สำหรับคนรักแมวอาจจะเกิดความวิตกกังวลว่าจะ เลี้ยงแมวตอนท้อง ได้ไหม แมวจะเป็นพาหะนำเชื้อโรคที่เป็นอันตรายต่อทารกหรือไม่ ถ้าหากต้องการเลี้ยงแมวต่อไปจะมีวิธีปฏิบัติตัวอย่างไร วันนี้เรามีคำอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้เพื่อไขข้อข้องใจสำหรับคนท้องที่ต้องการเลี้ยงแมวมาฝ่ากกัน

เลี้ยงแมวตอนท้อง อันตรายจริงหรือ

แพทย์ได้กล่าวเตือนว่า การเลี้ยงแมวตอนท้องจะเป็นอันตรายต่อลูกน้อยได้ นั่นก็เพราะอาจติดเชื้อโรคทอกโซพลาสโมซิส (Toxoplasmosis) ที่อาศัยอยู่ในลำไส้ของแมวได้นั่นเอง ซึ่งเชื้อโรคนี้จะปนเปื้อนอยู่ในอุจจาระของแมว ถ้าหากคุณแม่ท้องสัมผัสกับอุจจาระของแมวและไม่ล้างมือให้สะอาด แล้วหยิบจับรับประทานอาหาร อาจรับเชื้อเข้าสู่ร่างกาย ทำให้เชื้อโรคส่งผ่านไปสู่ลูกทางรก ซึ่งเชื้อนี้จะเข้าไปอาศัยอยู่ในเซลล์สมอง กล้ามเนื้อ หัวใจ หรือตาของทารกในครรภ์ จนทำให้มีความผิดปกติได้ เช่น ศีรษะโต มีอาการสมองอักเสบ จนอาจถึงขึ้นปัญญาอ่อนและตาบอดเลยทีเดียว นอกจากนี้ในกรณีรุนแรงมากอาจทำให้เสียชีวิตได้ ทั้งนี้สำหรับผู้ที่มีภูมิคุ้มกันปกติอาจไม่แสดงอาการใดๆ ออกมาหรือมีอาการเล็กน้อยคล้ายเป็นหวัด ปวดศีรษะ ต่อมน้ำเหลืองโต ซึ่งสามารถหายเองได้ แต่เชื้อโรคนี้เป็นอันตรายร้ายแรงต่อทารกในครรภ์อย่างมาก จึงต้องใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่ง

ถ้าอยากเลี้ยงแมว จะดูแลตนเองอย่างไร

ถึงแม้ว่าการเลี้ยงแมวจะเป็นอันตราย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่สามารถเลี้ยงได้ซะทีเดียว เพียงแต่คุณแม่จะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้ เพื่อการเลี้ยงแมวอย่างปลอดภัย โดยไม่ส่งผลอันตรายทั้งต่อตัวคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์นั่นเอง โดยมีวิธีอย่างไรก็ไปดูกันเลย

1.ทานอาหารปรุงสุกใหม่

ควรรับประทานอาหารปรุงสุกใหม่ๆ ไม่ควรบริโภคเนื้อดิบ น้ำนมดิบ ซึ่งอาจมีเชื้อโรคปนเปื้อนโดยไม่รู้ตัว โดยการทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่จะทำให้คุณมั่นใจได้ว่าไม่มีเชื้อโรคปนเปื้อนมาอย่างแน่นอน

2.ล้างผักผลไม้ให้สะอาดก่อนนอน

ถ้าหากต้องการรับประทานผักผลไม้สด ควรล้างทำความสะอาดด้วยด่างทับทิมหรือเบกกิ้งโซดา แล้วล้างด้วยน้ำสะอาดที่เป็นน้ำไหลผ่าน เพื่อให้เศษดินและสิ่งเจือปนไหลไปกับน้ำ ทั้งนี้หากมีเชื้อโรคจากแมวปนเปื้อนอยู่ ก็จะได้ถูกกำจัดออกไปจนหมดก่อนนำมากินนั่นเอง

3.ทำความสะอาดอุปกรณ์เครื่องครัวทุกครั้ง

ควรล้างทำความสะอาดอุปกรณ์เครื่องครัวที่สัมผัสกับเนื้อดิบให้สะอาด หรือนำไปลวกหรือต้มน้ำร้อนเพื่อฆ่าเชื้อ ก่อนนำมาใช้ใหม่ทุกครั้ง เพราะอาจมีเชื้อโรคจากแมวติดอยู่โดยไม่รู้ตัว

4.สวมถุงมือทุกครั้งเมื่อต้องสัมผัสดินหรือทำสวน

เพราะเชื้อโรคเหล่านี้ปนเปื้อนอยู่ในดินได้ ดังนั้นจึงควรสวมใส่ถุงมือก่อนจะสัมผัสดินหรือทำสวนทุกครั้ง และต้องล้างมือด้วยสบู่ให้สะอาดหลังจากสัมผัสดินด้วย

5.อย่าสัมผัสอุจจาระแมว

Sponsored

คุณแม่ท้องควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสอุจาระแมว หากจำเป็นต้องทำความสะอาดกระบะทรายแมวจริงๆ ให้สวมถุงมือทุกครั้ง หลังจากนั้นต้องล้างมือด้วยสบู่ให้สะอาด

6.ทำความสะอาดกระบะทรายแมวทุกวัน

ถือเป็นสิ่งที่จะมองข้ามไม่ได้เลยทีเดียว โดยคุณแม่ควรทำความสะอาดกระบะทรายแมวเป็นประจำ เพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อโรค และจัดวางกระบะทรายไว้ในที่เหมาะสม ไม่ส่งกลิ่นรบกวน

7.ควรเลี้ยงแมวไว้ในบ้าน

การเลี้ยงแมวไว้ในบ้านจะช่วยป้องกันเชื้อโรคร้ายได้ดี เพราะจะป้องกันไม่ให้แมวไปกินหนู หรือนก หรือสัตว์ชนิดอื่น ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญทำให้แมวติดเชื้อได้

8.เลี้ยงแมวด้วยอาหารปรุงสุกหรืออาหารสำเร็จรูป

สำหรับอาการที่ใช้เลี้ยงแมว ก็ควรเป็นอาหารที่ปรุงสุก สะอาด เช่นเดียวกับอาหารคน หรืออาจให้กินอาหารแมวสำเร็จรูปก็ได้ จะช่วยลดความเสี่ยงไม่ให้แมวติดเชื้อและนำเชื้อมาแพร่ต่อนั่นเอง

สำหรับวิธีการป้องกันตนเองที่ดีที่สุดคือ การรักษาความสะอาด หลีกเลี่ยงการสัมผัสแมวโดยตรง หมั่นล้างมือบ่อยๆ รักษาความสะอาดที่อยู่อาศัยและบริเวณโดยรอบ รวมถึงดูแลอาหารการกินให้ถูกสุขลักษณะ เพียงเท่านี้คุณแม่ท้องก็สามารถเลี้ยงแมวได้อย่างสบายใจ ห่างไกลจากโรคทอกโซพลาสโมซิสที่ทำให้ลูกเป็นอันตรายได้

= = = = = = = = = = = =

ติดตามความรู้ดี ๆ  และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่
https://www.facebook.com/teamkonthong/

We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about how can you grow up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or have any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook

https://www.facebook.com/teamkonthong/

บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..

1.โครงการ Falcon Sharing Café มอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ ให้โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย

2.รองผกก. โวยลั่น รพ.ทำหลานแรกคลอดขาหัก หมอออกมายอมรับแล้ว