การนอนหลับถือเป็นการพักผ่อนของร่างกายที่ดีที่สุด และทุกคนก็ควรพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย วันละ 7-8 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ แต่หลายคนกับมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของการนอน นั่นก็คือ ไม่ว่าจะนอนหลับเพียงพอเท่าไหร่ก็ยังคงมีอาการ ง่วงนอนบ่อย ซึ่งคุณรู้หรือไม่ว่าอาการดังกล่าวเป็นอาการผิดปกติที่คุณไม่ควรมองข้าม เพราะนั่นอาจจะกำลังบ่งบอกถึงความเสี่ยงต่อการเป็นโรคต่าง ๆ ที่คุณอาจจะคาดไม่ถึงก็เป็นได้ วันนี้เราจึงมีข้อมูลเกี่ยวกับ อาการง่วงนอนบ่อย มาฝาก ว่าอาการง่วงนอนแบบไหนที่ไม่ปกติ พร้อมกับเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ อะไรบ้าง
อาการง่วงนอนบ่อย ง่วงแบบไหนไม่ปกติ
อาการง่วงนอนบ่อย ง่วงนอนแบบไหนที่เป็นอาการผิดปกติ ที่อาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ ได้บ้าง เชื่อว่าหลายคนกำลังเผชิญกับปัญหานี้อยู่แน่นอน ซึ่งการ ง่วงนอนบ่อยที่กำลังแสดงถึงความผิดปกติในตัวคุณมีดังต่อไปนี้
- คุณมักจะมี อาการง่วงนอนบ่อยซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการง่วงระหว่างวัน ซึ่งเราสามารถสังเกตความผิดปกติที่เกิดขึ้นได้จากความง่วงที่มีมากกว่าปกติ จนส่งผลทำให้มีปัญหารบกวนกับคุณภาพชีวิต หรือการทำงาน
- หากปัญหา ง่วงนอนบ่อย ๆ ที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาที่รีบด่วน เช่น งีบหลับหรือหลับในขณะขับรถ ร่วมกับมีอาการหลับทันทีเมื่อง่วงนอน หรือไม่สามารถทำงานระหว่างวันได้ นับว่าเป็นอาการที่ผิดปกติที่คุณควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที
- ง่วงนอนบ่อย ๆ ทั้งที่พักผ่อนหรือมีการนอนหลับอย่างเพียงพอ มีอาการไม่กระปรี้กระเปร่า ง่วงซึม อ่อนเพลียตลอดเวลา ก็เป็นอาการง่วงที่ไม่ปกติ เพราะนั่นอาจจะกำลังบ่งบอกถึงอาการป่วยบางอย่างก็เป็นไปได้
ง่วงนอนบ่อย เสี่ยงเป็นโรคอะไรบ้าง
อาการง่วงนอนบ่อย บ่งบอกถึงความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลาย ๆ อย่าง ซึ่งโรคที่มักจะแฝงมากับ อาการง่วงนอนบ่อย ที่คุณอาจคิดไม่ถึงมีดังต่อไปนี้
1.โรคโลหิตจาง
โรคโลหิตจาง เป็นโรคที่มักมากับคนที่มี อาการง่วงนอนบ่อย โดยเฉพาะคนที่มีภาวะโลหิตจาง หรือในผู้หญิงที่มีประจำเดือนมากผิดปกติ ก็อาจรู้สึกง่วงนอนบ่อย ๆ ได้เช่นกัน เนื่องจากภาวะที่ร่างกายมีระบบไหลเวียนเลือดที่ไม่สมบูรณ์อาจนำมาซึ่งอาการอ่อนเพลีย และทำให้รู้สึกอยากนอนหลับมากกว่าปกตินั่นเอง หรือหากใครที่เป็นโรคนี้อยู่แล้วลองสังเกตตนเองดูจะเห็นได้ว่ามักจะมี อาการง่วงนอนบ่อย จนผิดปกติเลยก็ว่าได้
2.โรคเบาหวาน
