มะเร็งปากมดลูก ถือเป็นมะเร็งอันดับที่ 2 รองจากมะเร็งเต้านม ที่พบบ่อยในผู้หญิง ซึ่งสาเหตุของการเกิดมะเร็งชนิดนี้มาจากการติดเชื้อ (HPV) ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่ติดต่อได้ผ่านการมีเพศสัมพันธ์ แต่ถึงกระนั้นก็ตาม การลดความเสี่ยงมะเร็งชนิดนี้ด้วยการ ฉีดวัคซีน และทานอาหารที่จะช่วยให้มดลูกแข็งแรง ก็ช่วยลดการเกิดมะเร็งปากมดลูกได้เช่นกัน วันนี้เราจึงได้นำ 7 อาหาร ป้องกันมะเร็งปากมดลูก มาแนะนำ รับประทานบ่อยๆ จะทำให้มดลูกแข็งแรง เพิ่มสารป้องกันการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ต่างๆ ได้ จะมีอาหารอะไรบ้างนั้นเรามาดูกันเลยดีกว่า
แนะนำ 7 อาหารช่วย ป้องกันมะเร็งปากมดลูก
มะเร็งปากมดลูก เกิดขึ้นในเซลล์ปากมดลูก ที่อยู่ระหว่างช่วงล่างของมดลูก และเชื่อมต่อกับช่องคลอด สาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูกส่วนใหญ่มาจากเชื้อไวรัส Human Papillomavirus หรือ HPV สามารถติดต่อได้ผ่านการมีเพศสัมพันธ์ อย่างไรก็ตาม หากเราทานอาหารที่มีประโยชน์ช่วยให้มดลูกแข็งแรง ก็สามารถลดความเสี่ยงและ ป้องกันมะเร็งปากมดลูก ได้อย่างเช่นอาหารดังต่อไปนี้
1.บรอกโคลี
มีผลวิจัยจากวารสารอย่าง Postgraduate Medicine ในปี 2003 ระบุว่าบรอกโคลีเป็นผักที่มีฟลาโวนนอยสูงมาก และยังมีวิตามินเอ บี และซี จึงจัดว่าเป็นผักที่มีคุณสมบัติที่ช่วยต้านเซลล์มะเร็งปากมดลูกได้เป็นอย่างดี สาวๆ ที่ไม่อยากเป็นมะเร็งปากมดลูก ควรทานอาหารที่มีบรอกโคลีเป็นส่วนผสมเป็นประจำจะช่วย ป้องกันมะเร็งปากมดลูก ได้
2.ผักผลไม้ที่มีสีส้ม
ผักและผลไม้ที่มีสีส้มอย่างเช่น มันเทศ แครอท และฟักทอง มีคุณสมบัติช่วยต้านเซลล์มะเร็งได้เป็นอย่างดี เนื่องจากว่าผักดังกล่าวมี เบต้าแคโรทีน สามารถเปลี่ยนเป็นวิตามินเอได้เมื่อถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย และวิตามินเอก็เป็นวิตามันที่มีคุณสมบัติช่วยสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย ลดการอักเสบของเนื้อเยื่อ ช่วยลดโอกาสเกิดเซลล์มะเร็ง และเนื้อร้าย นอกจากนี้ผักที่มีสีส้มยังมีไบโอฟลาโวนอยด์ ที่ช่วยต้านมะเร็งในร่างกาย โดยเฉพาะมะเร็งปากมดลูก อย่างไรก็ตามการฉีด วัคซีนมะเร็งปากมดลูก ก็เป็นการป้องกันการเกิดมะเร็งปากมดลูกได้ดีเช่นกัน
3.ผักใบเขียว
การกินผักใบเขียวเป็นประจำอย่างเช่น ผักคะน้า ปวยเล้ง ผักตำลึง ล้วนแต่มีสารป้องกันอนุมูลอิสระอย่าง อย่างฟลาโวนอยด์ ด้วยกันทั้งสิ้น ซึ่งจะช่วยปกป้องร่างกายจากเชื้อร้ายที่อาจก่อให้เกิดเซลล์มะเร็งได้ โดยเฉพาะมะเร็งปากมดลูก เพราะฉะนั้นอยาก ป้องกันมะเร็งปากมดลูก จึงควรกินผักใบเขียวให้มากๆ อย่างน้อยวันละ 6 ทัพพี จะช่วยลดโอกาสเกิดมะเร็งปากมดลูกได้
4.หอมแดง กระเทียม
