ในสังคมไทยความเชื่อถือในเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวคนท้องมีเป็นจำนวนมาก แม้ในปัจจุบัน ความเชื่อคนท้อง เหล่านี้ยังคงอยู่ แต่บางอย่างก็ได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่าเชื่อได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ความเชื่อคนท้อง ที่เกิดขึ้นเหล่านี้มาจากความเป็นห่วงเป็นใยของผู้ใหญ่ที่อยากจะให้แม่ท้องและทารกในครรภ์ปลอดภัย แม้ในบางเรื่องจะเป็นสิ่งที่เรียกว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ตาม มาดูกันความ 10 ความเชื่อและความจริงนั้นเป็นอย่างไร ติดตามอ่าน
10 ความเชื่อคนท้อง VS ความจริงเกี่ยวกับแม่ท้อง
มาดูกันเลย ว่าความเชื่อคนท้องนั้นมีอะไรบ้าง โดยเราก็ได้รวบรวม 10 ความเชื่อมาบอกกันดังต่อไปนี้
1.น้ำมะพร้าว
ความเชื่อ : ความเชื่อเรื่องน้ำมะพร้าวกับคนท้องมีมาทุกยุคทุกสมัย แม้แต่ผู้เขียนเองตอนท้องก็ยังดื่มน้ำมะพร้าว เพราะเชื่อกันว่า ทารกในครรภ์จะมีผิวขาวสวย ไม่มีไขติดตามตัว ในตอนนั้นก็ไม่ทราบความจริงเหมือนกันค่ะว่าเชื่อแบบนี้ดีหรือไม่
ความจริง : ในน้ำมะพร้าวเป็นผลไม้ที่มีความบริสุทธิ์และมีแร่ธาตุ ได้แก่ ธาตุเหล็ก โพแทสเซียม โซเดียม วิตามินบี น้ำตาลกลูโคส และเอสโตรเจนที่ช่วยบำรุงผิวพรรณให้สดใสปรับสมดุลให้แก่ร่างกาย และช่วยขับสารพิษ อีกทั้งร่างกายยังสามารถดูดซึมไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว แต่ในทางการแพทย์ยังไม่มีการยืนยันอย่างแน่ชัดว่าการรับประทานน้ำมะพร้าวจะส่งผลให้เด็กในครรภ์มีผิวขาวสดใส ไม่มีไขมันติด ผิวหนังเมื่อคลอดออกมา โดยเฉพาะคุณแม่ที่มีภาวะโรคเบาหวานต้องพิจารณาความเหมาะสมก่อนจะดื่มนะ
2.กล้วยน้ำว้า
ความเชื่อ : การกินกล้วยน้ำว้าทำให้คลอดยาก เพราะกินกล้วยน้ำว้าจะ ทำให้เด็กตัวใหญ่
ความจริง : คุณคัทรินทร์ ปิยะวาทวงศ์ นักโภชนาการ ได้ให้ความเห็นในเรื่องการกินกล้วยน้ำว้า ดังนี้ “กล้วยน้ำว้าเป็นกล้วยที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง สาเหตุที่คนโบราณห้าม ไม่ให้กินนั้นน่าจะมีหลายสาเหตุ เช่น กลัวเด็กจะตัวโต เพราะในสมัยก่อยังไม่มีการผ่าตัดคลอด หากเด็กในท้องอ้วนสมบูรณ์เกินไปก็จะเป็นอันตรายทั้งแม่และลูก อีกอย่างหนึ่ง ในกล้วยสุกจะหวานและมีแป้งมาก กินสองสามลูกก็จะรู้สึกอิ่มทำให้ไม่อยากกินอย่างอื่น อาจเกิดการขาดสารอาหารได้ นอกจากนี้การกินกล้วยห่ามหรือกล้วยไม่สุก จะเกิดอาการท้องผูกได้ค่ะ”
3.ผักเครือ เถา
