หลังจากคลอดลูกแล้ว สิ่งที่คุณแม่ต้องจัดการนอกเหนือจากภารกิจประจำวันและการเลี้ยงดูลูกแล้ว ก็มีอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามเลย นั่นก็คือการดูแลรูปร่างของคุณแม่ให้กลับมามีน้ำหนักตัวที่ลดลงมาเท่าเดิม หรือใกล้เคียงก่อนการตั้งครรภ์ให้มากที่สุด แต่ว่าการลดน้ำหนักหลังคลอดที่จะได้ผลดีจริงๆ นั้นจะต้องทำแบบไหน วันนี้เรามีคำแนะนำดีๆ มาฝากกันค่ะ
แนะนำ 7 เคล็ดลับลดน้ำหนักหลังคลอด
การจะลดน้ำหนักหลังคลอดถึงแม้คุณแม่จะไม่ค่อยมีเวลา แต่หากมีความตั้งใจก็สามารถทำได้ไม่ยากนัก โดยมีวิธีการดังนี้
1.ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน
คุณแม่ช่วงหลังคลอดอาจจะมีความหิวอาหารเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากร่างกายต้องการพลังงานในการผลิตน้ำนม และการเลี้ยงดูลูก จึงทำให้คุณแม่หลังคลอดรู้สึกหิวบ่อยขึ้น หากคุณแม่ทำตามใจปากด้วยการกินอาหารทุกครั้งที่หิว และกินจุก็อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้น้ำหนักลดลงได้ช้า ฉะนั้นควรกินอาหารแต่พอดี พออิ่ม กินมื้อละน้อยๆ แต่อาจจะแบ่งเป็นมื้อย่อยด้วยอาหารจานเล็ก เน้นผัก ผลไม้ ด้วยก็จะดีต่อสุขภาพมากขึ้น
2.คุณแม่ควรเดินให้มากขึ้น
การเคลื่อนไหวร่างกายบ่อยๆ จะทำให้ได้นำพลังงานไปใช้ได้ หากคุณแม่ที่จำเป็นต้องนั่งทำงานอยู่กับโต๊ะเวลานานๆ ก็จะทำให้การเคลื่อนไหวร่างกายได้น้อยลง ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ร่างกายไม่ได้ใช้พลังงาน จนเกิดการสะสมของไขมันส่วนเกินเหลืออยู่มาก เมื่อมีการลุกขึ้นมาเดิน เพื่อให้ร่างกายได้มีการเคลื่อนไหว ก็จะช่วยให้เกิดการเผาผลาญพลังงาน และลดการสะสมของไขมันส่วนเกินได้
3.ออกกำลังกาย 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์
คุณแม่หลังคลอดควรหาเวลาในการออกกำลังกายให้ได้อย่างน้อยวันละ 1 ชั่วโมง หรือสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง โดยคุณแม่จะเลือกการออกกำลังกายแบบไหนก็ได้ที่ตัวเองชอบ เพื่อนำมาใช้ให้ร่างกายได้เผาผลาญไขมัน จะทำให้การลดความอ้วนของคุณแม่ได้ผลเร็วขึ้น นอกจากนี้การดูแลสุขภาพคุณแม่หลังคลอดด้วย วิธีการอยู่ไฟก็จะค่อนข้างได้ผลดีในการช่วยลดน้ำหนัก ขจัดไขมันส่วนเกิน ช่วยขับน้ำเพื่อลดอาการบวมน้ำ ทำให้กล้ามเนื้อหน้าท้อง ต้นขา สะโพกมีการกระชับมากขึ้น ซึ่งขั้นตอนการอยู่ไฟที่ช่วยลดน้ำหนักให้คุณแม่ได้ดีคือ การประคบหน้าท้องด้วยหม้อเกลือ เพื่อช่วยให้มดลูกหดตัว ซึ่งวิธีการนี้นอกจากจะช่วยให้มดลูกหดตัวแล้ว ยังช่วยสลายไขมันส่วนเกินให้ลดลงไปได้ด้วย หลังจากนั้นจะเป็นข้ันตอนการอบสมุนไพร ก็จะช่วยขับเหงื่อและไขมันให้ออกจากร่างกาย ทำแล้วจะรู้สึกเบาสบายตัว และช่วยบรรเทาอาการเมื่อยล้าที่สะสมมาตลอดการตั้งครรภ์ให้บรรเทาลงไปได้ คุณแม่หลังคลอดที่รักสุขภาพลองศึกษาวิธีการอยู่ไฟหลังคลอดดูนะคะ เป็นอีกวิธีที่ช่วยลดน้ำหนักที่สามารถให้ผลลัพท์ในเวลา 5-7วันเลยทีเดียว ส่วนคุณแม่ที่พอมีเวลาในการดูแลตัวเอง หลังจากคลอดลูกได้ 4 เดือนแล้ว จะเข้าฝึกโยคะหรือการบริหารร่างกายสำหรับคุณแม่หลังคลอดก็สามารถทำได้เช่นกัน
