เมื่อการตั้งครรภ์มาถึงเดือนสุดท้ายแล้ว สัญญาณการคลอดจะมีเตือนมาเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นคุณแม่ตั้งครรภ์จะต้องคอยสังเกตอาการและความผิดปกติทางร่างกายให้ดี เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงที่ใกล้คลอด ซึ่งในคุณแม่บางรายอาจจะมีการเจ็บท้องหลอกบ้าง ทำให้สับสนว่ากำลังจะคลอดหรือไม่ ซึ่งการ เจ็บครรภ์จริง เป็นอย่างไร และคุณแม่ควรไปโรงพยาบาลตอนไหน วันนี้เรามีคำตอบมาฝากกันแล้ว
เจ็บครรภ์จริง มีอาการอย่างไร
คุณแม่ตั้งครรภ์หลายท่านอาจจะเกิดความกังวลใจในเรื่องของการคลอด เมื่อการตั้งครรภ์มาถึงเดือนที่ 9 แล้วโดยเฉพาะคุณแม่ที่เป็นมือใหม่จะยิ่งมีความกังวลมากเป็นพิเศษ โดยเมื่อถึงกำหนดใกล้คลอดคุณแม่หลายท่านมักจะมีสัญญาณเตือน และหากมีอาการดังต่อไปนี้ นั่นอาจจะเป็นสัญญาณ เจ็บครรภ์จริง ให้รีบไปโรงพยาบาลทันที
1.ท้องลดต่ำลง
อาการท้องลดเกิดจากทารกในครรภ์มีการเคลื่อนศีรษะลงมาในบริเวณอุ้งเชิงกราน ซึ่งจะทำให้สังเกตได้ว่าท้องของคุณแม่ดูลดต่ำลง ระยะนี้คุณแม่จะรู้สึกโล่งขึ้น ไม่อึดอัด และท้องยังมีขนาดที่ลดลงด้วย ช่วยให้คุณแม่หายใจสะดวกมากยิ่งขึ้น ซึ่งอาการนี้จะเรียกว่า “อาการท้องลด”อาการนี้จะเกิดขึ้นก่อนการคลอดไม่กี่สัปดาห์ หรือเกิดขึ้นแล้วจะรู้สึกว่า ปวดท้องคลอด ขึ้นมาทันที ซึ่งคุณแม่แต่ละคนก็จะมีอาการที่แตกต่างกัน ท้องลดถือเป็นสัญญาณเตือนว่าใกล้ถึงเวลาคลอดแล้ว
2.มีอาการปวดหลัง
อาการปวดหลังเป็นอีกหนึ่งสัญญาณเตือนว่าคุณแม่กำลังจะใกล้คลอดแล้ว ถึงแม้ว่าอาการปวดหลังมักจะเกิดกับคุณแม่ตั้งครรภ์ทั่วไป แต่อาการปวดหลังที่มีความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งสาเหตุของการปวดหลังที่รุนแรงนี้อาจจะมาจากการที่ศีรษะของทารกในครรภ์ไปสัมผัสกับกระดูกสันหลังของคุณแม่ตั้งครรภ์นั่นเอง อาการปวดหลังที่รุนแรงเป็นอีกหนึ่งสัญญาณเตือนว่า เจ็บครรภ์จริงใกล้คลอดแล้ว
3.มีอาการน้ำเดิน
อาการน้ำเดิน เป็นสัญญาณเตือนว่าใกล้คลอดเข้ามาจริงๆ แล้ว โดยอาการน้ำเดินเกิดถุงเนื้อเยื่อหุ้มถุงน้ำคร่ำแตก และของเหลวที่อยู่ในถุงน้ำคร่ำก็ไหลออกมา หากพบว่ามีอาการถุงน้ำคร่ำแตกไม่ทันตั้งตัวซึ่งคล้ายกับการปัสสาวะจะทำให้คุณแม่ลื่นน้ำได้จึงต้องคอยระวัง และก็เป็นเรื่องปกติที่คุณแม่จะมีถุงน้ำคร่ำแตกก่อนที่จะมีการคลอดภายใน 24 ชั่วโมง หากถุงน้ำคร่ำแตกแต่ยังไม่มีอาการ เจ็บครรภ์จริง ให้รีบมาโรงพยาบาล เพราะเสี่ยงที่เด็กจะเกิดภาวะติดเชื้อแทรกซ้อนผ่านทางสายสะดือได้นั่นเอง
4.มีมูกเลือดไหลออกทางช่องคลอด
เมื่อเนื้อเยื่อที่ปากมดลูกเปิดมากขึ้น จะเห็นได้ว่ามีมูกเลือดออกมาจากช่องคลอดเล็กน้อย ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นกับคุณแม่ตั้งครรภ์บางคนที่มีอาการ ก่อนคลอดโดยอาการนี้จะเกิดขึ้นก่อนการ เจ็บครรภ์จริง ประมาณ 2 – 3 วัน หรือก่อน 1 สัปดาห์ หากคุณแม่พบว่ามีมูกเลือดออกและคิดว่านี่คือการ เจ็บครรภ์จริง แต่เพื่อความแน่ใจ ควรโทรหาทางโรงพยาบาลที่ฝากครรภ์เพื่อทำการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโดยตรงจะดีกว่า
