้องใช้
- หนังสือรับรองการเกิดที่โรงพยาบาลออกให้ (ท.ร.๑/๑)
- บัตรประจำตัวประชาชนของผู้แจ้งเกิด
- สำเนาทะเบียนบ้านที่จะเพิ่มชื่อเด็กเข้าไปอยู่
สิ่งที่คุณแม่ต้องรู้ก่อนแจ้งเกิดโดยไม่ระบุชื่อพ่อ
- คุณแม่ซิงเกิ้ลมัมจะมีสิทธิในตัวลูก 100% คืออำนาจในการตัดสินใจและปกครองลูกจะเป็นของแม่แต่เพียงผู้เดียว รวมถึงการทำเอกสารต่างๆ ก็สามารถทำได้โดยไม่ต้องลงลายมือชื่อของพ่อและไม่ต้องทำใบ ปค.14 รับรองด้วย จึงไม่ก่อให้เกิดปัญหา ต่อการทำเอกสารใดๆ ในอนาคต
- ลูกจะไม่มีสิทธิรับมรดกใดๆ จากผู้เป็นพ่อทั้งสิ้น นอกจากได้มีการเพิ่มชื่อพ่อลงไปในภายหลัง แต่ต้องมีการตรวจ DNA เพื่อพิสูจน์หลักฐานความเป็นพ่อลูกก่อนระบุชื่อด้วย
- การไม่ระบุชื่อพ่อในใบเกิด ไม่ส่งผลต่อการศึกษาของเด็ก โดยลูกสามารถสมัครเข้าเรียนได้ตามปกติ
ทริคน่ารู้ : หากคลอดลูกในโรงพยาบาลที่อยู่นอกพื้นที่ของทะเบียนบ้านที่จะนำเด็กเข้าอยู่ ให้ทำการแจ้งเกิดที่เขตหรืออำเภอในพื้นที่นั้น พร้อมกับแจ้งย้ายเข้าทะเบียนบ้านปลายทางทันที จากนั้นจึงให้เจ้าบ้านนำทะเบียนบ้านไปแจ้งรับ
สรุปได้ว่าการแจ้งเกิดลูกในกรณีที่เป็นซิงเกิ้ลมัมก็สามารถแจ้งเกิดได้ไม่ยาก ขึ้นอยู่กับว่าต้องการแจ้งโดยระบุชื่อพ่อ หรือไม่ระบุชื่อพ่อลงไปในใบสูติบัตร โดยคุณแม่สามารถตัดสินใจได้อย่างเต็มที่ เพราะลูกถือเป็นสิทธิโดยชอบธรรม ของแม่แต่เพียงผู้เดียว
= = = = = = = = = = = =
ติดตามความรู้ดี ๆ และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่
https://www.facebook.com/teamkonthong/
We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about how can you grow up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or have any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook
https://www.facebook.com/teamkonthong/
บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..