กีวีผลไม้เมืองหนาว ที่มีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน อุดมไปด้วยวิตามินและเกลือแร่ต่างๆ มากมาย จึงมีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยกีวีนั้นเป็นผลไม้ที่กินง่าย ซึ่งคุณแม่ไม่ควรพลาดที่จะหาซื้อกีวีมาให้ลูกได้กิน ตั้งแต่วัยเริ่มอาหารเสริมกันเลย โดยมีประโยชน์ต่อลูกน้อยอย่างไรบ้างนั้น ไปดูกันเลยค่ะ
กีวี่ ผลไม้ที่มีประโยชน์สำหรับเด็ก
กีวีมีประโยชน์ต่อเด็กๆ ดังต่อไปนี้
1.มีโฟเลตสูง
โฟเลต เป็นวิตามินที่มีความสำคัญต่อกระบวนการสร้างเม็ดเลือดของทารกในครรภ์ แพทย์จึงแนะนำให้หญิงตั้งครรภ์ควรได้รับโฟเลตอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันการโรคโลหิตจาง รวมทั้งความผิดปกติของประสาทไขสันหลัง ที่อาจเกิดขึ้นกับทารกในครรภ์ โดยกีวี่นั้น เป็นผลไม้ที่มีโฟเลตสูงมาก และเมื่อนำมาเทียบกับผลไม้ชนิดอื่นเช่น กล้วยและมะม่วงนั้น กีวี่มีโฟเลตมากกว่าถึง 49 เปอร์เซนต์ และ 8 เปอร์เซนต์ตามลำดับ และหลังคลอด ก็ยังสามารถนำมาให้ลูกกินได้ตั้งแต่วัย 6 เดือน
2.ป้องกันหวัด
กีวี่นั้นมีวิตามินซีอยู่สูงมาก โดยกีวี่1ลูกนั้นมีวิตามินซีอยู่สูงถึง 64 มิลลิกรัม ซึ่งเมื่อนำมาเทียบกับส้มแล้ว พบว่า กีวี่มีวิตามินซีสูงกว่าส้มถึง 74 เปอร์เซนต์ ดังนั้นการกินกีวี่เพียงลูกเดียวก็ทำให้ได้รับวิตามินซีสูง ซึ่งเพียงพอต่อความความต้องการของร่างกายใน 1วัน จึงช่วยทำให้ป้องกันการติดเชื้อไวรัสในระบบทางเดินหายใจส่วนบน ที่มักส่งผลให้เป็นหวัด หรือไซนัสอักเสบได้ และเมื่อทานเป็นประจำจะช่วยให้อาการป่วยที่เป็นหายเร็วขึ้น รวมทั้งลดความรุนแรงจากอาการปวดหัว และเจ็บคอลงได้
3.ต้านหอบหืด
เด็กคนไหนที่เกิดมาพร้อมกับโรคหอบหืด คุณแม่สามารถให้ลูกทานกีวี่ได้เลย และจากการศึกษาเด็กชาวอิตาลี พบว่าเด็กที่กินกีวี่สดสัปดาห์ละ 5-7 ครั้ง จะมีอาการหอบหืดลดลง รวมทั้งเด็กที่มีอาการหายใจถี่ ไอเวลากลางคืน ไอเรื้อรัง และมีน้ำมูกไหล โดยเด็กเหล่านี้จะมีอาการดีขึ้นเมื่อกินกีวี่เป็นประจำ ดังนั้นมื้อต่อไปของลูกน้อย ต้องมีกีวี่ด้วยแล้วละ
4.บำรุงสายตา
สารลูทีน ในกีวี่นั้น มีอยู่มากถึง 171 ไมโครกรัม ซึ่งลูทีนนั้นเป็นสารอาหารที่อยู่ในกลุ่มเดียวกับเบต้าแคโรทีน และวิตามินเอ โดยลูทีนนั้นมีหน้าที่กรองแสง ช่วยป้องกันดวงตาจากแสงแดด แสงสีฟ้า และช่วยจำกัดอนุมูลอิสระจากมลภาวะต่างๆ ดังนั้นเมื่อได้รับสารลูทีนอย่างเพียงพอ ก็จะทำให้การมองเห็นของลูกดีขึ้น
5.ขับถ่ายสะดวก
เด็กบางคนเมื่อเริ่มกินอาหารเสริมอาจมีอาการท้องผูกได้ ดังนั้นการกินกีวี่ที่มีใยอาหารสูง จะช่วยดูดซับน้ำ ทำให้อุจจาระนิ่มขึ้น ส่งผลให้ขับถ่ายได้สะดวกมากขึ้น ดังนั้นเมื่อลูกน้อยท้องผูกบ่อยๆ ให้เอากีวี่ให้ลูกกินเป็นประจำ ซึ่งกีวี่นั้นจะช่วยปรับและกระตุ้นการทำงานของลำไส้ จึงช่วยป้องกันอาการท้องผูกที่ลูกน้อยเป็นอยู่ได้
6.หลับสบาย
