แผลในปาก หรือร้อนในเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะจากสาเหตุใดก็สร้างความเจ็บปวดให้กับลูกไม่แพ้กัน แผลร้อนในมีลักษณะตุ่มแตกสีขาว สามารถเกิดขึ้นบริเวณใดก็ได้ในช่องปากไม่ว่าจะเป็นลิ้น กระพุ้งแก้ม เงือก และริมฝีปาก ถึงแม้ว่าแผลร้อนในจะสามารถหายเองได้ แต่การรักษาโดยการใช้ยาจะช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดและทำให้แผลหายเร็วมากยิ่งขึ้น ยารักษาแผลร้อนในมีด้วยกันหลากหลายชนิด ขึ้นอยู่กับความสะดวกและความเหมาะสมในการใช้ยา อยากรู้ว่า ยารักษาแผลในปาก เมื่อลูกเป็นร้อนในมีชนิดไหนบ้างมาทำความรู้จักกันเลยดีกว่าในบทความนี้
ยารักษาแผลในปาก มีชนิดไหนบ้าง
หากพูดถึง ยารักษาแผลในปาก เชื่อว่าหลายคนอาจจะยังไม่ค่อยรู้จักยาประเภทนี้สักเท่าไหร่ และก็คงไม่รู้ด้วยซ้ำว่ายารักษาร้อนในนั้นมีด้วยกันกี่ชนิด การเลือกซื้อแต่ละครั้งก็อาจจะทำให้สับสนมึนงงกันบ้างกับสรรพคุณและวิธีใช้ยาแต่ละชนิด ในบทความนี้เราจะมาแนะนำชนิดของยารักษาแผลร้อนในให้อย่างละเอียด หากพร้อมแล้วมาดูกันเลยดีกว่า
1.ยารักษาแผลในปากชนิดป้ายทา
หากพูดถึง ยารักษาแผลในปาก เชื่อว่าหลายคนมักจะนึกถึงยาชนิดป้ายทามาเป็นอันดับแรกซึ่งจะบรรจุอยู่ในหลอด แน่นอนว่ายาชนิดป้ายทาเป็นยาที่ใช้ง่ายที่สุดและเข้าถึงแผลมากที่สุด โดยสรรพคุณของยาจะออกฤทธิ์ช่วยบรรเทาอาการอักเสบ ปวดแสบปวดร้อนได้ดี วิธีใช้ก็ง่ายเพียงแค่ทาลงบนนิ้วมือและนำไปป้ายทาบริเวณที่เป็นแผล แถมยังใช้ได้ดีกับแผลที่ขรุขระ นอกจากนี้สรรพคุณยาป้ายยังช่วยเคลือบแผลลดการระคายเคืองลงได้ดีอีกด้วย
2.ยารักษาแผลในปาก ชนิดแผ่นแปะ
เมื่อเป็นแผลร้อนใน ลิ้นเป็นแผลสามารถใช้แผ่นแปะบริเวณที่เป็นแผลร้อนในให้ตรงจุดได้ เนื่องจากยาแก้ร้อนในชนิดแปะจะช่วยป้องกันการเสียดสีของน้ำลายและฟันได้ดี รวมถึงยังสามารถช่วยป้องกันสิ่งสกปรกจากอาหารและเครื่องดื่มโดยตรงได้ ยาชนิดแปะออกฤทธิ์ได้ยาวนาน แต่ข้อเสียคือสามารถหลุดลอกได้ง่ายหากใช้แปะบริเวณที่ไม่เรียบเสมอกันเช่นบริเวณข้างลิ้น ยาชนิดแปะยังไม่เหมาะกับแผลที่มีขนาดใหญ่อีกด้วย
3.ยารักษาแผลในปาก ชนิดน้ำ
สำหรับใครที่ไม่ถนัดในการใช้ยาชนิดทาและชนิดแปะ แนะนำให้ใช้ยาชนิดน้ำในการรักษา เพราะสะดวกสบายไม่ระคายเคืองเหมือนมีอะไรอยู่ในปากเหมือนยา 2 ชนิดข้างต้น ยารักษาแผลในปาก ชนิดน้ำมีให้เลือกใช้สองประเภทด้วยกันทั้งแบบสเปรย์ฉีด และแบบหยุดโดยใช้ดรอปเปอร์หยดบริเวณที่แผล ข้อดีคือสามารถใช้งานง่าย เพียงแค่ฉีดพ่นหรือหยดลงบริเวณที่แผล และยิ่งเด็กที่มีแผลร้อนในข้างในลำคอยาชนิดนี้จะเข้าถึงได้ง่าย แต่ข้อเสียคือยาชนิดนี้จะออกฤทธิ์ได้ไม่นานนั่นเอง