5.มดลูกมีการบีบตัวมากขึ้น
หากพบว่ามีการบีบตัวของมดลูกมากขึ้น ซึ่งอาการจะคล้ายๆ กับอาการปวดท้องประจำเดือน และจะมีการเกิดตะคริวหน้าท้องร่วมด้วย หากมีอาการดังกล่าวคุณแม่ลองจับเวลาดูว่าระยะการบีบตัวของมดลูกตั้งแต่เริ่มต้นจนจบมีการบีบตัวประมาณเท่าไหร่ รวมถึงสังเกตดูความถี่ในการบีบตัวของมดลูกด้วย เพราะนี่อาจจะเป็นอาการ เจ็บครรภ์จริง ใกล้คลอดแล้วก็ได้ หากการหดตัวของมดลูกมีเวลานานเกินกว่าครึ่งนาที และเริ่มบีบตัวเข้าหากันมากขึ้นนั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนของการ ปวดท้องคลอด ก็เป็นได้
6.การเจ็บท้องจริง
อาการ เจ็บครรภ์จริง คุณแม่จะมีอาการเจ็บเป็นระยะอย่างต่อเนื่องและจะเริ่มถี่ขึ้นเรื่อยๆ เจ็บท้องจริง ก่อนคลอดนี้จะมีอาการคล้ายๆ กับปวดท้องประจำเดือน แต่จะมีความรุนแรงมากกว่า และเจ็บถี่กว่า หากคุณแม่พบว่ามีอาการเจ็บท้องในลักษณะแบบนี้ควรรีบมาโรงพยาบาลด่วน เพราะนี่คือสัญญาณ ปวดท้องคลอด นั่นเอง
แม่ควรไปโรงพยาบาลตอนไหน
นอกจากสัญญาณต่างๆ ที่ได้ยกมาข้างต้นนี้ หากคุณแม่ตั้งครรภ์มีอาการเพิ่มเติมดังต่อไปนี้ให้รีบเก็บกระเป๋ามาโรงพยาบาลทันที เพราะนี่เป็นสัญญาณเตือนว่าคุณแม่ใกล้ที่จะคลอดแล้วนั่นเอง ซึ่งอาการเหล่านี้ก็จะได้แก่
- เมื่อมีอาการเจ็บครรภ์จริงโดยคุณแม่จะเจ็บทางหน้าท้อง พร้อมกับอาการหดตัวของมดลูก ระยะเวลาในการหดตัวอย่างสม่ำเสมอ พร้อมทั้งมีอาการปวดบั้นเอวร่วมด้วย รู้สึกเหมือนค้ลายกับปวดท้องถ่ายบางครั้งก็มีมูกเลือดปนออกมา และจะมีอาการเจ็บครรภ์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
- เมื่อมีมูกเลือดไหลออกมาจากช่องคลอด
- เมื่อถุงน้ำคร่ำแตกควรรีบไปโรงพยาบาลด่วน
อาการ เจ็บครรภ์จริง ใกล้คลอดมักจะเกิดขึ้นในเดือนสุดท้ายของการตั้งครรภ์ แต่ก่อนที่จะมีการคลอดจริงมักจะมีสัญญาณเตือนเหล่านี้เกิดขึ้นกับคุณแม่ตั้งครรภ์ คุณแม่ควรหมั่นสังเกตร่างกายของตัวเองหากมีสัญญาณเตือนที่ผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์ และเมื่อมีสัญญาณเจ็บครรภ์จะคลอดจริง คุณแม่ควรตั้งสติให้ดี เตรียมข้าวของให้พร้อมและรีบไปโรงพยาบาลทันที
= = = = = = = = = = = =
ติดตามความรู้ดี ๆ และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่
https://www.facebook.com/teamkonthong/
We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about how can you grow up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or have any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook
https://www.facebook.com/teamkonthong/
บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..
1.ลูกไม่กินข้าว เกิดจากอะไร และวิธีการรับมือ
2.เพราะอะไร ลูกมักอาเจียนหลังดื่มนม และเป็นอันตรายไหม