ความเชื่อ : โดยเฉพาะในท้องถิ่นทางภาคเหนือ เพราะเชื่อว่าจะทำให้หญิงตั้งครรภ์ปวดแข็งปวดขามากกว่าปกติ
ความจริง : ความเชื่อนี้มีส่วนถูกต้องอยู่บ้าง คุณคัทรินทร์ ปิยะวาทวงศ์ นักโภชนาการ ได้ให้ความเห็นในเรื่อง การรับประทานผักเป็นเครือเป็นเถาไว้ว่า “การรับประทานผักที่เป็นเครือเป็นเถานั้น โดยเฉพาะในยอดอ่อนจะมีสาร purin สูง ซึ่งสารนี้เมื่อย่อยแล้วจะกลายเป็นกรดยูริก ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคเก๊าส์ได้
4.การเย็บปักถักร้อย
ความเชื่อ : ห้ามหญิงตั้งครรภ์การเย็บปักถักร้อยจะทำให้ลูกปากแหว่งเพดานโหว่
ความจริง : น่าจะเป็นไปได้ว่า คนโบราณท่านเป็นห่วงในเรื่องของความปลอดภัยมากกว่า เพราะ การเย็บปักถักร้อยต้องก้มๆเงยๆอาจทำให้หน้ามืด วิงเวียนศีรษะและอาจเป็นลมได้ ซึ่งอาจจะเป็นอันตรายสำหรับหญิงตั้งครรภ์
สำหรับอาการปากแหว่งเพดานโหว่ของเด็กทารกแรกเกิดนั้นยังไม่มีผลการวิจัยที่ยืนยันชัดเจนว่าเกิดจากสาเหตุใด แต่มีการศึกษาว่า บางส่วนเกิดจากการพัฒนาของตัวอ่อนในช่วง 3 เดือนแรกมีความผิดปกติเกิดขึ้น และอีกงานวิจัยหนึ่ง คือ หญิงตั้งครรภ์ที่สูบบุหรี่จะมีผลทำให้ลูกปากแหว่งเพดานโหว่มากกว่าหญิงที่ไม่สูบบุหรี่ถึง 3 เท่า
5.กินเฉาก๊วยลูกผิวดำ กินมะพร้าวลูกผิวขาว
ความเชื่อ : ห้ามหญิงตั้งครรภ์กินของดำไม่เฉพาะเฉาก๊วยเท่านั้นนะคะ จำพวกซีอิ๊วดำ กะละแม หรืออะไรก็ตามที่ดำ คนท้องห้ามกินทั้งนั้นเดี๋ยวลูกจะผิวดำ
ความจริง : อาหารไม่ได้มีผลกับผิวพรรณของทารกในครรภ์แต่อย่างใด เพราะสีผิวขึ้นอยู่กับเม็ดสีที่เป็นไปตามกรรมพันธุ์ของแต่ละบุคคล ถ้าครอบครัวใดมีผิวขาว อย่างเช่นครอบครัวคนจีน ยังไงๆก็ไม่มีวันดำได้หรอกค่ะ ดังนั้นเรื่องของผิวเป็นเรื่องของกรรมพันธุ์ค่ะไม่เกี่ยวกับอาหารดำแต่อย่างใด
6.ท้องแหลม ท้องกลม
ความเชื่อ : คนโบราณเชื่อกันในเรื่องรูปร่างลักษณะของท้อง คือ ท้องแหลมเชื่อกันว่าจะได้ลุกชาย ท้องกลมจะได้ลูกสาว หรือดูแม้กระทั่งสะดือจุ่นจะได้ลูกชาย สะดือคว่ำจะได้ลูกสาว
ความจริง : เรื่องนี้น่าจะเป็นเพียงความเชื่อค่ะ เพราะรูปร่างหรือลักษณะของท้องท้องเล็ก ท้องใหญ่ ท้องกลม ท้องแหลมอันนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของมดลูกของแต่ละคนค่ะ รวมถึงกล้ามเนื้อหน้าท้องของคุณแม่ด้วย ดังนั้นเพศของลูกไม่อาจดูได้จากลักษณะของท้องแต่อย่างใด แม้แต่ผู้เขียนเองตอนท้องลูกสาวคนแรกสะดือจุ่นจนยื่นออกมา มีแต่คนทักว่าท้องนี้ได้ลูกชายชัวร์ แต่ก็ออกมาเป็นลูกสาว เพราะฉะนั้นรูปร่างของท้องไม่สามารถบอกเพศได้จริงๆค่ะ ฟันธง!