4.ยารักษาแผลในปาก ชนิดรับประทาน
ยารักษาแผลในปาก ชนิดรับประทานเราจะไม่ค่อยเห็นกันมากนัก ไม่ว่าจะเป็นแบบเม็ด แบบน้ำ และแบบผงที่ต้องละลายน้ำดื่ม แต่ยาทั้ง 3 รูปแบบนี้ก็มีสรรพคุณในการรักษาและบรรเทาอาการร้อนในได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยส่วนผสมของวิตามิน D ที่มีในตัวยา จะช่วยรักษา แผลร้อนใน ลิ้นเป็นแผล ได้ดีออกฤทธิ์อย่างฉับพลันทันใจอีกด้วย
ลูกเป็นแผลในปาก ใช้ยาอะไรดีควรปรึกษาหมอ
ถึงแม้ว่า ยารักษาแผลในปาก จะมีให้เลือกใช้หลากหลายชนิด แต่สิ่งสำคัญก่อนเลือกซื้อมาใช้กับลูกควรปรึกษาหมอหรือเภสัชใกล้บ้าน เพื่อทำความเข้าใจกับตัวยาและความเหมาะสมในการใช้ยากับเด็ก เพื่อความปลอดภัย เพราะยารักษาแผลร้อนในบางตัวไม่สามารถใช้ติดต่อกันนานได้ สำหรับเด็กๆ การใช้ยาประเภทที่ไม่มีสเตียรอยด์จะปลอดภัยมากที่สุด แต่คุณแม่อาจจะหารูปแบบของยาที่เหมาะสมกับลูก หากลูกเป็นเด็กที่ทานยายากก็อาจจะใช้ชนิดป้ายทา ชนิดน้ำ จะเหมาะสมกว่า
วิธีการดูแลเมื่อลูกเป็นแผลในปาก
เด็กเมื่อมีแผลในปาก หรือร้อนใน สิ่งแรกที่คุณแม่สามารถสังเกตได้คือจะไม่อยากทานอาหารหรือนม และจะมีไข้ตัวร้อน การดูแลเมื่อลูกเป็นแผลในปากนั้นคุณแม่สามารถทำได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้
1.โดยปกติแล้วแผลร้อนในจะสามารถหายเองได้ไม่เกินหนึ่งสัปดาห์ แต่หากคุณแม่อยากให้ลูกหายเร็วขึ้น แนะนำให้ใช้ ยารักษาแผลในปากจะเป็นยาชนิดไหนก็ได้แล้วแต่ความเหมาะสม
2.หากพบว่าลูกมีแผลร้อนใน ลิ้นเป็นแผล คุณแม่จะต้องรักษาความสะอาด และหมั่นทำความสะอาดล้างมือให้กับลูกอยู่เสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้แผลในปากติดเชื้อ
3.ให้ลูกบ้วนปากด้วยน้ำเกลือ แทนการแปรงฟัน เพราะนอกจากน้ำเกลือจะช่วยฆ่าเชื้อโรคได้แล้วยังช่วยให้ลูกไม่เจ็บปวดจากการโดนแปรงสีฟันทิ่มแผลอีกด้วย
4.หลีกเลี่ยงให้ลูกทานอาหารรสจัด หรือของทอดจะช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น
5 หากแผลร้อนในไม่ดีขึ้นภายใน 1 – 2 สัปดาห์ หรือมีอาการแย่ลงคุณแม่ควรรีบพาลูกไปพบหมอเพื่อทำการรักษาอย่างถูกวิธี
ยารักษาแผลในปาก มีด้วยกันหลายชนิด การเลือกใช้ยาในการรักษาคุณแม่จะต้องดูความเหมาะสมกับลูก และควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชก่อนที่ซื้อยามาใช้กับลูกทุกครั้ง และหากรักษาโดยยาไม่ดีขึ้น แนะนำให้คุณแม่พาลูกไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาอย่างถูกวิธีและเหมาะสมเพื่อความปลอดภัยของลูก
= = = = = = = = = = = =