ปวดท้องน้อยหลังคลอด เป็นอีกหนึ่งอาการที่คุณแม่หลังคลอดหลายๆ คนมักจะต้องเผชิญหลังคลอด โดยจะมีอาการปวดเกร็ง เป็นตะคริวบริเวณท้องส่วนล่าง หรืออุ้งเชิงกรานหลังจากที่คลอดได้ไม่นาน และอาการปวดนี้ก็จะเริ่มรุนแรงมากขึ้นใน 2-3วัน หลังคลอด และอาจจะมีอาการปวดยาวต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ หรืออาจจะมากกว่านั้น ปวดท้องน้อยหลังคลอด อันตรายไหม และเราจะมีวิธีบรรเทาอาการปวดได้อย่างไร ในบทความนี้เรามีคำตอบให้ หากพร้อมแล้วมาดูกันเลยดีกว่า

ปวดท้องน้อยหลังคลอด เกิดจากอะไร อันตรายไหม

ปวดท้องน้อยหลังคลอด หรืออาการปวดเกร็งบริเวณอุ้งเชิงกรานหลังจากคลอด เป็นอาการปกติที่สามารถพบได้ในคุณแม่หลังคลอด เนื่องจากช่องคลอดมีการฉีกขาด และยังปรับสภาพไม่ทัน หรือมดลูกยังไม่เข้าอู่นั่นเอง แต่อาการจะค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ เมื่อผ่านไป 2 -3 สัปดาห์หลังจากที่มดลูกเริ่มเข้าอู่แล้ว โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการ ปวดท้องน้อยนั้นก็จะมาจากสาเหตุดังนี้

  • สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการ ปวดท้องน้อยหลังคลอด ส่วนใหญ่มาจาก มดลูกหดตัว เพราะเมื่อคุณแม่คลอดลูกแล้ว จะส่งผลทำให้มดลูกค่อยๆ หดตัวลงกลับสู่ขนาดเดิม ซึ่งอาการที่ปวดชาๆ เหมือนจะเป็นตะคริวนั้นมักจะเกิดขึ้นในช่วง 3 – 4 วันแรกหลังคลอด และมดลูกจะเข้าอู่โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 5 – 6 สัปดาห์หลังคลอด นอกจากนี้คุณแม่ที่ท้อง 2 หรือท้อง 3 ส่วนใหญ่จะมีอาการปวดมากกว่าท้องแรก
  • อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการ ปวดท้องน้อยหลังคลอด นั่นก็คือผลข้างเคียงจากการผ่าคลอด ซึ่งจะเป็นอาการปวดบริเวณแผลผ่าคลอด การนอนราบ ทานยาตามที่แพทย์สั่งรวมถึงพักผ่อนให้เพียงพอจะช่วยบรรเทาอาการปวดได้
  • อาการท้องผูกก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้คุณแม่หลังคลอดมีอาการ ปวดท้องน้อยหลังคลอด ได้ อาการท้องผูกมักเกิดจากการบีบรัดของลำไส้ทำให้รู้สึกปวดท้อง รวมถึงระดับฮอร์โมนโปเจสเตอโรนยังคงค้างอยู่ หรืออาจะเกิดจากผลข้างเคียงของยาบางชนิด ทำให้คุณแม่หลังคลอดมีอาการท้องผูก

วิธีบรรเทาอาการปวดท้องน้อยหลังคลอด

ปวดท้องน้อยหลังคลอด ถือเป็นอาการปกติของคุณแม่หลังคลอดทุกคน ซึ่งไม่ได้ได้เป็นอันตรายรุนแรงแต่อย่างใด สำหรับคุณแม่ที่มีอาการ ปวดท้องน้อย สามารถบรรเทาอาการได้หลายวิธีดังต่อไปนี้

1.ใช้ยาบรรเทาอาการปวด

หลังคลอดหากคุณแม่มีอาการปวดท้องจนไม่สามารถทนได้ สามารถขอยาบรรเทาอาการปวดจากแพทย์ได้ โดยแพทย์จะจ่ายยาบรรเทาอาการปวดเช่น ไอบูเฟน อย่างไรก็ตามไม่ควรซื้อยามารับประทานเอง ควรปรึกษาแพทย์ และเภสัชก่อนทุกครั้ง เนื่องจากคุณแม่ต้องให้นมบุตรหลังคลอด และยาบางชนิดอาจจะมีผลต่อเด็กได้ ควรรับประทานยาตามแพทย์สั่งเท่านั้น

