อีกหนึ่งปัญหาสำหรับคุณแม่ในการเลี้ยงลูกนั่นก็คือการนอนของลูก หรือลูกไม่ยอมนอน บางครั้งหลับไปเพียงแค่แปบๆ ก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาร้องไห้งอแง ทำให้คุณแม่ไม่ต้องอดหลับอดนอน และหากนานเข้าอาจทำให้สุขภาพของคุณแม่แย่ตามไปด้วย และถ้าเป็นแบบนี้ไม่ดีแน่ วันนี้เราจึงได้นำเคล็ดลับ ฝึกลูกนอนยาว หลับสบายจนถึงเช้ามาฝาก คุณแม่ไม่ต้องมานั่งเป็นนกฮูกคอยกล่อมลูกนอนตลอดทั้งคืนอีกต่อไป เคล็ดลับที่ว่านี้จะมีอะไรบ้างนั้นตามเรามาดูกันเลยดีกว่า
ฝึกลูกนอนยาว เริ่มได้ตั้งแต่กี่เดือน
เด็กจะเรียนรู้การนอนตั้งแต่แรกเกิด โดยในช่วงแรกเกิดเด็กจะยังปรับตัวไม่ได้ ยังไม่รู้เวลากลางวัน หรือกลางคืน แต่พอเวลาผ่านไป เด็กจะเรียนรู้ได้ถึงเวลากลางวันและกลางคืน โดยในช่วงอายุ 1-2 เดือน เด็กจะกินนมมากขึ้น และเริ่มนอนกลางวันน้อยลง จะหลับยาวในช่วงเวลากลางคืนเฉลี่ย 2-3 ชม. ต่อรอบ และจะเริ่มนอนยาวเป็น 3-6 ชม. ต่อรอบเมื่ออายุ 3-4 เดือน ในช่วง 2 เดือนแรกหากลูกนอนยาวมากเกิน 4 ชม. คุณแม่สามารถปลุกให้ลูกเข้าเต้า หรือตื่นมากินนมไม่เช่นนั้นเด็กอาจจะเสี่ยงเกิดภาวะน้ำตาลต่ำได้ และเมื่ออายุย่างเข้า 3 เดือนแรก คุณแม่ควรเริ่ม ฝึกลูกนอนยาว ให้ลูกเริ่มนอนเป็นเวลาได้แล้ว โดยพาเข้านอนให้ตรงเวลาทุกวัน ทั้งกลางวัน และกลางคืน โดยช่วงเวลากลางวันอาจจะให้นอนเป็น 2 ช่วงคือ เวลาสาย 09-10.00น. และช่วงบ่าย 13.00-14.00น. ส่วนเวลากลางคืนควรพาลูกเข้านอนตั้งแต่เวลา 19.00น.ด้วยการกล่อมลูกนอน ฝึกแบบนี้ไปเรื่อยๆ และเมื่อเลยอายุ 5 เดือนขึ้นไป ลูกก็จะหลับยาวได้ที่ตลอดทั้งคืน
6 เคล็ดลับ การฝึกลูกให้นอนยาวขึ้น
รู้หรือไม่ว่าการนอนของลูก ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทางสมอง และการเจริญเติบโตของลูกน้อยได้ คุณแม่จึงต้องให้ความสำคัญกับการนอนของลูก และเมื่อได้นอนพักผ่อนอย่างเต็มที่จะช่วยให้ลูกน้อยอารมณ์ดี ไม่งอแง เลี้ยงง่ายขึ้น สำหรับคุณแม่ที่อยากให้ลูกนอนหลับยาวตลอดทั้งคืน วันนี้เรามี 6 เคล็ดลับ ฝึกลูกนอนยาว มาฝากรับรองได้ว่าลูกนอนหลับสบายคุณแม่ผ่อนคลายแน่นอน
1.ให้ลูกรู้จักเวลากลางวัน-กลางคืน
ทารกแรกเกิดจะยังแยกเวลากลางวันและกลางคืนไม่ได้ จึงทำให้ลูกตื่นบ่อยๆ และนอนหลับไม่เป็นเวลา คุณแม่จึงต้องสอนให้ลูกรู้ว่าช่วงเวลาไหนคือกลางวัน-กลางคืน เพื่อ ฝึกลูกนอนยาว โดยการพาเข้านอนหัวค่ำ 19.00น. ปิดไฟให้มืดไม่ให้มีแสง หรือเสียงจากทีวีรบกวน และปลุกลูกตื่นในเวลา 07.00น. โดยการเปิดหน้าต่างให้แสงสว่างเข้า เมื่อทำอย่างนี้สักระยะลูกก็จะค่อยๆ ปรับตัวและเรียนรู้การนอนเวลากลางวัน และกลางคืนได้
