เลี้ยงลูกในห้องแอร์ทั้งวัน กับอันตรายที่คุณแม่ควรรู้

เลี้ยงลูกในห้องแอร์ทั้งวัน … ต้องยอมรับกันอย่างหนึ่งว่า อากาศในประเทศไทยนั้น เริ่มทวีความร้อนรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ไม่เว้นแม้กระทั่งในหน้าฝนและหน้าหนาวที่ร้อนดุเดือดไม่แพ้กันเลย จึงทำให้คุณพ่อคุณแม่ประสบปัญหากับการเลี้ยงลูกพอสมควร เนื่องจากเด็กอาจเกิดความรู้สึกไม่สบายตัวหรือเหนียวเหนอะหนะจากไอความร้อนที่ได้รับ เป็นเหตุให้งอแงมากกว่าปกติ ซึ่งก็ทำให้พ่อแม่หลาย ๆ คนต้องติดตั้งเครื่องปรับอากาศเพื่อใช้ในการเลี้ยงลูกเป็นการแก้ปัญหา แต่รู้หรือไม่ว่า การเลี้ยงลูกในห้องแอร์อาจเป็นอันตรายกับเด็กมากกว่าที่คิด มาดูกันว่าเพราะเหตุใด จึงไม่ควรให้ลูกอยู่ในห้องแอร์ตลอดทั้งวัน

ปัญหาเรื่องสุขภาพ จากการเลี้ยงลูกในห้องแอร์ทั้งวัน

ปัญหาหลัก ๆ ในการเลี้ยงลูกที่พ่อแม่ไม่ค่อยอยากเจอ ก็คือเรื่องของปัญหาสุขภาพ เนื่องจากเด็กจะมีอาการงอแงมากกว่าปกติและถ้ายิ่งทานยายากด้วยก็จะยิ่งเป็นเรื่องปวดหัวของพ่อแม่มากขึ้นไปอีก เพราะฉะนั้นหากไม่ต้องการพบเจอปัญหานี้ ก็ไม่ควรให้ลูกนอนในห้องแอร์เป็นเวลานาน ๆ เนื่องจากการทำงานของเครื่องปรับอากาศหรือแอร์นั้นจะทำการดูดความชื้นและไอร้อนในบริเวณนั้น ๆ และปล่อยอากาศที่แห้งจนทำให้รู้สึกเย็นสบายออกมา ลองสังเกตดูได้เลยว่าหากมีการเลี้ยงลูกอยู่ในห้องแอร์นาน ๆ จะต้องเจออาการดังต่อไปนี้

ผิวแห้ง ลอกเป็นขุยหรือเป็นแผ่น ร่วมกับมีอาการคัน หากไม่มีการบำรุงผิวด้วยโลชั่นมาก่อน
มีปัญหาเกี่ยวกับดวงตา โดยเฉพาะอาการคัน และระคายเคือง
มีน้ำมูกไหลเกือบตลอดเวลา
หากลูกเป็นโรคภูมิแพ้ หรือหอบหืด ก็มีโอกาสที่จะแสดงอาการเมื่ออยู่ในห้องแอร์ที่มีอุณหภูมิต่ำเกินไป หรือ
ไม่สามารถทนต่อความร้อนได้เหมือนเด็กปกติ เพียงเจอความร้อนในระยะสั้น ๆ ก็เกิดอาการหงุดหงิด งอแง ถ้าหากเด็กโตขึ้นมาหน่อย อาจจะพบปัญหาไม่ยอมออกไปข้างนอก ยกเว้นสถานที่ ๆ ติดแอร์
หากไม่ได้มีการทำความสะอาดแอร์อย่างสม่ำเสมอ ก็อาจกลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค เชื้อแบคทีเรีย และเชื้อไวรัสต่าง ๆ ที่อาจทำให้เด็กเกิดการเจ็บป่วย อย่างเช่น โรคทางเดินหายใจ โรคไข้หวัดใหญ่ เป็นต้น
สามารถสร้างโรคติดต่อจากลูกสู่พ่อและแม่ได้ เนื่องจากอยู่ในสถานที่ที่มีอากาศหมุนเวียนร่วมกัน

ปัญหาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

ปัญหาของการเลี้ยงลูกในห้องแอร์ไม่ได้มีแค่เรื่องสุขภาพเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมไปถึงเรื่องอื่น ๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น

