คุณแม่หลาย ๆ คนมีปัญหาภาวะซึมเศร้าหลังคลอดหรือที่เรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า BABY BLUES หรือ POSTPARTOM BLUES ซึ่งมักจะเกิดขึ้นในช่วง 6 สัปดาห์หลังคลอด บางคนก็มีอาการนี้จนลูกโตเดินได้ก็มี และหากปล่อยไว้อาจรุนแรงถึงขั้นฆ่าตัวได้ น่ากลัวจริง ๆ ค่ะ แบบนี้ต้องมารับมือเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาโรคซึมเศร้าหลังคลอดกันแล้วค่ะ
ภาวะซึมเศร้าหลังคลอด เกิดจากอะไร
คุณแม่หลังคลอด อาจมีอาการซึมเศร้าได้ ซึ่งนั่นเกิดจากอะไร ต้องไปดูกันเลย
สาเหตุของโรคซึมเศร้า
1.ระดับฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงหลังคลอด
2.การปรับตัวไม่ได้หรือปรับตัวไม่ทันที่ต้องกลายมาเป็นคุณแม่
3.ความเหนื่อยล้าของร่างกายและจิตใจ กรณีต้องเลี้ยงลูกเอง ไม่มีผู้ช่วยเลี้ยง
ลักษณะของภาวะซึมเศร้าหลังคลอด
1.มักร้องไห้บ่อย ๆ โดยไม่มีสาเหตุ
2.เบื่ออาหาร กินอาการได้น้อยลง
3.รู้สึกน้อยใจเป็นประจำ
4.อารมณ์แปรปรวน ฉุนเฉียวโมโหง่าย ใจร้อน
5.ตกใจง่าย รู้สึกหวาดหวั่น
6.รู้สึกตนเองไร้ค่า ไม่มีความหมายกับใคร
7.รู้สึกสิ้นหวัง หมดหวังตลอดเวลา
8.รู้สึกว่าตนเองเป็นแม่ที่ไม่ดี
รับมืออาการซึมเศร้าหลังคลอด ต้องทำแบบนี้
คุณแม่สามารถรับมือและรักษาโรคซึมเศร้าได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้
1.ปรึกษาคุณหมอ
หากมีภาวะซึมเศร้าหลังคลอดรุนแรงควรรีบปรึกษาคุณหมอ เพราะถ้าปล่อยไว้จะมีอาการรุนแรงมากขึ้นจนแก้ไขได้ยาก ไม่ต้องอายที่จะปรึกษาคุณหมอนะคะ ควรคำนึงถึงความปลอดภัยของตนเองและลูกน้อยจะดีกว่า
2.อย่ารู้สึกผิด
ภาวะซึมเศร้าหลังคลอดเป็นเรื่องที่อาจเกิดขึ้นได้กับแม่หลังคลอดทุกคน และไม่ถือว่าเป็นเรื่องปกติ เป็นได้ก็หายได้นะคะ
3.อย่าอยู่คนเดียว
ควรหาเพื่อนหรือคนใกล้ชิดอยู่ด้วย โดยเฉพาะในเวลาที่รู้สึกเศร้ามาก ๆ เพราะจะได้มีเพื่อนคลายเหงาและรับฟังสิ่งที่อยากพูด ทำให้ไม่รู้สึกเหงาหรือโดดเดี่ยว หากอยู่คนเดียวนาน ๆ อาการจะรุนแรงขึ้น
4.พักผ่อนมาก ๆ
การพักผ่อนอย่างเพียงพอ นอกจากจะช่วยผ่อนคลายร่างกายแล้ว ยังช่วยผ่อนคลายจิตใจด้วย ทำให้คุณแม่รู้สึกร่าเริงแจ่มใสมากขึ้น หรืออาจเลือกวิธีการพักผ่อน ดังนี้
- การนอนหลับยาว ๆ หรืองีบหลับเท่าที่จะทำได้
- การทำงานอดิเรกที่ตนชื่นชอบเช่น อ่านหนังสือ เล่นอินเตอร์เน็ต ฟังเพลง เล่นดนตรี ดูหนัง ดูละคร เขียนบันทึก เล่นเกม ร้องเพลง ทำอาหร ทำขนม เดินเล่น ฯลฯ
5.ยอมรับความช่วยเหลือ
