ยาต้องห้ามแม่ท้อง การรับประทานยาเพื่อบรรเทาอาการเจ็บป่วยนั้น เป็นเรื่องปกติสำหรับคนทั่วไปซึ่งไม่จำเป็นต้องใส่ใจอะไรมากมาย แต่สำหรับคนเป็นแม่ ที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ จำเป็นมากที่ต้องใส่ใจและไม่สามารถมองข้ามได้ ถึงแม้ว่าคุณแม่จะมีอาการเจ็บป่วยเพียงเล็กน้อยก็ตาม ไม่ควรซื้อยาทานเองโดยเด็ดขาด เพราะอาจจะส่งผลเสียต่อสุขภาพของลูกน้อยในครรภ์ได้ หากต้องการรับประทานจริง ๆ แนะนำให้ไปขอยากับทางแพทย์โดยตรงน่าจะดีกว่าค่ะ สำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ไม่รู้ว่ายาใดที่เป็นอันตรายและไม่ควรรับประทานบ้าง วันนี้เรามีคำตอบให้ค่ะ ดูรายละเอียดดังนี้
ยาต้องห้ามแม่ท้อง
ยาที่คุณแม่ตั้งครรภ์ไม่ควรกินเด็ดขาด ได้แก่
1.ยาปฏิชีวนะและยาแก้อักเสบ
ยาในกลุ่มนี้ส่งผลต่อการสร้างกระดูกและฟันของลูกน้อยโดยตรง อาจทำให้มีการเจริญเติบโตของกระดูกและฟันไม่สมบูรณ์ และการเจริญของสมองผิดปกติ ถ้าคุณแม่ตั้งครรภ์ระหว่าง 6 – 8 เดือน ใช้ยาตัวนี้ จะมีผลไปจับแคลเซียมที่กระดูกและฟันของเด็กทารก ทำให้เด็กมีกระดูกและฟันไม่สมบูรณ์ ฟันเป็นสีเหลือง และสีน้ำตาลไปตลอดชีวิต ทั้งนี้ยังมีผลเสียต่อตับของคุณแม่อย่างรุนแรงอีกด้วย
ยาที่ทำให้ลูกหูตึง หูหนวก และทำให้ประสาทเกี่ยวกับการได้ยินเสียไปบางส่วน ได้แก่ สเตรปโตมัยชิน (Streptomycin), กานามัยซิน (Kanamycin), เจนตามัยซิน (Gentamicin) และ ซัลโฟนาไมด์ (Sulfonamides) ซึ่งหากคุณแม่ทานยาเหล่านี้ขณะตั้งครรภ์ 2 – 3 สัปดาห์ เวลาที่คลอดออกมาอาจทำให้ลูกน้อยตัวเหลืองได้
2.ยาแก้ปวด ลดไข้
ยาที่ทำให้แท้งบุตรหากคุณแม่กินในช่วงตั้งครรภ์อ่อน ๆ คือ ยาแอสไพริน (Aspirin) และ ไอบูโปรเฟน (Ibuprofen) ซึ่งอาจส่งผลรบกวนการแข็งตัวของเลือด และเพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดเลือดออกในขณะตั้งครรภ์ หากคุณแม่กินยามใกล้คลอด ซึ่งยาเหล่านี้จะไปยับยั้งการทำงานของเกล็ดเลือดของทารกในครรภ์ ทำให้เลือดไหลไม่หยุดได้ค่ะ
3.ยานอนหลับ และยากล่อมประสาท
ในขณะตั้งครรภ์ หากคุณแม่รับประทานยานอนหลับ และยากล่อมประสาทในปริมาณมาก อาจส่งผลต่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ได้ ทำให้เติบโตช้า มีความผิดปกติเกี่ยวกับทางเดินหายใจ เคลื่อนไหวช้า มีอาการชักกระตุก ซึ่งอาจถึงขั้นมีเลือดออกผิดปกิตในตัวเด็ก
4.ยารักษาเบาหวาน
ยารักษาเบาหวานชนิดรับประทานมีอันตราต่อทารกในครรภ์อย่างมาก เนื่องจากยาตัวนี้เป็นยาที่มีผลกับน้ำตาลในเลือดโดยตรง หากคุณแม่ทานยาเหล่านี้ไป ลูกต้องก็จะมีน้ำตาลในเลือดต่ำไปด้วย และยังมีรายงานอีกด้วยว่า ยากลุ่มนี้จะทำให้ทารกพิการ ดังนั้น คุณแม่ที่เป็นเบาหวานแพทย์จะเปลี่ยนจากยาเม็ดรับประทาน เป็นยาฉีดอินซูลินแทน เพราะนอกจากจะไม่เป็นอันตรายแล้ว ยังช่วยควบคุมเบาหวานได้ดีกว่าอีกด้วยค่ะ
5.ยากันชัก
