ในการเจ็บป่วยของลูกน้อย โรคโปลิโอเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่กลัวมากที่สุด สำหรับโรคนี้เราเรียกอีกอย่างกันว่าไขสันหลังอักเสบ โดยโรคนี้จะเกิดขึ้นจากการที่เจ้าตัวเล็กมีการติดเชื้อไวรัสโปลิโอ ส่งผลทำให้เกิดอัมพาตของกล้ามเนื้อแขนขา และในบางรายอาจอาจถึงขั้นเสียชีวิตเนื่องจากหัวใจล้มเหลว หรือมีความผิดปกติในระบบการหายใจได้เลย ดังนั้นจึงจำเป็นต้องให้เด็กได้รับวัคซีนโปลิโอ แต่เนื่องจากวัคซีนชนิดนี้มีทั้งแบบหยอดและฉีด ทำให้หลายคนสงสัยว่าต่างกันยังไง ดังนั้นเรามาหาคำตอบกันเลย

โรคโปลิโอสามารถติดต่อได้อย่างไร

ในการติดเชื้อโปลิโอ ลูกน้อยสามารถติดต่อโดยการรับเชื้อเข้าทางปาก โดยเชื้อเหล่านี้จะมีการแพร่กระจายและเพิ่มจำนวนมากขึ้นในลำคอ สำไส้ลุกลามไปยังระบบประสาทก่อให้เกิดการอักเสบของไขสันหลังที่เป็นตัวควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อแขนและขาของลูกน้อย โดยโรคโปลิโอนี้สามารถพบว่าผู้ติดเชื้อจะมีอาการเป็นอัมพาตเพียงแค่ 1-2% เท่านั้น ที่สำคัญพบได้บ่อยในเด็กอายุน้อยกว่า 5 ปี เป็นวัยที่ติดต่อกันง่ายด้วยร่างกายที่ขับเชื่อออกจากทางเดินอาหารด้วยระยะเวลานาน ทำให้เกิดการระบาดได้ง่ายและนาน แต่คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องเป็นกังวลเพราะคุณสามารถปกป้องลูกรักจากโรคนี้ได้ด้วยการพาไปฉีดวัคซีนป้องกันโปลิโอตามกำหนด

วัคซีนโปลิโอ คืออะไร

วัคซีนโปลิโอเป็นวัคซีนที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ลูกรัก โดยปัจจุบันนี้มีทั้งแบบหยอดและแบบฉีด เดิมในประเทศไทยใช้วัคซีนแบบหยอดเพื่อป้องกันโรคโปลิโอชนิด 3 สายพันธุ์ แต่ปัจจุบันเหลือเพียงแค่ 2 สายพันธ์เท่านั้นโดยจะใช้ร่วมกับวัคซีนชนิดฉีด เนื่องจากแบบเดิมถูกค้นพบว่ามักมีการกลายพันธุ์และส่งผลเสียย้อนกลับมาหาลูกน้อยมากกว่าประโยชน์ที่จะได้รับ

วัคซีนโปลิโอ มีกี่ชนิด

ก็อย่างที่ได้กล่าวมาในเบื้องต้นสำหรับวัคซีนเพื่อป้องกันโรคโปลิโอในปัจจุบันมี 2 ชนิดได้แก่ วัคซีนโปลิโอแบบหยอด OPV และวัคซีนโปลิโอแบบฉีด IPV เพื่อประสิทธิภาพที่ดีขึ้นสำหรับวัคซีแบบฉีดจะถูกนำมารวมกับวัคซีน 5 โรคและ 6 โรค ได้แก่ คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก โปลิโอ ฮิบและไวรัสตับอักเสบบี ลองมาดูวัคซีนป้องกันโรคโปลิโอแต่ละชนิดกันค่ะ

1. ชนิดหยอด

วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอชนิดหยอด ถูกสร้างขึ้นมาจากไวรัสโปลิโอที่ยังมีชีวิตอยู่นำมาผ่านกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ทำให้มีฤทธิ์อ่อนตัวลงแต่ก็ยังสามารถใช้กระตุ้นเพื่อที่ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมา วิธีการใช้ยาโดยการหยอดใส่ปาก เป็นการเลียนแบบการติดเชื้อทางธรรมชาติ วิธีการนี้ทำให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายโดยเฉพาะที่ลำคอและลำไส้ จะได้ไวต่อการสัมผัสและเกิดการกระตุ้นได้อย่างท่วงทัน สำหรับวัคซีนชนิดนี้มีประโยชน์ในการป้องกันและยับยั้งการติดเชื้อของโรคโปลิโอ

สำหรับวัคซีนป้องกันโรคโปลิโอแบบหยอดนี้ เป็นวัคซีนพื้นฐานสำหรับเด็กไทยที่จะต้องได้รับทุกคนเมื่อลูกน้อยมีอายุครบ 2 , 4 , 6 และ 18 เดือน จนกระทั่งอายุ 4-6 ปี