7.ห้ามไปงานศพ
ความเชื่อ : คนโบราณเชื่อกันว่าหญิงตั้งครรภ์ห้ามไปงานศพ เพราะเดี๋ยวผีจะเข้าท้อง มาดูกันค่ะว่าความจริงเป็นเช่นไร
ความจริง : งานศพ ถือเป็นงานที่ทำให้เกิดความเศร้าโศกเสียใจ เศร้าหมอง เพราะเป็นการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักหรือบุคคลที่เรารู้จักมักคุ้น ซึ่งก่อให้เกิดความเครียด ซึ่งคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ควรหลีกเลี่ยงความเครียดเพราะจะมีผลกระทบต่อทารกในครรภ์ได้ ข้อนี้ถือเป็นอุบายของคนในสมัยโบราณมากกว่าเพราะเตือนกันเฉยๆอาจจะไม่เชื่อ ดังนั้นจึงออกอุบายว่าเดี๋ยวผีจะมาสิง เพียงเท่านี้ก็ไม่ไปงานศพกันแล้ว
8.มีเซ็กส์ระหว่างตั้งครรภ์อาจทำให้แท้งได้
ความเชื่อ : ห้ามมีเซ็กส์ระหว่างตั้งครรภ์เพราะจะทำให้แท้งบุตร หรืออาจคลอดก่อนกำหนดได้
ความจริง : ทารกที่อยู่ในครรภ์ของคุณแม่น้ำได้รับการปกป้องอย่างดีเพราะมีถุงน้ำคร่ำคอยปก ป้อ งอย่างปลอดภัย ดังนั้น การมีเซ็กส์ระหว่างตั้งครรภ์จึงไม่มีปัญหาในเรื่องการแท้งบุตรหรือคลอดก่อนกำหนด เพราะการแท้งบุตรและการคลอดก่อนกำหนดนั้นมีปัจจัยหลายอย่างเป็นองค์ประกอบซึ่งไม่ใช่การมีเซ็กส์อย่างแน่นอน
9.อาการแพ้ท้องเกิดเฉพาะตอนเช้า (Morning Sick)
ความเชื่อ : เชื่อกันว่าอาการแพ้ท้องเกิดเฉพาะตอนเช้า (Morning Sick) เท่านั้น
ความจริง : อาการแพ้ท้องหรือที่เรียกว่า Morning Sick ไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นในช่วงเช้าเท่านั้น อาจเกิดขึ้นได้ทุกเวลา เพียงแต่ในตอนเช้าที่คุณแม่ตื่นขึ้นมาท้องจะว่างโอกาสเกิดอาการแพ้ท้องจึงมีได้มากกว่าเวลาอื่นๆเท่านั้นเองค่ะ
10.มองดูรูปเด็กน่ารัก ลูกคลอดออกมาจะน่ารัก
ความเชื่อ : เชื่อกันว่า หญิงตั้งครรภ์ต้องดูภาพเด็กที่หน้าตาน่ารัก ลูกที่คลอดออกมาจะได้น่ารัก
ความจริง : เรื่องนี้ยังไม่มีผลการวิจัยทางการแพทย์ใดออกมายืนยัน หญิงตั้งครรภ์ควรจะมีอารมณ์ที่ดี ไม่ควรเครียดเพราะจะมีผลกระทบต่อทารกในครรภ์ ดังนั้นการได้ดูได้ชมอะไรที่สวยๆงามๆน่าจะเป็นสิ่งดีทำให้อารมณ์ดี ทารกที่คลอดออกมาจะได้มีอารมณ์ดีไม่งอแงยังไงล่ะคะ
สรุป
นี่เป็นเพียงความเชื่อหลักๆที่มักจะพูดถึงกันเสมอในยามตั้งครรภ์ ซึ่งนอกจากนี้ก็ยังมีความเชื่ออื่นอีกด้วย เช่น ความเชื่อคนท้องติดเข็มกลัด หรือความเชื่อคนท้องห้ามตัดผม เป็นต้น ทีนี้เราก็ทราบกันแล้วว่าความเชื่อคนท้องกับความจริงเป็นเช่นไร แต่อยากฝากข้อคิดไว้นิดนึงนะคะ การที่มีความเชื่อใดๆก็ตามขึ้นมานั้นให้ดูถึงเหตุผลเป็นสำคัญ
อ้างอิงข้อมูลจาก หนังสือตั้งครรภ์คุณภาพ นภัสนันท์ ผู้เขียน
= = = = = = = = = = = =