เด็กบางคนนอนหลับๆตื่นๆ อยู่บ่อยๆ โดยอาจมีสาเหตุจากอาการไอในเวลากลางคืน หรือหายใจลำบาก จึงส่งผลให้ร่างกายได้พักผ่อนไม่เต็มที่ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพของลูก และรวมทั้งอาจส่งผลกระทบต่อตัวแม่เองด้วย และจากศึกษาพบว่าการกินกีวี่ 2 ลูก ก่อนเข้านอนอย่างน้อย 1ชั่วโมง โดยทำติดต่อกันเป็นเวลา 4 สัปดาห์นั้น สามารถทำให้คนที่กีวี่ก่อนนอนนี้ นอนหลับได้อย่างยาวนานและมีประสิทธิภาพขึ้น ซึ่งแน่นอนว่ากีวี่นั้นมีประโยชน์อย่างมากต่อร่างกาย ดังนั้นก่อนนอนคุณแม่ลองหาเมนูที่มีกีวี่เป็นส่วนผสมให้ลูกได้กิน ก็น่าจะทำให้ลูกหลับได้ยาวนานขึ้น
7.ดีต่อหัวใจ
การออกกำลังกายและการเลือกทานอาหารที่เป็นประโยชน์ช่วยป้องกันโรคหัวใจได้ ซึ่งกีวี่จัดเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์อย่างมาก เพราะอุดมไปด้วยวิตามินและเกลือแร่ โดยมีการศึกษามาแล้วว่าการกินกีวี่นั้นช่วยเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลชนิดที่ดี และยังลดระดับความดันโลหิตลง จึงช่วยป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ ดังนั้นจึงแนะนำให้ลูกกินกีวี่เป็นประจำ เพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง
คำแนะนำการให้ลูกกินกีวี่
มีคำแนะนำสำหรับการกินกีวี่ในเด็ก ดังต่อไปนี้
1.เริ่มกินได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือน
เพื่อป้องกันการแพ้อาหาร แพทย์แนะนำว่าไม่ควรให้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 เดือนกิน ดังนั้นคุณแม่สามารถให้ลูกลองกินกีวี่ได้ต้องมีอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป
2.เด็กที่แพ้กีวี่
เมื่อทราบแน่ชัดว่า ลูกแพ้กีวี่ รวมทั้งอาหารอื่นๆ เช่น อะโวคาโด มะเดื่อฝรั่ง งา เฮเซลนัต ข้าวสาลี ก็ควรงดเว้นการกินกีวี่อย่างเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เกิดอาการแพ้ขึ้นได้
3.ไม่เหมาะกับเด็กที่มีปัญหาสุขภาพ
แพทย์ห้ามไม่ให้เด็กที่มีโรคต่อไปนี้ กินกีวี่ เช่นเป็นโรคทางเดินอาหาร ความดันเลือดต่ำ โรคท้องร่วง และโรคไต เพราะอาจทำให้อาการทรุดลงอีก
4.เด็กที่เลือดออกง่าย
ในเด็กที่เลือดออกง่าย เมื่อกินกีวี่เข้าไป อาจทำให้เลือดแข็งตัวช้าลง เป็นผลให้เลือดออกได้ง่ายขึ้น ดังนั้นเด็กในกลุ่มนี้ ควรหลีกเลี่ยงการกินกีวี่
5.เด็กที่ต้องเข้ารับการผ่าตัด
การเตรียมตัวเพื่อเข้ารับการผ่าตัด จำเป็นต้องงดการกินกีวี่อย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันไม่ให้เลือดไหลออกมากขณะผ่าตัด เพราะกีวี่มีผลทำให้เลือดแข็งตัวช้า
กีวีนั้นมีประโยชน์หลากหลาย จึงเหมาะที่คุณแม่จะนำมาดัดแปลงเป็นเมนูต่างๆ โดยควรเริ่มให้ในวัยที่เหมาะสม คือตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคุณแม่ต้องคอยเฝ้าระวังอาการแพ้อาหารที่อาจเกิดตามมาได้ รวมทั้งเด็กที่มีปัญหาสุขภาพควรหลีกเลี่ยงการกินกีวี่ และหันไปหาผลไม้อย่างอื่นกินแทนจะดีกว่า
= = = = = = = = = = = =
ติดตามความรู้ดี ๆ และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่
https://www.facebook.com/teamkonthong/
We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about how can you grow up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or have any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook
https://www.facebook.com/teamkonthong/
บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..