2. ชนิดฉีด

สำหรับวัคซีนโปลิโอชนิดฉีด ได้ถูกสร้างขึ้นมาอยู่ในรูปแบบของวัคซีนรวม โดยจะรวมอยู่กับวัคซีนป้องกันโรคต่างๆ ได้แก่ คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก ฮิบ และวัคซีนป้องกันโรคไว้รัสตับอักเสบบี ซึ่งวัคซีนประเภทนี้จะมีข้อบ่อใช้กับเด็กที่เป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือกรณที่เจ้าตัวไม่ได้เป็นแต่มีพี่น้อง สมาชิกในครอบครัวเป็นโรคดังกล่าวถือว่าเข้าข่ายเช่นกัน

วัคซีนโปลิโอแบบฉีด หรือหยอดดีกว่ากัน

ในมุมมองทางการแพทย์ถือว่าวัคซีนทั้งสองชนิดมีความสำคัญด้วยกันทั้งคู่ด้วยประเทศไทยถือว่าเป็นประเทศที่มีการระบาดของโรคโปลิจำเป็นที่เด็กทารก หรือลูกน้อยจะต้องได้รับวัคซีนทั้งสองแบบควบคู่กันไป

  • โดยวัคซีนแบบหยอดจะเข้ามาทำหน้าที่ในการสร้างภูมิคุ้มกันทั้งในกระแสเลือดและเยื่อบุลำไส้ จัดเป็นวัคซีนเฉพาะที่ที่เข้ามาช่อยป้องกันการติดเชื้อบริเวณลำไส้ไม่ให้ลุกลามไปยังร่างกาย ซึ่งสร้างมาจากเชื้อโปลิโอที่อยู่ตามธรรมชาติ
  • วัคซีนชนิดฉีด มีประสิทธิภาพสูงในการสร้างภูมิคุ้มกันในกระแสเลือด แต่ก็ยังมีจุดด้วยตรงที่สร้างภูมิคุ้มกันเฉพาะที่ได้น้อย แต่สามารถเข้าไปช่วยลดอาการอัมพาตที่มาจากผลข้างเคียงของวัคซีนแบบหยอดได้

ผลข้างเคียงจากโปลิโอ มีอะไรบ้าง

  1. หลังจากที่ลูกน้อยได้รับวัคซีนคุณพ่อคุณแม่เตรียมใจไว้เลยว่าลูกน้อยจะมีอาการงอแง ไม่สบายตัว
  2. มีไข้ขึ้นสูง โดยที่อุณหภูมิมากกว่า 39 องศา
  3. เบื่ออาหาร อาเจียร
  4. สำหรับวัคซีนชนิดฉีด จะเกิดอาการบวมแดง และเจ็บบริเวณที่ถูกฉีด แต่ก็เป็นอาการปวดเล็กน้อยไม่ได้มีผลกระทบต่อร่างกาย อาการปวดจะทุเลาลงได้เองภายใน 48 ชั่วโมง

ใครบ้างที่ไม่สามารถรับวัคซีนโปลิโอได้

คนที่ไม่สามารถรับวัคซีนโปลิโอได้ จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มตามชนิดของวัคซีนดังนี้

วัคซีนชนิดหยอดที่ไม่ควรให้แก่ผู้ที่อยู่ในกลุ่ม

1. ลูกน้อยที่เป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องแนะนำให้ใช้วัคซีนชนิดฉีดแทน

Sponsored

2. กรณีที่ลูกน้อยไม่ได้เป็น แต่สมาชิกภายในบ้านพ่อ แม่ พี่น้องเป็นก็เช่นเดียวกัน

3. คุณแม่ที่มีการตั้งครรภ์

วัคซีนชนิดฉีดที่ไม่ควรให้แก่ผู้ที่อยู่ในกลุ่ม

1. ผู้ที่เคยมีประวัติแพ้ยาขั้นรุนแรง สังเกตุจาการฉีดในครั้งก่อนหน้านี้

2. ผู้ที่พบประวัติมีการแพ้ยา Streptomycin,neomycin หรือ Polymyxin B

3. มีอาการไข้ เจ็บป่วย หรือเป็นหวัดเพียงเล็กน้อยก็ไม่สามารถฉีดได้ให้เลื่อนออกไปก่อนค่อยกลับมาฉีดภายหลังถ้าหายดี

ไม่ต้องเป็นกังวลใจไปนะคะ ไม่มีอะไรที่น่าห่วงถ้าคุณพ่อคุณแม่พาลูกน้อยรับวัคซีนครบตามกำหนดที่คุณหมอได้นัด เพียงเท่านี้ลูกน้อยก็จะปลอดภัยหายห่วงแล้วค่ะ

= = = = = = = = = = = =

ติดตามความรู้ดี ๆ  และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่
https://www.facebook.com/teamkonthong/

We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about how can you grow up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or have any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook

https://www.facebook.com/teamkonthong/

บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..

1.ทำความรู้จักกับสารอาหารในนมแม่ เช็คสิ มีอะไรบ้าง

2.7 วิธีดูแล ทำความสะอาดเต้านม พร้อมกระตุ้นน้ำนมแม่