4.เน้นผักและผลไม้
การลดความอ้วนหลังคลอด คุณแม่ควรเน้นการกินผัก ผลไม้มากขึ้น รวมถึงอาหารของคุณแม่ในมื้ออื่นๆ ก็ควรจะเน้นผักผลไม้ โปรตีน จะช่วยให้การลดน้ำหนักของคุณแม่ได้ผลดียิ่งขึ้น
5.ลดอาหารจำพวกแป้ง
อาหารของคุณแม่ลดน้ำหนักหลังคลอดไม่ควรจะมีแป้ง ไขมัน และน้ำตาล ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในอาหารประเภทขนมหวาน ไอศกรีม และเบเกอรี่ต่างๆ หากลดอาหารเหล่านี้ได้จะทำให้การลดน้ำหนักทำได้ง่ายขึ้น
6.นอนเร็วตื่นเช้า
คุณแม่หลังคลอดที่กำลังลดน้ำหนักไม่ควรนอนดึกเกิน 10:00 นาฬิกา เพราะหากนอนดึกอาจจะทำให้เกิดความหิวในมื้อดึกได้ และการตื่นนอนเร็วกว่าปกติสักครึ่งชั่วโมง ก็จะช่วยให้คุณแม่ได้มีเวลาส่วนตัวในการออกกำลังกายในตอนเช้า ก่อนที่ลูกจะตื่น และเป็นการช่วยให้ร่างกายสดชื่นจากการได้สัมผัสกับอากาศยามเช้า ซึ่งส่งผลดีทางด้านอารมณ์ ทำให้การลดน้ำหนักหลังคลอดจะได้รับผลเร็วขึ้น สำหรับคุณแม่ที่ต้องตื่นมาให้นมลูกช่วงกลางดึก อาจมีปัญหาเรื่องการนอนหลับได้ไม่เพียงพอ ให้ใช้วิธีการแอบงีบหลับช่วงกลางวันช่วงที่ลูกนอนหลับ จะช่วยให้ผ่อนคลายความง่วงลงได้
7.เลี่ยงของหวานบางชนิด
การลดน้ำหนักหลังคลอดคุณแม่ ต้องใจแข็งไม่กินของว่างที่มีความหวานประเภท ช็อคโกแลต ขนมหวาน น้ำหวาน เบเกอรี่ต่างๆ ซึ่งอาหารว่างเรานี้ล้วนแต่ประกอบไปด้วย แป้ง น้ำตาล และไขมัน ที่จะทำให้น้ำหนักเกิน และส่งผลเสียต่อสุขภาพโดยรวมได้ อาหารที่คุณแม่ควรกินก็ระหว่างวัน ให้จัดเป็นประเภทธัญพืช เช่นเมล็ดอัลมอนด์ มะม่วงหิมพานต์ เมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวันรวมถึงโยเกิร์ตรสผลไม้ ก็จะทำให้ได้รับพลังงานที่ดี และมีไขมันชนิดดี ซึ่งส่งผลให้สุขภาพดีขึ้นด้วย
นอกจากนี้เรื่องจิตใจก็เป็นสิ่งสำคัญ การรู้จักปล่อยวางในเรื่องบางอย่างเสียบ้าง ทำจิตใจให้สดชื่นแจ่มใส เบิกบาน และพูดกับตัวเองบอกตัวเองว่าฉันกำลังจะลดน้ำหนัก ฉันต้องทำได้ฉันต้องกลับมามีหุ่นดี และสวยเหมือนเดิม การพูดกับตัวเองถึงจะมองว่าเป็นเหมือนหลอกตัวเอง แต่แท้จริงแล้วเป็นการพูดเพื่อให้จิตใต้สำนึกได้รับรู้ และเมื่อพูดบ่อยๆ อาจจะทำให้เกิดพลังงานบางอย่างที่สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีได้แน่นอน
= = = = = = = = = = = =
ติดตามความรู้ดี ๆ และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่
https://www.facebook.com/teamkonthong/
We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about how can you grow up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or have any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook
https://www.facebook.com/teamkonthong/
บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..
1.ลูกไม่กินข้าว เกิดจากอะไร และวิธีการรับมือ
2.เพราะอะไร ลูกมักอาเจียนหลังดื่มนม และเป็นอันตรายไหม