ค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น – เพราะปกติแล้วการเลี้ยงลูกโดยทั่วไปนั้น กว่าจะโตก็ต้องมีค่าใช้จ่ายที่สูงเพิ่มกว่าปกติในระดับหนึ่ง และเมื่อมีการติดตั้งแอร์และทำการเปิดตลอดทั้งวันเพื่อคลายความร้อนให้กับลูก ก็จะต้องแบกรับค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าไฟเพิ่มขึ้น ตั้งแต่ 1,000 – 3,000 บาท ซึ่งก็นับว่าเป็นภาระที่หนักพอสมควร ถ้าหากว่าคุณพ่อหรือคุณแม่เป็นผู้หารายได้เข้าบ้านอยู่ฝ่ายเดียว
ความขี้เกียจ – เคยสังเกตกันหรือไม่ว่าคุณพ่อคุณแม่ที่มีการเลี้ยงลูกอยู่ในห้องแอร์นาน ๆ มักจะไม่ค่อยอยากหยิบจับอะไรนอกจากนั่งหรือนอนเฉย ๆ เพราะรู้สึกถึงความเย็นสบายจนไม่อยากเคลื่อนไหว รวมไปถึงเด็กด้วยเช่นกันที่อยากจะนอนอยู่อย่างเดียว ซึ่งถ้าเป็นเช่นนี้ในระยะยาวก็อาจจะทำให้เด็กมีพัฒนาการที่ช้าลงหรือเจ็บป่วยมากกว่าปกติ เพราะมีภูมิคุ้มกันที่ไม่แข็งแรง เนื่องจากไม่ได้ออกแรงทำอะไร
ผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม – เรื่องนี้อาจไม่เกี่ยวข้องกับการเลี้ยงลูกสักเท่าไร แต่เป็นเรื่องของจิตสำนึกในการอยู่ร่วมกันบนโลก เพราะการใช้แอร์เป็นประจำนั้น จะส่งผลให้เกิดสารเคมีที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนมากยิ่งขึ้น ซึ่งมีสาเหตุให้อุณหภูมิบนโลกสูงผิดปกติ

ควรปฏิบัติตัวอย่างไร หากต้องการเลี้ยงลูกในห้องแอร์

ถึงแม้ว่าการเลี้ยงลูกในห้องพัดลม จะให้ผลที่ดีกว่า เพราะสามารถคลายความร้อนได้เหมือนกัน และยังทำให้เด็กสามารถปรับตัวตามอุณหภูมิได้ดีกว่า แต่ก็อาจไม่รู้สึกถึงความเย็นสบายเท่าที่ควร ก็อาจจะทำให้พ่อแม่บางคนรู้สึกสงสารลูก อยากให้ลูกได้อยู่ในห้องที่มีอากาศเย็นสบาย ซึ่งจะส่งผลให้ลูกอารมณ์แจ่มใสขึ้น และหลับง่ายขึ้น เราก็ขอแนะนำเทคนิคง่าย ๆ ให้นำไปใช้กันดังต่อไปนี้

อย่าให้ลูกอยู่ในห้องแอร์มากจนเกินไป (ไม่ควรเกิน 12 ชั่วโมง รวมเวลากลางคืนด้วย) และถ้าจำเป็นต้องให้ลูกได้อยู่ในห้องแอร์ ก็ควรเปิดแอร์ที่อุณหภูมิ 25 – 27 องศา
ให้ลูกได้ดื่มน้ำบ่อย ๆ และหมั่นทาโลชั่นเสมอ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาผิวแห้งแตกเป็นขุย
ควรมีการเช็ดล้าง ทำความสะอาดแอร์เป็นประจำและต่อเนื่อง และควรให้ช่างเป็นผู้มาล้าง จะช่วยในเรื่องของความสะอาดได้มากกว่า
ในช่วงกลางวัน ควรให้ลูกนอนในห้องพัดลม เพื่อให้ได้รับอากาศบริสุทธิ์ และสามารถปรับสภาพตัวได้ง่าย

เมื่อรู้แบบนี้แล้ว ถ้าเป็นไปได้ก็ควรพยายามหลีกเลี่ยงการเลี้ยงลูกในห้องแอร์ให้ได้มากที่สุด ทั้งนี้ก็เพื่อสุขภาพที่ดีและห่างไกลจากอาการเจ็บป่วยของลูกน้อยนั่นเอง

ขอขอบคุณที่มา : homthaiherb