2.ประคบอุ่น

หากมีอาการ ปวดท้องน้อยหลังคลอด คุณแม่สามารถบรรเทาอาการได้ด้วยการประคบน้ำอุ่น โดยการใช้ถุงน้ำร้อนประคบบริเวณที่ปวดเกร็ง ก็จะสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดท้องลงได้ หรือถ้าคุณแม่ท่านใดชื่นชอบการประคบเย็นก็สามารถทำได้ด้วยการนำน้ำแข็งใส่ห่อผ้ามาประคบได้เช่นกัน

3.ดื่มน้ำสมุนไพร

การดื่มน้ำผึ้งผสมน้ำอุ่นๆ และน้ำมะนาวจะช่วยบรรเทาอาการปวดท้องได้ อีกทั้งน้ำผึ้งยังมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อด้วย หรือถ้าคุณแม่ท่านใดสามารถดื่มน้ำใบสะระแหน่สดผสมน้ำผึ้งมะนาวได้ก็จะยิ่งดี เพราะจะช่วยลดอาการปวดท้องได้เป็นอย่างดี ช่วยขับลม แก้ท้องอืดท้องเฟ้อทำให้คุณแม่รู้สึกสบายตัวขึ้น

4.ใช้การเคลื่อนไหวร่างกายช่วย

คุณแม่หลังคลอดจะต้องพยายามลุกเดินไปมาบ้างเพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น และการเดินก็จะช่วยให้ลำไส้สามารถเคลื่อนตัวได้ดีช่วยลดอาการท้องผูกได้  นอกจากนี้การเดินบ่อยๆ ยังช่วยลดอากร ปวดท้องน้อยหลังคลอด ได้ดีอีกด้วย เพราะฉะนั้นหลังคลอดควรเคลื่อนไหวร่างกายอยู่บ่อยๆ จะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

5. ใช้การหายใจเป็นจังหวะช่วย

Sponsored

หากมีอาการ ปวดท้องน้อย เกิดขึ้นหลังคลอด คุณแม่ควรพยายามหายใจเข้าลึกๆ และหายใจออกช้าๆ ให้เป็นจังหวะ ใช้วิธีหายใจเข้าออกเช่นเดียวกับตอนคลอด การหายใจเข้าออกเป็นจังหวะ จะช่วยบรรเทาอาการปวดท้องให้ทุเลาลงได้ และยังช่วยให้คุณแม่รู้สึกผ่อนคลายขึ้นด้วย

6.ใช้หมอนช่วย

คุณแม่หลังคลอดหากมีอาการ ปวดท้องน้อยหลังคลอด การใช้หมอนที่ออกแบบมาให้รองสรีระ หรือหมอนบุที่มีรู ให้เหมาะแก่การนั่ง จะทำให้แรงกดลงไปที่ก้นกบ ทำให้รู้สึกปวดที่ท้องลดน้อยลง

7.ไม่กลั้นปัสสาวะ

เพราะการกลั้นปัสสาวะจะยิ่งทำให้คุณแม่รู้สึกอึดอัดกระเพาะปัสสาวะมากขึ้น และจะทำให้เกิดอาการปวดท้องน้อยแย่ลงด้วย คุณแม่หลังคลอดควรดื่มน้ำให้มากๆ เพื่อจะได้ถ่ายปัสสาวะออกมา ถึงแม้ว่าจะต้องลุกไปเข้าห้องน้ำบ่อยๆ แต่ก็ไม่ควรอั้นอย่างเด็ดขาด เพราะอาจจะทำให้เกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบและยิ่งทำให้เกิดอาการ ปวดท้องน้อยหลังคลอด มากขึ้นด้วยนั่นเอง

อาการปวดท้องน้อยหลังคลอด สามารถเกิดขึ้นได้กับคุณแม่ทุกคน ถือเป็นอาการปกติทั่วไปไม่ได้อันตรายแต่อย่างใด แต่หากมีอาการปวดรุนแรงเป็นเวลานานมากกว่า 10 วัน ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยโรค เพราะอาจจะไม่ได้มีสาเหตุมาจากคลอดลูกเพียงอย่างเดียวอาจจะมีสาเหตุอื่นๆ เช่นการติดเชื้อ หรืออาการท้องผูกเรื้อรังได้นั่นเอง

= = = = = = = = = = = =

ติดตามความรู้ดี ๆ  และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่
https://www.facebook.com/teamkonthong/

We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about how can you grow up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or have any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook

https://www.facebook.com/teamkonthong/

บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..

1.ทำความรู้จักกับสารอาหารในนมแม่ เช็คสิ มีอะไรบ้าง

2.7 วิธีดูแล ทำความสะอาดเต้านม พร้อมกระตุ้นน้ำนมแม่