ต้องยอมรับความช่วยเหลือ และยอมรับว่าตัวเองไม่สบาย ยอมรับความช่วยเหลือและความห่วงใยจากผู้ที่รักอย่างคนในครอบครัว เพื่อให้ตนเองมีกำลังเสริมในการดูแลตนเองและทำให้รู้สึกไม่เหงาอีกด้วย
6.ทำสมาธิ
รักษาโรคซึมเศร้า ด้วยการหาเวลาทำสมาธิบ้างอย่างน้อยวันละ 10 – 30 นาที การทำสมาธิมีผลดีหลายประการ ดังนี้
- ทำให้จิตใจสงบ มั่นคง มั่นใจมากขึ้น
- คลายเครียด ลดความวิตกกังวล ทำให้หลับได้ง่ายขึ้น
- ช่วยผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจไปพร้อม ๆ กัน
- ทำให้เกิดสติปัญญา มองเห็นตัวเองในมุมมองที่ถูกต้องมากกว่า และคิดบวกมากขึ้น
- ลดอาการปวดหัว เวียนหัว และไม่สบาย ทำให้สมองปลอดโปร่ง
7.กินอาหารคลายเครียด
อาหารที่มีประโยชน์ ช่วยคลายเครียด และลดภาวะซึมเศร้าหลังคลอด ได้แก่
- อัลมอนด์ ช่วยคลายเครียด คลายความตื่นเต้น วิตกกังวล มีวิตามินบี วิตามิน อี โอเมก้า 3 โปรตีน ไฟเบอร์ และไขมัน
- ข้าวกล้องงอก ช่วยคลายเครียด ทำให้จิตใจสงบ เผาผลาญไขมันได้ดี และบริหารประสาทตา ดีต่อสุขภาพหลังคลอดของคุณแม่
- กล้วย ช่วยคลายเครียด บรรเทาอาการซึมเศร้า หดหู่ นอนไม่หลับ และป้องกันอาการหงุดหงิดในช่วงมีประจำเดือนอีกด้วย
- ส้ม ช่วยคายเครียด มีวิตามินซีสูง ทำให้ผิวพรรณสวยงาม
- ชาเขียว ช่วยคลายเครียด ทำให้จิตใจสงบ นอนหลับสบาย มีสมาธิเพิ่มขึ้น ลดระดับคอเลสเตอรอล มีวิตามินซี และมีอนุมูลอิสระที่ช่วยทำให้ร่างกายดูอ่อนกว่าวัย
- ผักโขม ช่วยคลายเครียด ช่วยในการทำงานของระบบประสาท มีวิตามินบี และธาตุเหล็ก
วิธีการต่าง ๆ ในบทความนี้ หวังว่าจะช่วยคุณแม่ลดอาการภาวะซึมเศร้าหลังคลอดได้นะคะ
ร่วมแชร์บทความเพื่อมอบสาระความรู้เกี่ยวกับแม่ท้องและเรื่องราวในแง่มุมต่าง ๆ ตั้งแต่การตั้งครรภ์ไปจนถึงวิธีการการเลี้ยงดูทารก และสารพันความรู้อีกมากมาย ที่เป็นประโยชน์แก่ผู้สนใจอื่น ๆ มาร่วมสร้างสังคมออนไลน์ที่มีคุณภาพเต็มเปี่ยมไปด้วยสาระและเกร็ดความรู้ดี ๆ กับเพจทีมคนท้องกันนะคะ
= = = = = = = = = = =
ติดตามความรู้ดี ๆ และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่
https://www.facebook.com/teamkonthong/
We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about how can you grow up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or have any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook
https://www.facebook.com/teamkonthong/
บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..
1.เสื้อผ้าเด็กแรกเกิด ควรเลือกแบบสายผูก หรือแบบกระดุมดีกว่ากัน