ทุกวันนี้สิ่งที่คุณแม่หลายๆ คนตระหนักวิตกกังวลเป็นอย่างมากนอกจากการเลี้ยงดูเจ้าตัวเล็กให้มีพัฒนาการเป็นไปตามวัยแล้ว ก็คือการดูแลลูกน้อยไม่ให้เจ็บป่วยนั่นเอง ซึ่งหูดข้าวสุกก็เป็นอีกหนึ่งโรคที่คุณแม่ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด เพราะเป็นโรคที่มีความอันตรายไม่น้อยเลยทีเดียว ดังนั้นเรามาทำความรู้จักกับโรคนี้เพื่อหาวิธีป้องกันไม่ให้ลูกเป็นหูดข้าวสุกกันดีกว่า

ลูกเป็นหูดข้าวสุก เกิดจากอะไร

หูดข้าวสุก ก็คือโรคผิวหนังชนิดหนึ่ง เกิดจากการติดเชื้อ มาจากไวรัสชนิดหนึ่งชื่อว่า Molluscum contagiosum ซึ่งเป็นไวรัสคนละตัวกับหูดทั่วๆ ไป จัดเป็นโรคที่พบบ่อยทั่วโลก จากสถิติพบในประเทศสหรัฐอเมริกาประมาณ 1% ของจำนวนคนทั้งหมด ที่สำคัญจะเกิดในประเทศเขตร้อน ในเด็กตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไปตัวไวรัสจะเข้าไปทำลายผิวหนังให้แตก เป็นแผลและกลายเป็นหูดข้าวสุกได้ แต่คุณแม่สบายใจได้เลยเพราะไม่มีผลกระทบต่ออวัยวะภายใน เพียงแค่คุณแม่เองต้องระวังไม่ลูกน้อยไปสัมผัสตัวกับผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้เนื่องสามารถเป็นโรคที่ติดต่อกันได้ จากการสัมผัสโดยตรง

อาการของโรคหูดข้าวสุก

1. โรคหูดข้าวสุก มีลักษณะเป็นตุ่มขึ้นบริเวณผิวหนัง ตามลำตัว แขนขา รักแร้ ข้อพับ ขาหนีบ แม้แต่บริเวณอวัยวะเพศและบริเวณรอบดวงตา(โดยเฉพาะผู้ใหญ่)

2. ลูกน้อยที่เป็นโรคข้าวสุก จะมีตุ่มขึ้นเป็นกลุ่มมากกว่า 1 แห่งทั่วร่างกาย โดยตัวหูดจะมีลักษณะสีเหลืองหรือสีผิว เป็นผิวเรียบเป็นมันวาวคล้ายไข่มุกมีรอยบุ๋มอยู่ที่ตรงกลาง

3. ตุ่มข้าวสุกที่เกิดขึ้นจะมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2-6 มิลลิเมตร ในบางรายอาจมีขนาดใหญ่มากถึง 1-3 เซ็นติเมตรเลยทีเดียว

4. หากลูกน้อยเป็นหูดชนิดนี้จะไม่ก่อให้เกิดอาการคัน เจ็บ หรือระคายเคือง เมื่อใช้เล็บหรือเข็มสะกิดจนแตกจมีเนื้อหูดสีขาวขุ่นเละไหลออกมา

วิธีการรักษา

ทั่วๆไปแล้วหูดข้าวสุกในลูกน้อยเป็นโรคที่ไม่ได้มีความอันตรายร้ายแรง แม้ว่าจะสามารถติดต่อได้ง่ายแต่ก็สามารถหายเองได้ แต่ต้องใช้ระยะเวลาเป็นเดือน แต่ได้รับการรักษาก็จะหายได้เร็วขึ้น

1. ปกติแล้วลูกน้อยที่เป็นหูดข้าวสุกจะหายเองในเวลา 6-9 เดือน ส่วนน้อยที่จะหายช้า การรักษาเป็นเพียงช่วยให้โรคหายได้เร็วขึ้นและลดกระจายการแพร่เชื้อ เริ่มแรกหากคุณแม่เห็นถึงความผิดปกติ หรือสังเกตุว่าลูกน้อยของคุณมีอาการใกล้เคียง ให้รีบพบคุณหมอโดยด่วน

