การอยู่ไฟคืออะไร การดูแลระหว่างและหลังการตั้งครรภ์นั้น ได้ถูกปฏิบัติมาแต่โบราณ โดยเฉพาะหลังคลอดคนโบราณเชื่อว่า คุณแม่ต้องอยู่ไฟ เพื่อปรับสมดุลในร่างกาย ฟื้นฟูสุขภาพร่างกายของคุณแม่หลังคลอคให้กลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม เนื่องจากในระหว่างตั้งครรภ์สภาพร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งฮอร์โมน ระบบการไหลเวียนโลหิต โครงสร้างที่มีการขยายตัว และรวมถงการสูญเสียน้ำ เกลือแร่ที่จำเป็นต่อร่างกายไป ซึ่งการอยู่ไฟและการทำตามขั้นตอนของการอยู่ไฟที่ถูกต้องนั้น จะสามารถช่วยให้ร่างกายของคุณแม่หลังคลอด กลับมามีสมดุลของร่างกายมากขึ้น

การอยู่ไฟคืออะไร

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการอยู่ไฟหลังคลอด

การอยู่ไฟหลังคลอด เป็นหลักยึดถือและปฏิบัติสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน คนสมัยก่อนเชื่อว่า การอยู่ไฟจะช่วยขับน้ำคาวปลาที่คั่งค้างของคุณแม่ ทำให้มดลูกเข้าอยู่ได้เร็วขึ้น ช่วยในการขับไขมันส่วนเกินทำให้สัดส่วนของคุณแม่กลับมาเข้าที่ได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว การอยู่ไฟจึงถูกบอกกล่าวต่อกันมาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน ทำให้การอยู่ไฟเป็นเรื่องที่สำคัญที่คุณแม่หลังคลอดต้องปฏิบัติตาม แต่สำหรับคุณแม่ยุคใหม่หลายท่านอาจสงสัยว่า ที่จริงแล้วการอยู่ไฟนั้นดีอย่างไร และจำเป็นต้องอยู่หรือไม่ ลองดูข้อมูลเพิ่มเติมด้านล่างนี้ค่ะ

การอยู่ไฟมีประโยชน์ต่อคุณแม่หลังคลอดอย่างไร

  1. การอยู่ไฟสามารถช่วยให้คุณแม่หลังคลอดได้พักผ่อนเต็มที่ เนื่องจากช่วยระหว่างตั้งครรภ์ร่างกายจะสูญเสียพลังงานไปในปริมาณมาก เพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ เมื่อคุณแม่อยู่ไฟ ร่างกายจะได้รับการผ่อนคลาย และปรับสมดุลในร่างกายให้คงที่
  2. เพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกาย เพราะยิ่งระยะเวลาใกล้คลอดร่างกายของคุณแม่จะสูญเสียน้ำ เกลือแร่ และจะสูญเสียเลือดในปริมาณที่มาขณะคลอด การอยู่ไฟจะช่วยให้ร่างกายของคุณแม่อบอุ่นขึ้น และช่วยให้ระบบการไหลเวียนของเลือดทำงานได้ดีขึ้น
  3. คุณแม่หลังคลอคจะมีน้ำคาวปลาตกค้างอยู่มาก ร่างกายอาจจะไม่สามารถขับน้ำคาวปลาออกมาได้ทั้งหมด ดังนั้น การอยู่ไฟจึงช่วยให้ร่างกายสามารถขับน้ำคาวปลาออกมาได้เร็วขึ้นนั่นเอง
  4. ช่วยให้มดลูกเข้าอู่เร็วขึ้น เพราะความร้อนจากการอยู่ไฟจะช่วยกระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก
  5. ช่วยให้คุณแม่หลังคลอดฟื้นตัวได้เร็วขึ้น การอยู่ไฟสามารถช่วยให้ร่างกายของคุณแม่กลับสู่สภาวะปกติ และแข็งแรงสมบูรณ์เช่นเดิมได้
  6. ช่วยให้แผลฝีเย็บแห้ง และหายเร็วยิ่งขึ้น การอยู่ไฟสามารถช่วยลดการติดเชื่อบริเวณปากแผลได้

