ประจำเดือนหลังคลอด เป็นเรื่องที่คุณแม่ส่วนใหญ่มักจะกังวลเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อ ประจำเดือนไม่มาหลังคลอด นานกว่า 1 ปี ซึ่งก็ทำให้เกิดความสงสัยว่าแบบนี้ผิดปกติหรือเปล่า ดังนั้นวันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจเกี่ยวกับประจำเดือนหลังคลอดกัน ซึ่งจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้างนั้นมาดูกันเลย
ประจำเดือนไม่มาหลังคลอด เกิดจากอะไร
โดยปกติแล้วคุณแม่หลังคลอด ประจำเดือนมักจะยังไม่มาโดยเฉพาะในคุณแม่ที่ให้ลูกน้อยดูดนมอย่างสม่ำเสมอ นั่นก็เพราะในขณะที่ลูกดูดนมแม่จะมีฮอร์โมนชื่อ โปรแล็กติน หลั่งออกมาเป็นจำนวนมาก โดยฮอร์โมนชนิดนี้จะทำหน้าที่ในการยับยั้งไข่ตก เป็นผลให้ไม่มีประจำเดือนมานั่นเอง ซึ่งจากสถิติพบว่า คุณแม่หลังคลอดส่วนใหญ่จะมีประจำเดือนมาในช่วงเดือนที่ 7 หลังคลอดไปแล้ว เพราะฉะนั้นใครที่ประจำเดือนมาช้าก็ไม่ต้องกังวล อย่างไรก็ตามแม้ว่าประจำเดือนไม่มาหลังคลอดหรือมาช้า ก็ไม่ควรละเลยการคุมกำเนิดเด็ดขาด เนื่องจากเราไม่อาจรู้ได้ว่าไข่จะตกเมื่อไหร่ และหากไม่ได้คุมกำเนิดไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ ก็จะมีความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้อีก
เมื่อประจำเดือนหลังคลอดไม่มานานกว่า 1 ปี ผิดปกติไหม
สำหรับคุณแม่ที่ประจำเดือนไม่มาหลังคลอดนานกว่า 1 ปีแล้ว ส่วนใหญ่จะยังไม่น่ากังวล เพราะถือเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะในคุณแม่ที่ยังคงให้ลูกดูดนมจากเต้าอย่างต่อเนื่อง แต่ทั้งนี้หากเกิดความผิดปกติอื่นๆ ร่วมด้วย เช่นปวดท้องน้อยอย่างรุนแรง มีตกขาวผิดปกติ โดยอาจเป็นสีเหลืองขุ่นและมีกลิ่นเหม็น หรืออาการอื่นๆ ก็อาจไปพบแพทย์เพื่อตรวจดูให้มั่นใจ เพราะในบางคนที่ประจำเดือนไม่มาหลังคลอด ก็อาจเกิดจากสาเหตุอื่นที่เป็นอันตรายได้เหมือนกัน แม้ว่าจะมีในส่วนน้อยมากก็ตาม
สาเหตุที่ทำให้ประจำเดือนหลังคลอดมาช้า
สำหรับสาเหตุที่ทำให้ประจำเดือนของคุณแม่หลังคลอดมาช้ามากเกินกว่าที่ควรจะเป็น ก็อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งเราก็ได้รวบรวมสาเหตุหลักๆ มาบอกกันดังนี้
1.การใช้ยาบางชนิด
ยาบางชนิดอาจมีผลทำให้ประจำเดือนไม่มาได้ เพราะตัวยาจะไปรบกวนฮอร์โมน ทำให้ฮอร์โมนแปรปรวน ไม่คงที่และประจำเดือนหลังคลอดไม่มาได้นั่นเอง
2.ฮอร์โมนผิดปกติ
ฮอร์โมนถือเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ประจำเดือนหลังคลอดไม่มา โดยทั้งนี้ระหว่างการตั้งครรภ์ ฮอร์โมนได้เกิดการแปรปรวนและเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างมาก ซึ่งหลังจากตั้งครรภ์ ฮอร์โมนก็ยังไม่ค่อยคงที่มากนัก จึงอาจทำให้ประจำเดือนหลังคลอดไม่มาหรือมาช้าได้นั่นเอง
3.อ้วนหรือผอมจนเกินไป
กรณีที่อ้วนหรือผอมจนเกินไปก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ประจำเดือนหลังคลอดมาช้าได้เหมือนกัน นั่นก็เพราะภาวะดังกล่าวทำให้อวัยวะต่างๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างไม่เต็มประสิทธิภาพมากนัก จึงเป็นผลให้ประจำเดือนยังไม่มาได้นั่นเอง
4.มีอาการซึมเศร้า
คุณแม่หลังคลอดมักจะมีอาการซึมเศร้า ซึ่งอาการนี้ก็จะทำให้เกิดความเครียดสะสม จึงเป็นผลให้ฮอร์โมนไม่ปกติและไข่ไม่ตก จนประจำเดือนมาช้าได้เหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่แล้วกรณีที่คุณแม่มีอาการซึมเศร้าหลังคลอด มักจะพบที่ประมาณ 10%-20% เท่านั้น ซึ่งก็ถือว่าอยู่ในระดับที่น้อยมาก
5.การคุมกำเนิด
การคุมกำเนิดบางชนิดอาจจะมีผลข้างเคียง ทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติหรือมาช้าได้ ซึ่งส่วนใหญ่เมื่อหยุดใช้ยาคุม ประจำเดือนก็จะเริ่มมาตามปกติ แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ ที่มีผลต่อประจำเดือนของคุณแม่หลังคลอดเช่นกัน
ความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น เมื่อประจำเดือนมาครั้งแรกหลังคลอด แต่ไม่อันตราย
เมื่อประจำเดือนมาครั้งแรกหลังคลอดลูก อาจมีความผิดปกติที่แตกต่างไปจากเดิมบ้าง ซึ่งก็อาจทำให้หลายคนเกิดความกังวล แต่ตามจริงแล้วอาการดังกล่าวเป็นเพียงผลสืบเนื่องจากการคลอดลูกเท่านั้น จึงไม่เป็นอันตรายและไม่น่ากังวลแต่อย่างใด โดยอาการที่มักจะพบได้มากที่สุดก็มีดังนี้
- ประจำเดือนมามากกว่าปกติหรืออาจมาแบบกะปริบกะปรอย
- มีอาการปวดบีบบริเวณท้องน้อย ซึ่งเป็นอาการปกติที่มักจะพบในขณะมีประจำเดือน แต่อาจปวดมากกว่าที่เคยเป็นได้นั่นเอง
- มีลิ่มเลือดเล็กๆ ออกปนมากับเลือดประจำเดือนด้วย โดยหากไม่มีกลิ่นเหม็นก็ไม่น่ากังวล
เมื่อประจำเดือนไม่มาหลังคลอด ไม่ต้องกังวลไป เพราะนั่นถือเป็นเรื่องปกติ แม้ว่าประจำเดือนจะขาดในระยะเวลานานเป็นปีแล้วก็ตาม เว้นแต่ในกรณีที่มีความผิดปกติ เช่น ปวดท้องน้อยอย่างรุนแรง มีตกขาวที่มีสีเหลืองขุ่นและมีกลิ่นเหม็น รวมถึงอาการผิดปกติอื่นๆ ก็ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วนเพื่อจะได้ตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงนั่นเอง
Photos from : bignewslive.com
= = = = = = = = = = = =
ติดตามความรู้ดี ๆ และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่
https://www.facebook.com/teamkonthong/
We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about how can you grow up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or have any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook
https://www.facebook.com/teamkonthong/
บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..