2.สังเกตพฤติกรรมการนอนของลูก
ถึงแม้คุณแม่จะอ่านตำรามามากมาย แต่เด็กแต่ละคนมีช่วงเวลา และนิสัยการนอนไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นคุณแม่จึงต้องสังเกตพฤติกรรมการนอนของลูกด้วย ว่าลูกชอบนอนช่วงเวลาไหน และควรใช้ช่วงเวลานั้น ฝึกลูกนอนยาว อย่างเช่นหากลูกนอนยาวในช่วงเวลา 2 ทุ่มไปจนถึงเที่ยงคืน ก็ให้ใช้ช่วงเวลานี้ กล่อมลูกนอน และเมื่อหลังจาก 4 เดือนขึ้นไปลูกก็จะนอนยาวขึ้นตลอดทั้งคืนได้
3.งดมือดึกด้วยการเพิ่มนมในมื้อกลางวัน
เมื่อลูกรู้เวลานอนเป็นเวลามากขึ้นแล้ว คุณแม่ลองงดมื้อดึก โดยการไม่ปลุกขึ้นมากินนมในช่วงเวลากลางคืน และลองเพิ่มนมในมื้อกลางวันมากขึ้น เพื่อให้ลูกได้อิ่มนานอยู่ท้องไปจนถึงกลางคืน และเมื่อลูกรู้สึกอิ่มมากหนังตาก็หย่อนนอนหลับยาวทั้งคืน ทั้งนี้ควรงดมื้อดึกหลังจากลูกอายุ 6 เดือนไปแล้ว เพื่อช่วย ฝึกลูกนอนยาว ขึ้นและดีต่อสุขภาพฟันของลูกด้วยนั่นเอง
4.ให้ลูกเล่นเต็มที่ในช่วงกลางวัน
หากคุณแม่ประสบปัญหาลูกไม่ยอมนอนเวลากลางคืน ลองเปลี่ยนให้ลูกได้เล่นอย่างเต็มที่เวลากลางวัน พยายามให้นอนน้อยลง โดยการเตรียมของเล่น หรือมีพื้นที่เหมาะสมให้ลูกได้เล่นอย่างปลอดภัยอย่างเช่น คอกกั้น เพื่อให้ลูกน้อยได้เล่นอย่างเต็มที่ และเมื่อได้ใช้พลังงานเล่นเวลากลางวันเต็มที่แล้ว เวลากลางคืนลูกจะหมดแรงนอนหลับยาวตลอดทั้งคืนแน่นอน
5.สร้างบรรยากาศให้เหมาะกับการนอน
ฝึกลูกนอนยาว โดยการสร้างบรรยากาศในห้องนอน น่าอยู่ ชวนหลับอย่างเช่น อุณหภูมิในห้องเหมาะสมไม่หนาว หรือร้อนจนเกินไป มีที่นอนนุ่มๆ อุ่นๆ น่านอน ไฟในห้องสลัวๆ ไม่มีเสียงดังรบกวนไม่ว่าจะเป็นเสียงทีวี พัดลม หรือเสียงนาฬิกาเดิน หากบรรยากาศห้องนอนเป็นใจ จะทำให้ลูกนอนหลับได้ง่ายขึ้นแน่นอน
6.หาสาเหตุที่ทำให้ลูกตื่นกลางดึก
หากลูกไม่ยอมนอน หรือบางครั้งมักจะมีปัญหาตื่นกลางดึก คุณแม่ลองหาสาเหตุที่ทำให้ลูกไม่ยอมนอน ซึ่งอาจจะเกิดจากสาเหตุต่อไปนี้ก็ได้อย่างเช่น ปวดฟัน ฟันขึ้น เหงือกบวม ปวดท้อง ท้องอืด เป็นผื่นเกิดอาการคันผิวหนัง ปวดหูจากการอักเสบ เป็นหวัดคัดจมูก ซึ่งสาเหตุเหล่านี้จะทำให้ลูกงอแงไม่ยอมนอนได้เช่นกัน
ลูกไม่ยอมนอน หรือมักจะตื่นขึ้นเวลากลางคืน ถือเป็นปัญหาใหญ่สำหรับคุณแม่ โดยเฉพาะคุณแม่ที่เป็นมือใหม่ เพราะฉะนั้นหากมีปัญหาดังกล่าวนี้ ลองนำวิธีที่เราได้นำมาฝากในวันนี้ไปปรับใช้ดู เชื่อว่าจะสามารถ ฝึกลูกนอนยาว ได้ไม่ยากเลย และเมื่อลูกนอนหลับสบาย คุณแม่ก็จะรู้สึกผ่อนคลายเพราะได้นอนพักผ่อนอย่างเต็มที่ด้วยนั่นเอง
= = = = = = = = = = =