2. สำหรับบ้านไหนที่มีลูกน้อยเป็นหูดข้าวสุกถ้าไม่รุนแรงและเป็นในปริมาณที่น้อย ทางแพทย์จะแนะนำให้ค่อยๆดูแล และปล่อยให้หายเองเพื่อที่ลูกรักจะได้ไม่เจ็บปวดจากการรักษาด้วยวิธีต่างๆ จะใช้เวลาไม่เกิน 2-3 เดือนก็หายเป็นปกติแล้ว

วิธีการป้องกันการแพร่เชื้อ

1. คุณแม่จะต้องดูแลให้ลูกน้อยสวมใส่เสื้อผ้าปกคลุ่มตุ่ม สำหรับรอยตุ่มนอกร่มผ้าให้ใช้พลาสเตอร์กันน้ำมาติดเพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าตัวเล็กเกา และป้องกันการสัมผัสจากผู้อื่น

2. สำหรับคุณแม่เมื่อมีการสัมผัสลูกน้อยจะต้องล้างมือ หรือทำความสะอาดฆ่าเชื้อด้วยเจลแอลกอฮอล์

3. หลีกเลี่ยงการใช้ของใช้ส่วนตัวเช่น ผ้าเช็ดตัว เสื้อผ้า ฟองน้ำ ร่วมกับผู้อื่น

4. การป้องกันไม่ให้เชื้อโรคมีการเจริญเติบโต คุณแม่จะต้องซักเสื้อผ้าด้วยผงซักฝอกและตากแดด หรือทำการรีดเพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อเจริญเติบโต

Sponsored

5. งดใช้สระน้ำในขณะที่เป็นโรค เพื่อป้องกันการแพร่กระจายโรค

วิธีการป้องกัน

1. คุณแม่จะต้องดูและไม่ให้ลูกน้อยมีการสัมผัสกับผู้ป่วยโดยตรง

2. สอนให้ลูกน้อยรู้จักล้างมือเป็นประจำเวลาที่ออกนอนกบ้านหรือสัมผัสกับสิ่งของธารณะ

3. จะต้องหมั่นดูแลความสะอาดของสิ่งของเครื่องใช้ที่ใช้ร่วมกันเป็นประจำ

4. ระวังไม่ให้ลูกรักมีการใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เชื่อเสื้อผ้า ผ้าเช็ดหน้า รองเท้า เป็นต้นเพื่อป้องกันการติดเชื้อ

5. หมั่นทำความสะอาดเสื้อผ้า ฆ่าเชื้อโรคด้วยการตากแดด หรือรีด

6. ดูแลรักษาสุขภาพร่างกายของคนในครอบครัวและลูกน้อยให้แข็งแรงอยู่เสมอเพื่อที่ร่างกายจะได้มีภูมิต้านทานต่อด้วยวิธีการพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ รวมทั้งผัก ผลไม้ ที่มากไปด้วยวิตามินหลายๆ อย่างปะปนกันไป

ป้องกันดีกว่าแก้ไข คุณแม่สามารถทำการปกป้องและป้องกันไม่ให้ลูกน้อยรับหรือติดเชื้อโรค Molluscum contagiosum ด้วยวิธีการการที่ทางเราได้กล่าวไว้ในเบื้องต้น อย่าละเลยอย่างเด็ดขาดแม้ว่าจะไม่ใช่โรคที่อันตรายและก่อความทรมาณแก่ลูกน้อยก็ตาม เพราะเมื่อเจ้าตัวเล็กติดโรคเหล่านี้ขึ้นมาจะต้องใช้ระยะเวลาในการรักษาที่ค่อนข้างนาน บางครั้งทารกมีการเกะ เกาตามวัยของเขาอาจก่อให้เกิดรอยดำและแผลเป็นติดตัวไปจนโตหรือหากลูกรักเป็นเพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อช่วงแรก หรือช่วงที่ต่อมหูดแตกแนะนำให้ลาโรงเรียนเพื่อจะได้ไม่ไปติดต่อให้แก่ลูกน้อยบ้านอื่นๆ

= = = = = = = = = = = =

ติดตามความรู้ดี ๆ  และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่
https://www.facebook.com/teamkonthong/

We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about how can you grow up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or have any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook

https://www.facebook.com/teamkonthong/

บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..

1.เสื้อผ้าเด็กแรกเกิด ควรเลือกแบบสายผูก หรือแบบกระดุมมากกว่ากัน
2.เสื้อกล้ามรู เสื้อกล้ามเด็กในตำนาน ใช้แล้วดีอย่างไร