อาการอ่อนเพลียและง่วงนอนบ่อย ๆ อาจเป็นสัญญาณของโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ก็ได้ สังเกตได้ง่ายจากอาการปัสสาวะบ่อยผิดปกติ เหนื่อยง่าย หิวน้ำบ่อย กินจุบจิบแต่น้ำหนักลงอย่างรวดเร็ว ใครที่ชอบง่วงระหว่างวันบ่อย ๆ ทั้งที่พักผ่อนอย่างเพียงพอ คุณอาจจะเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานก็เป็นไปได้
3.โรคไทรอยด์
โรคไทรอยด์ เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ ไม่ว่าจะเป็นภาวะขาดฮอร์โมนไทรอยด์ในร่างกาย หรือมีภาวะไทรอยด์เป็นพิษ ก็อาจส่งผลทำให้ร่างกายแสดงอาการของโรคมาในรูปแบบอาการอ่อนเพลีย อาการง่วงนอนบ่อย จนผิดปกติได้เช่นกัน ซึ่งหลายคนที่ป่วยเป็นโรคนี้มักจะง่วงนอนบ่อยกว่าปกติ
4.โรคเครียด
นอนไม่หลับ ก็อาจเป็นสัญญาณของโรคเครียดได้ เนื่องจากความเครียดจะส่งผลกระทบต่อระบบฮอร์โมนต่าง ๆ ในร่างกาย และส่งผลการทำงานอื่น ๆ ในตัวของเราด้วย จึงเป็นที่มาของอาการนอนไม่หลับ อ่อนเพลีย จนทำให้มักเกิดความง่วงบ่อย ๆ
5.โรคแพ้กลูเตน
สำหรับคนที่แพ้โปรตีนกลูเตน หากรับประทานอาหารที่มีส่วนประกอบของโปรตีนกลูเตน จะก่อให้เกิดอาการแพ้ โดยจะส่งผลทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย ท้องเสีย และโลหิตจางได้ โดยอาหารที่มีโปรตีนกลูเตน ก็จะเป็นพวก ขนมปัง เค้ก หรือซีเรียล หากเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงการทานอาหารเหล่านี้จะดีกว่า
แก้อาการง่วงนอนได้อย่างไร
ง่วงนอนบ่อย ๆ ทำอย่างไร สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างไร สำหรับใครที่มี อาการง่วงนอนบ่อยสามารถแก้อาการง่วงที่เกิดขึ้นระหว่างวันได้ดังนี้
- ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเอง การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตของตนเองจะช่วยลดปัญหาการง่วงนอนระหว่างวันได้ เช่น เข้านอนให้เป็นเวลา พักผ่อนให้เพียงพอ ตื่นนอนให้เป็นเวลา หรืออาจจะนอนกลางวันอย่างน้อย 30 นาที เพื่อให้ร่างกายสดชื่น และช่วยลดความง่วงได้ดีในระดับหนึ่งเลยทีเดียว
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาบางประเภทที่ส่งผลทำให้อาจเกิดความง่วงระหว่างวัน และควรหลีกเลี่ยงการใช้สารเสพติดต่าง ๆ
- ปรับเปลี่ยนบรรยากาศของห้องนอน และห้องทำงานให้มีบรรยากาศโล่ง สบาย ไม่อับทึบจนเกินไป มีอุณหภูมิที่พอเหมาะ บรรยากาศในห้องนอนควรจะต้องมืดสนิท และเงียบ เพื่อให้สามารถนอนหลับพักผ่อนได้อย่างเต็มที่นั่นเอง
ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลเกี่ยวกับอาการง่วงนอนบ่อย ๆ ที่เรานำมาฝาก ซึ่งก็จะเห็นได้ถึงความเสี่ยงต่อการเกิดโรคไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะเมื่อเราได้รู้แบบแล้วก็ลองสังเกตอาการของตนเองกันดูบ่อย ๆ หากรู้สึกว่าเป็นอาการง่วงที่ผิดปกติ แนะนำให้คุณหมั่นตรวจสุขภาพบ่อย ๆ เพราะหากเสี่ยงต่อการเกิดโรคดังกล่าวจะได้สามารถรักษาได้อย่างท่วงที และเพื่อจะได้กลับมาดูแลสุขภาพให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
= = = = = = = = = = = =