การอยู่ไฟอย่างถูกต้อง คุณแม่ควรปฏิบัติดังนี้

  • การทับหม้อเกลือ เป็นวิธีการนวดอย่างหนึ่งของคนสมัยก่อน โดยการนำเอาหม้อเกลือที่บรรจุเกลือว้ภายเผาไฟจนร้อน หลังจากนั้น ห่อด้วยใบพลับพลึง และผ้าขาวประคบหน้าท้องของคุณแม่หลังคลอด ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการหดตัวของมดลูก ช่วยขับน้ำคาวปลา กระตุ้นระบบการไหลเวียนของเลือด ลดไขมันหน้าท้อง ซึ่งการทับหม้อเกลือ คุณแม่ตั้งระวังไม่ให้หมอเกลือร้อนเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวหน้าท้องไหม้ได้ และห้ามทำในขณะที่คุณแม่มีไข้ หรือหลังผ่าตัดใหม่ ๆ ด้วย
  • การเข้ากระโจม เป็นการอบตัว โดยการอบตัวนั้น มีอยู่ 2 แบบ นั่นคือ อบแบบเปียก และอบแบบแห้ง การอบแห้งจะมีลักษณะคล้ายกับการอบซาวน่า ซึ่งการอบตัวนี้มีวัตถุประสงค์ก็เพื่อช่วยให้ร่างกายสามารถขับของเสียออกมาทางรูขุมขนได้ การเข้ากระโจมแบบอบเปียก คือ การใช้ไอน้ำที่ได้จากสมุนไพร เพราะสมุนไพรมีสพรรคุณทางยาที่ดีต่างระบบการทำงานภายในร่างกาย สามารถกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดให้ดีขึ้น พร้อม ๆ กับการขับของเสียที่สะสมอยู่
  • การเข้าขาตะเกียบ คือ วิธีการนวดท่าหนึ่งของคนสมัยก่อน เป็นการนวดเฉพาะที่ เริ่มตั้งแต่สะโพกลงไปบริเวณขา โดยพยายามที่จะให้หนีบขาให้ชิดกันที่สุด (เหมือนตะเกียบ) ซึ่งจะช่วยยกก้นที่อาจจะเกิดการหย่อนคล้อยในช่วงเวลาที่อุ้มท้องให้กระชับขึ้น และวัตถุประสงค์หนึ่ง ก็คือการลดไขมันส่วนเกินที่เหลืออยู่บริเวณต้นขานั้นให้เกิดการสลายตัวลงไปนั่นเอง
  • การนั่งถ่าน เป็นการนั่นลงบนโต๊ะที่ทำขึ้นมาเป็นพิเศษ สำหรับคุณแม่หลังคลอด เพื่อให้ช่องคลอดและบริเวณก้นลอดไดและภายใต้เก้าอี้จะมีเต้าร้อนวางอยู่ โดยการนำสมุนไพรในกลุ่มที่ช่วยสมานแผลฝีเย็บ และรักษาอาการริดสีดวงทวารได้ดี

คุณแม่มือใหม่ควรรู้ ข้อควรระวังเกี่ยวกับการอยู่ไฟ

  • ไม่แนะนำให้อยู่ไฟขณะที่คุณแม่มีอาการไข้ ตัวร้อน ความดันสูง อ่อนเพลียมาก เพราะการอยู่ไฟเป็นการใช้ความร้อนให้ความอบอุ่นกับร่างกาย จึงอาจเป็นอันตรายได้ หากทำในช่วงที่ร่างกายมีความร้อนในตัวสูง
  • กรณีที่ผ่าคลอด ต้องรอให้ครบ 1 เดือนก่อน จึงจะสามารถประคบสมุนไพร นาบหม้อเกลือ และอบสมุนไพได้
  • การนั่งถ่านอาจไม่จำเป็นสำหรับคุณแม่ผ่าคลอด เพราะการนั่นถ่านจะช่วยในเรื่องของการสมานแผลฝีเย็บ ช่องคลอดที่ฉีกขาดขณะคลอดลูก ซึ่งคุณแม่ผ่าคลอดไม่จำเป็นต้องสมานแผลบริเวณช่องคลอด แต่ก็สามารถใช้การอยู่ไฟแบบอื่นได้
  • ก่อนที่จะทำการอยู่ไฟ คุณแม่ควรจะให้ข้อมูลสุขภาพของตัวเองหรือข้อมูลการคลอด กับผู้ที่ทำการอยู่ไฟให้ เพื่อเป็นข้อมูลในการกำหนดแนวทางการอยู่ไฟและการดูแลหลังคลอดที่เหมาะสมกับร่างกายของคุณแม่มากที่สุดค่ะ
  • ถ้าคุณแม่ต้องการซื้ออุปกรณ์เพื่อมาอยู่ไฟเองที่บ้าน จำเป็นต้องได้รับคำแนะนำวิธีการทำอย่างละเอียด ถูกวิธี และต้องได้รับความรู้จากผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ถึงแม้การอยู่ไฟจะไม่เป็นอันตรายอะไรมากนัก แต่ก็มีข้อควรระวังเช่นกัน ดังนั้น เพื่อการปฏิบัติอย่างถูกต้อง คุณแม่จะต้องรู้ขั้นตอนอย่างละเอียดและถูกต้องนั่นเองค่ะ

อย่างไรก็ตาม การอยู่ไฟสำหรับคุณแม่ผ่าคลอดอาจจะไม่จำเป็น เพราะวัตถุประสงค์หลังของการอยู่ไฟนั้น ก็เพื่อปรับสมดุลในร่างกาย และสมานแผลช่องคลอดที่เกิดการฉีกขาด ทำให้บางขั้นตอนคุณแม่ผ่าคลอดก็ไม่ควรทำ เพราะอาจจะทำให้แผลผ่าตัดบริเวณท้อง ไม่แห้ง และฉีกขาดได้ ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยคุณแม่ผ่าคลอดจะต้องปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญ และปฏิบัติตามอย่างถูกต้อง และอยู่ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญด้วยค่ะ

Sponsored

= = = = = = = = = = = =

ติดตามความรู้ดี ๆ  และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่
https://www.facebook.com/teamkonthong/

We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about how can you grow up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or have any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook

https://www.facebook.com/teamkonthong/

บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..

1.แพ้ท้องระดับไหน เช็คสิ อาการแพ้ท้องของคุณ รุนแรงหรือไม่

2.10 อาหารวิตามินบี 6 สูง ช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องได้ดี