เมื่อตั้งครรภ์นั้นเราจำเป็นต้องดูแลและใส่ใจสุขภาพครรภ์ทั้งของคนท้องเองและของทารกในครรภ์ การกินคือสิ่งหนึ่งที่คนท้องต้องวางแผนให้ดี คนท้องควรกินอะไร เพื่อบำรุงครรภ์ นั่นเพราะถ้าบำรุงดี สุขภาพครรภ์ก็ย่อมดีตามมา ขณะเดียวกันหากบำรุงครรภ์ไม่ดีสุขภาพครรภ์ก็จะแย่ตามมาเช่นกัน
คนท้องควรกินอะไร มาดูกันเลย
หากยังไม่แน่ชัดว่า คนท้องควรกินอะไร เพื่อบำรุงครรภ์ หลัก ๆ เลยให้คำนึงถึงอาหารหลัง 5 หมู่ นั่นเพราะเหล่านี้ล้วนเป็น อาหารบำรุงครรภ์ ที่ไม่ควรละเลย โดยควรทานประมาณ 2,500 กิโลแคลอรีต่อวัน และควรมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 10 – 12 กิโลกรัม ตลอดระยะเวลาที่ตั้งครรภ์
ทั้งนี้หากน้ำหนักมากเกินไปก็ไม่ใช่ผลดีกับทารกในครรภ์ คลอดยาก และอาจเกิดปัญหาครรภ์เป็นพิษได้ ขณะเดียวกันหากน้ำหนักน้อยเกินไป ก็อาจส่งผลให้ลูกในครรภ์น้ำหนักตัวน้อยกว่าเกณฑ์ และอาจคลอดก่อนกำหนดได้ นั่นเอง สิ่งสำคัญอยากเน้นว่า อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงขณะตั้งครรภ์ เพราะถือเป็นอันตรายต่อคนท้องและทารกในครรภ์ เช่น แอลกอฮอล์ ชา กาแฟ ผงกรอบ ผงชูรส อาหารหมักดอง อาหารดิบ เนื้อสัตว์ดิบ ไข่ดิบ เป็นต้น มาดูกันดีกว่า อาหารบำรุงครรภ์ สำหรับคนท้องนั้นควรกินอย่างไร
1.แคลอรี
คนท้องต้อง กินบำรุงครรภ์ ได้รับในปริมาณอาหารวันละ 2,500 กิโลแคลอรีต่อวัน
2.ธาตุเหล็ก
คนท้องต้องได้รับธาตุเหล็กเสริมวันละ 30 มิลลิกรัม ครรภ์แฝดวันละ 60-100 มิลลิกรัม ขณะที่ คนท้องบางคนมีภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก ควรได้รับธาตุเหล็กเสริมวันละ 200 มิลลิกรัม ทั้งนี้ในช่วง 4 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ ยังไม่จำเป็นต้องทานธาตุเหล็ก เพราะอาจทำให้คลื่นไส้ อาเจียน เวียนหัว รวมถึงอาการอื่น ๆ มากขึ้น อาหารบำรุงครรภ์ ที่มีธาตุเหล็ก เช่น ผักใบเขียวธัญพืช เนื้อสัตว์ ถั่ว ไข่ เป็นต้น
3.แคลเซียม
ในช่วงระยะสุดท้ายของการตั้งครรภ์ ทารกในครรภ์มีความต้องการแคลเซียมสูงมาก ถ้าแม่ตั้งครรภ์ขาดแคลเซียมหรือได้รับแคลเซียมต่ำ ทารกในครรภ์จะดึงเอาแคลเซียมในร่างกายแม่มาใช้ และหากยังได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอ อาจส่งผลให้ทารกเป็นโรคกระดูกอ่อนได้ด้วย การ กินบำรุงครรภ์ ที่มีแคลเซียม เช่น นม โยเกิร์ต เนย ธัญพืช ผักใบเขียว ไข่แดง เป็นต้น
4.ไอโอดีน
คนท้องที่ขาดไอโอดีนอย่างรุนแรง ส่งผลต่อการเสียชีวิตของทารก อาหารบำรุงครรภ์ ที่มีไอโอดีน เช่น เกลือทะเล อาหารทะเล นม สาหร่ายทะเล เป็นต้น
5.สังกะสี
หากแม่ตั้งครรภ์ขาดสังกะสี อาจส่งผลให้เกิดการคลอดก่อนกำหนด ทารกเจริญเติบโตช้ากว่าปกติ เสียเลือดหลังคลอดจากมดลูกหดรัดตัวไม่ดี เป็นต้น อาหารบำรุงครรภ์ ที่มีสังกะสี เช่น ข้าวกล้อง ตับ กุ้ง ซี่โครงหมู เป็นต้น
6.กรดโฟลิค
ในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ หากได้รับกรดโฟลิค จะช่วงป้องกันทารกจากโรค NTD คือ กระดูกไขสันหลังไม่ปิด เด็กจึงพิการเดินไม่ได้ และปัญญาอ่อน แม่ตั้งครรภ์จึงควรทานโฟลิควันละ 4 มิลลิกรัม เตรียมตัวก่อนตั้งครรภ์ประมาณ 3 เดือน ขณะเดียวกันหากคนท้องขาดโฟลิค จะทำให้เกิดภาวะโลหิตจางในได้ด้วย ดังนั้นควรกิน อาหารบำรุงครรภ์ ที่มีกรดโฟลิค เช่น ผักใบเขียว ผลไม้รสเปรี้ยว ขนมปังและธัญพืช ตับ ถั่ว เป็นต้น
7.วิตามินเอ
คนท้องที่ทานวิตามินเอ ต้องดูถึงความพอดีในการได้รับ เพราะหากทานวิตามินเอมากจนเกินไป จะส่งผลให้ทารกเกิดความพิการได้ อาหารบำรุงครรภ์ ที่มีวิตตามินเอ เช่น นม ไข่แดง ใบยอ บร็อคโคลี ผักโขม แครอต ใบบัวบก ใบแมงลัก มะละกอ เป็นต้น
8.วิตามินบี 12
หากแม่ตั้งครรภ์ขาดวิตามินบี 12 จะส่งผลต่อการเกิดภาวะโลหิตจางได้ อาหารบำรุงครรค์ ที่มี วิตามินบี 12 เช่น เนื้อหมู ตับหมู ถั่วเหลือง งา ข้าวโอ๊ต ไข่แดง นม กล้วยน้ำว้า ปลาหมึก เป็นต้น
9.วิตามินบี 6
คนท้องต้องทานแบบพอดี เพราะหากได้รับมากเกินไปอาจจะส่งผลให้ทารก อาหารบำรุงครรภ์ ที่มีวิตามิน บี 6 เช่น ข้าวโอ๊ต ไข่แดง นม กล้วยน้ำว้า เนื้อหมู ตับหมู ถั่วเหลือง งา ปลาหมึก เป็นต้น
ได้รู้กันแล้วว่า คนท้องควรกินอะไรบ้าง เพราะฉะนั้นก็อย่าลืมหาอาหารเหล่านี้มากิน เพื่อบำรุงครรภ์กันด้วยนะ
= = = = = = = = = = = =