หลังคลอดลูกได้ไม่นาน คุณแม่บางคนอาจจะรู้สึกตระหนกตกใจกับการที่ ลูกตัวเหลือง โดยเฉพาะบริเวณผิวหนังและดวงตา ที่เปลี่ยนเป็นสีเหลืองอย่างชัดเจน จนทำอะไรไม่ถูก ในส่วนนี้ก็ต้องอธิบายกันก่อนว่า ภาวะที่ลูกตัวเหลือง สามารถเกิดขึ้นได้กับเด็กทารกทุกคน โดยเฉพาะเด็กที่คลอดก่อนกำหนดจนต้องอยู่ในตู้อบ แต่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายแต่อย่างใด เป็นเพียงแค่ร่างกายของเด็กมีสารบิลิรูบิน (สารให้สีเหลือง) ในเลือดมากเกินไป เพราะยังไม่สามารถขับออกทางลำไส้ใหญ่ได้นั่นเอง เมื่อเด็กเริ่มโตขึ้น จนตับเริ่มมีการพัฒนา อาการตัวเหลืองก็จะค่อย ๆ หายไปเอง เว้นเสียแต่ว่า ลูกตัวเหลืองรุนแรงมากกว่าเดิม และมีระยะเวลาในการตัวเหลืองนานกว่า 3 สัปดาห์ อาจส่งผลให้เกิดความผิดปกติเกี่ยวกับสมองได้ ซึ่งอาจจะเกิดจากการที่สารบิลิรูบินในร่างกายมีปริมาณที่มากเกินไป หรืออาจเกิดจากการที่คุณแม่ไม่พาไปลูกไปพบแพทย์ แต่เลือกใช้วิธีรักษาด้วยตัวเอง เช่น การป้อนน้ำ เป็นต้น

การป้อนน้ำให้ลูก กรณี ลูกตัวเหลือง ทำให้หายจริงหรือไม่ ?

เป็นความเชื่อที่ได้รับการสืบทอดกันมาแบบผิด ๆ และอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตสำหรับเด็กได้ ซึ่งในปัจจุบันนี้ก็ยังมีคุณแม่และคนในครอบครัวอีกหลาย ๆ ครอบครัว ที่เห็นลูกตัวเหลือง ก็รีบเอาน้ำใส่ขวดนมให้ลูกกิน (บางครอบครัว โดยเฉพาะผู้สูงอายุอย่าง คุณตา คุณยาย คุณปู่ คุณย่า อาจจะเป็นผู้แอบเอาน้ำให้เด็กกินตอนคุณแม่เผลอ) เพราะเชื่อกันว่า เมื่อเด็กได้กินน้ำในปริมาณมาก ก็จะทำให้มีการขับถ่ายสารบิริลูบินนี้ออกมาทางปัสสาวะ ซึ่งจะทำให้เด็กหายตัวเหลืองได้โดยไม่ต้องไปพบแพทย์ โดยลืมคิดไปว่าเด็กยังเล็กอยู่ ทานได้แต่เพียงนมแม่เท่านั้น จึงเป็นเหตุให้เกิดการสำลักน้ำที่เป็นอันตรายต่อชีวิตได้

ควรทำอย่างไร ให้หายจากอาการลูกตัวเหลือง หากไม่ป้อนน้ำ

ในทางการแพทย์นั้นได้ระบุว่า ส่วนมากที่ลูกตัวเหลือง มักเกิดจากการได้รับนมแม่ในปริมาณที่ไม่เพียงพอต่อการขับสารบิลิรูบิน โดยอาจเกิดจากการเข้าเต้าไม่ลึกพอที่จะให้ลูกดูดนมได้อย่างเต็มที่ ลูกดูดนมผิดท่า หรือน้ำนมแม่ไหลในปริมาณน้อย เพราะฉะนั้นก็ต้องแก้ด้วยการให้นมแม่แบบจริงจังอย่างน้อยวันละ 8-10 ครั้ง เพราะน้ำนมแม่มีสารอาหารสำคัญหลายชนิด โดยเฉพาะแลคโตส ซึ่งจะช่วยขับสารสีเหลืองในร่างกายออกมาทางอุจจาระ และจะช่วยให้หายจากอาการลูกตัวเหลืองได้ในที่สุด (ใช้ระยะเวลาประมาณ 3-14 วัน) แต่ถ้ายังไม่ดีขึ้นอีก ก็อาจจะต้องทำการรักษาทางการแพทย์ต่อไป เช่นการเข้าตู้อบ การส่องไฟ เป็นต้น

หากลูกตัวเหลือง แล้วยังแอบป้อนน้ำอยู่ ลูกจะมีอาการอย่างไรบ้าง ?

ถึงแม้ว่าแพทย์จะให้คำแนะนำกับคุณแม่เป็นอย่างดีแล้ว ในเรื่องของการดูแลเมื่อลูกตัวเหลือง แต่ปัญหากลับไปอยู่ที่คนในบ้านที่พูดอย่างไรก็ไม่เชื่อ คอยแต่จะแอบเอาน้ำป้อนให้เด็กอยู่เรื่อย ก็ต้องบอกถึงอาการที่เด็กจะได้รับจากความเชื่อผิด ๆ นี้เลย ซึ่งมีดังต่อไปนี้

1.เด็กจะมีอาการ Water Intoxication

หรือที่เรียกว่าน้ำเป็นพิษ เนื่องจากเด็กยังมีน้ำหนักตัวน้อยมาก การรับสารอาหารผ่านทางน้ำนมก็เพียงพอต่อความต้องการในช่วงเวลานี้แล้ว แต่ถ้ายังดันทุรังป้อนน้ำไปเรื่อย ๆ ก็จะทำให้เด็กเกิดการสำลักน้ำ จนถึงขั้นทำให้ชัก สมองบวม และเสียชีวิตในที่สุด

2.เกลือแร่และแร่ธาตุในตัวเด็กจะเจือจางลงไป

Sponsored

เพราะเด็กในวัยนี้ยังไม่ต้องการน้ำ ไม่ว่าจะอากาศร้อนอย่างไรก็ตาม ควรให้ดื่มนมแม่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ถ้าหากสารอาหารในตัวเด็กถูกเจือจางลงไปจนหมด ก็จะส่งผลให้เกิดโรคแทรกซ้อนมากมายที่เป็นอันตรายถึงชีวิตเช่นกัน

รู้แบบนี้แล้วก็หวังว่าคุณแม่จะระมัดระวังในเรื่องของการดูแลรักษาอาการเมื่อลูกตัวเหลืองกันมากยิ่งขึ้น และทางที่ดีที่สุด เมื่อแพทย์แนะนำอะไรในการเลี้ยงลูก ก็ให้ลากคนในครอบครัวให้เข้าไปฟังและทำความเข้าใจไปพร้อมกันเลย จะปลอดภัยกับเด็กทารกมากที่สุด

= = = = = = = = = = = =

ติดตามความรู้ดี ๆ  และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่
https://www.facebook.com/teamkonthong/

We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about how can you grow up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or have any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook

https://www.facebook.com/teamkonthong/

บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..

1.10 เคล็ดลับการตั้งครรภ์ ท้องแรก ที่คุณแม่ควรปฏิบัติ

2.10 ความเชื่อคนท้อง ที่คุณแม่ควรรู้ เช็คสิมีอะไรบ้าง