ยากันชัก อาจทำให้เกิดความพิการแก่ทารกในครรภ์สูงมาก ทารกจะเจริญเติบโตทั้งทางร่างกายและจิตใจช้ากว่าปกติ และมีความผิดปกิตของศีรษะและใบหน้า ส่งผลต่อการทำงานของหัวใจ และปัญญาอ่อนได้ นอกจากนี้หากคุณแม่ทานยาตัวนี้ในปริมาณมาก ระยะใกล้คลอดก็จะทำให้ทารกในครรภ์หายใจไม่สะดวก เนื่องจากยาเหล่านี้ไปกดศูนย์การหายใจ และทำให้เกิดการแข็งตัวของเลือด และทำให้เลือดออกในเด็กแรกเกิดได้
6.ยารักษาสิว หรือยาในกลุ่มกรดวิตามินเอ
หากคุณแม่รับประทานยารักษาสิว หรือยาในกลุ่มกรดวิตามินเอมาก อาจส่งผลให้ทารกเกิดพิการแต่กำเนิดและบกพร่องทางสมองได้ หากคุณแม่ทานยาที่ใช้รักษาสิวหัวช้าง และสิวชนิดรุนแรง ยาดังกล่าวมีผลต่อทารกในครรภ์โดยตรง ซึ่งอาจทำให้ลูกน้อยพิการแต่กำเนิดได้ ถึงแม้ว่าทารกที่คลอดออกมาจะดูปกติก็ตาม แต่ก็มีความเสี่ยงสูงที่จะพบความบกพร่องทางสมองได้เช่นกันค่ะ ดังนั้น คุณแม่จึงไม่ควรรับประทานยาเหล่านี้ ในขณะที่ตั้งครรภ์ 3 เดือน จนถึง 1 ปี เพื่อลูกน้อยจะได้คลอดออกมาอย่างสมบูรณ์
ยาต่าง ๆ ที่เรากล่าวมาข้างต้นล้วนแต่มีอันตรายต่อทารกในครรภ์ ส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกาย การเจริญเติบโต และความไม่สมบูรณ์ทางร่างกายของทารกแรกเกิดได้ โดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ ทารกจะมีการเจริญเติบโตและสร้างอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย หลังจากการปฏิสนธิประมาณ 18 วัน หัวใจและระบบประสาทของทารกจะเริ่มเจริญเติบโต สร้างแขนขนและตาหลังการปฏิสนธิ 24 วัน และสร้างอวัยวะเพศหลังจากการปฏิสนธิ 37 วัน ซึ่งในระยะที่กล่าวมานี้ หากมียาหรือสารบางชนิดไปกระทบกระเทือนต่อการแบ่งเซลล์ ก็จะทำให้อวันยวะเหล่านั้น เกิดความผิดปกติ หรือหยุดการเจริญเติบโตได้
คุณแม่ตั้งครรภ์ ที่ใช้ยาจะส่งผลต่อทารกในครรภ์โดยตรง เพราะยาในกระแสเลือดของคุณแม่ จะซึมผ่านรกเข้าสู่กระแสเลือดของทารกในครรภ์ได้ค่ะ เช่นเดียวกับน้ำ สารอาหาร และออกซิเจน ดังนั้นยาจึงมีผลต่อการเจริญเติบโตของลูกน้อยในครรภ์อย่างมาก ยาบางชนิดนอกจากจะมีผลต่อลูกน้อยในครรภ์ระยะ 3 – 4 เดือนแรกแล้ว อาจมีผลต่อทารกในระยะใกล้คลอดอีกด้วย ด้วยเหตุนี้คุณแม่จึงไม่ควรทานยาโดยเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นยาสามัญประจำบ้าน เพราะยาทุกชนิดรวมถึงยาสามัญประจำบ้านหลายชนิดก็อาจทำให้เกิดอันตรายกับทารกในครรภ์ได้ คุณแม่จึงเลือกทานยาเท่าที่จำเป็นจริง ๆ เท่านั้นค่ะ หรือปรึกษาแพทย์เพื่อความมั่นใจก่อนทานยาทุกครั้ง
= = = = = = = = = = = =
ติดตามความรู้ดี ๆ และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่
https://www.facebook.com/teamkonthong/
We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about how can you grow up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or have any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook
https://www.facebook.com/teamkonthong/
บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..