รู้หรือไม่ว่าหอมแดง และกระเทียมที่เรากินอยู่นี้ อุดมไปด้วยสารซิลิเนียม แร่ธาตุ และวิตามินต่างๆ มากมาย ที่มีคุณสมบัติช่วยป้องกันโรคต่างๆ ได้ โดยหอมแดง และกระเทียมจะมีคุณสมบัติช่วยต้านการอักเสบของเนื้อเยื่อ และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระอย่างฟลาโวนอยด์อีกด้วย กินทุกวัน ช่วยป้องกันมะเร็งปากมดลูก ได้ดีเชียวละ
5.สาหร่ายทะเล
จากการวิจัยพบว่า สาหร่ายทะเลมีคุณสมบัติในการต้านมะเร็งได้เป็นอย่างดี โดยผ่านการทดลองกับหนูมาแล้วพบว่า หนูที่กินสาหร่ายทะเลเข้าไป ถูกพบว่ามีการเจริญเติบโตของเนื้องอกมีอัตราลดลงถึง 95 % เลยทีเดียว ซึ่งนั่นก็หมายความว่าการกินสาหร่ายทะเลเป็นประจำ จะช่วยลดการเจริญเติบโตของเนื้องอก และเซลล์ก่อเกิดมะเร็งได้
6.กรดไขมันโอเมก้า 3
กรดไขมันโอเมก้า 3 เป็นกรดไขมันที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นอย่างมาก การที่ร่างกายขาดกรดไขมันโอเมก้า 3 จะทำให้เสี่ยงเป็นมะเร็งเพิ่มขึ้นได้ อีกทั้งยังมีการศึกที่พบว่า DHA หรือที่เรียกว่ากรดโอเมก้า 3 มีคุณสมบัติช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อ HPV ได้เป็นอย่างดี เพราะฉะนั้นสาวๆ ที่อยาก ป้องกันมะเร็งปากมดลูก ควรกินกรดไขมันโอเมก้า 3 ให้เพียงพอตามที่ร่างกายต้องการก็คือวันละ 300 มิลลิกรัม จะช่วยลดโอกาสเกิดมะเร็งปากมดลูกได้
7.ตระกูลถั่ว
ถั่วเป็นพืชที่มีโปรตีนสูง และมีสารต้านอนุมูลอิสระอย่างแคโรทีนอยด์สูงมาก พืชตระกูลถั่วยังจัดว่าเป็นพืชที่เป็นอาหารชั้นยอดที่ช่วยต้านเซลล์มะเร็งได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะถั่วดำ ถั่วลิสง ถั่วเหลือง ถั่วลิมา และถั่วเลนทิลที่มีสารต้านอนมูลอิสระอย่างฟลาโวนอยด์ ซึ่งมีผลวิจัยพบว่าผู้ป่วยโรค HPV หรือผู้ป่วยที่พบว่ามีเซลล์ปากมดลูกผิดปกติ จะมีระดับโฟเลทในเลือดต่ำ และเมื่อนำไปเทียบกับเลือดคนของคนที่ไม่มีเซลล์มะเร็งปากมดลูก
ลดความเสี่ยงมะเร็งปากมดลูก ด้วยการฉีดวัคซีน
โรคมะเร็งปากมดลูก สามารถป้องกัน และลดความเสี่ยงได้จากการฉีด วัคซีนมะเร็งปากมดลูก หรือวัคซีน HPV สามารถฉีดได้ในเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 11-12 ขวบขึ้นไป หรือก่อนมีประจำเดือน จะช่วย ป้องกันมะเร็งปากมดลูก ได้ แต่ในกรณีผู้ที่ตรวจพบว่ามีโรค HPV ก็มีหลากหลายทางเลือกในการรักษาไม่ว่าจะเป็น การผ่าตัด การใช้รังสีรักษา และการใช้เคมีบำบัดในการรักษา หรืออาจจะรักษาร่วมก็ได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์
และนี่คือ 7 อาหาร ป้องกันมะเร็งปากมดลูก ที่เราได้นำมาฝากในวันนี้ อย่างไรก็ตามอาหารเหล่านี้เป็นเพียงวิธีลดความเสี่ยงเท่านั้น หากอยากป้องกันการเกิดมะเร็งปากมดลูก ควรไปฉีดวัคซีนจะสามารถป้องกันได้ดีมากกว่า การกินอาหารเป็นเพียงการลดความเสี่ยงเท่านั้น ไม่สามารถป้องกันได้ 100%
= = = = = = = = = = = =