สำหรับคุณแม่ที่มีบุตรเพียงพอแล้วก็มักจะเลือกทำหมันเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ที่ไม่พร้อมอีก ซึ่งการทำหมันก็จะมีให้เลือกหลายวิธีด้วยกันมีทั้ง ทำหมันแบบแห้ง และทำหมันเปียกซึ่งแต่ละวิธีนั้นก็สามารถคุมกำเนิดได้เหมือนๆ กัน ขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการทำและผู้ที่ทำต้องการจะทำหมันรูปแบบไหน วันนี้เราเลยจะพาคุณแม่มารู้จักกับการ ทำหมันแห้ง หมันเปียกว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร พร้อมข้อดีและข้อเสียของการทำหมันทั้งสอบแบบว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง
การทำหมันแห้ง
การทำหมันแห้ง (Interval Sterilization) คือ การทำหมัน เพื่อคุมกำเนิดในสตรีชนิดหนึ่ง เป็นวิธีที่ง่าย ปลอดภัยและประหยัด มีความล้มเหลวในการคุมกำเนิดน้อยมาก การทำหมันหญิงก็เพื่อให้บุคคลนั้นสามารถสืบพันธุ์ได้ต่อไปโดยที่ไม่ตั้งครรภ์ ซึ่งการทำหมันแห้ง นี้จะเป็นการทำให้ท่อรังไข่ตันเพื่อให้อสุจิของฝ่ายชายไม่สามารถเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ได้ การทำหมันแห้ง เป็นวิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดถึงแม้จะไม่ถึง 100 % เลยก็ตาม การทำหมันประเภทนี้สามารถทำระยะเวลาไหนก็ได้ที่ผู้ทำไม่ได้กำลังตั้งครรภ์ หรืออยู่ในช่วงหลังคลอดไปแล้ว 6 สัปดาห์เพราะช่วงเวลานี้มดลูกจะมีขนาดปกติและอยู่ในอุ้งเชิงกราน จึงทำให้การผ่าตัดมีความยากในการหาท่อนำไข่มากกว่าการทำหมันเปียก หรือหมันหลังจากที่เพิ่งคลอดใหม่ๆ แต่ก็ใช้เวลาทำไม่นาน และเมื่อทำหมันแห้ง เสร็จหมอก็จะให้คนไข้นอนพักประมาณ 2-3 ชั่วโมงจึงอนุญาตให้กลับบ้านได้
ข้อดี
ในการทำหมันแห้ง (ทำหมันปกติ) เป็นการคุมกำเนิดที่ได้ผลและมีประสิทธิภาพมากที่สุดมีหลายวิธีให้เลือกทำ ซึ่งการทำหมันหญิงในปัจจุบันทำง่ายไม่ต้องนอนโรงพยาบาลและแผลเล็ก และนี่คือข้อดีในการทำหมันหญิง
- การทำหมันแห้ง เป็นวิธีการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงมากทำครั้งเดียวสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ตลอดชีวิต
- ทำหมันหญิงสะดวก ประหยัด และไม่ต้องใช้อุปกรณ์อะไรในการคุมกำเนิด และไม่ต้องกลัวลืมรับประทานยาหรือฉีดยาคุมกำเนิด สามารถคุมกำเนิดได้เกือบ 100 %
- ทำหมันหญิงไม่เป็นอุปสรรคในการร่วมรัก
- การทำหมัน หญิงไม่มีผลข้างเคียงใดๆ ในการให้นมบุตร
- ทำหมันหญิงไม่ใช่วิธีคุมกำเนิดโดยใช้ฮอร์โมน จึงไม่มีผลข้างเคียงใดๆ เหมือนการรับประทานยาคุมกำเนิด
ข้อเสีย
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าการทำหมันหญิงจะสามารถคุมกำเนิดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดแต่ก็มีข้อเสียด้วยเช่นกันอย่างเช่น
- ทำหมันหญิงจะต้องทำการผ่าตัดซึ่งมักจะมีรอยแผลเป็นที่หน้าท้อง
- หากทำหมันด้วยวิธีนี้ล้มเหลวผู้ที่ทำหมันก็จะมีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้เช่นกัน ลาจะมีโอกาสตั้งครรภ์นอกมดลูกสูงด้วย
- ทำหมันหญิงไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้
การทำหมันเปียก
หมันเปียก หรือ (การทำหมันหลังคลอด) เป็นการทำหมันภายใน 6 สัปดาห์หลังจากที่คลอดโดยจะนิยมทำกันหลังจากที่เพิ่งคลอดภายในเวลา 48 ชั่วโมงเนื่องจากช่วงเวลานี้จะเป็นช่วงที่ทำได้ง่ายเพราะมดลูกของคุณแม่เพิ่งคลอดยังมีขนาดโตและลอยสูงอยู่ในช่องท้องเหนืออุ้งเชิงกราน ทำให้สามารถหาท่อนำไข่ทั้ง 2 ข้างได้อย่างง่ายดาย ซึ่ง การทำหมัน เปียกนี้ทำได้ง่าย มีแผลผ่าตัดขนาดเล็ก เพราะแพทย์จะทำการลงแผลผ่าตัดใต้สะดือ ขนาดแผลจะอยู่ที่ 2 – 5 ชม.และทำการผูกท่อนำไขและตัดท่อนำไข่บางส่วนออกทั้งสองข้าง หลังจากที่ทำหมันเสร็จแพทย์จะให้นอนพักรักษาดูอาการที่โรงพยาบาล 1 – 2 วัน จึงจะสามารถกลับบ้านได้ และหลังจากที่ทำการผ่าตัดประมาณ 6 – 7 วันแพทย์จะนัดให้คุณแม่มาตัดไหม แต่สำหรับคุณแม่ที่ผ่าท้องคลอดแพทย์จะทำการทำหมันให้พร้อมกันเลย แพทย์ส่วนใหญ่มักจะแนะนำให้ทำหมันเปียกเพราะสามารถทำได้เลยหลังคลอดและไม่เสียเวลาในการเตรียมตัว คุณแม่ที่ต้องการทำหมันควรตัดสินใจให้แน่วแน่ตั้งแต่ขณะที่กำลังตั้งครรภ์อยู่
ข้อดี
ทำหมันเปียกเป็นอีกหนึ่งวิธีในการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูง ทำหมันเปียกเป็นที่นิยมมากสำหรับคุณแม่หลังคลอดเพราะสะดวก รวดเร็วและปลอดภัย และนี่คือข้อดีของการทำหมันเปียก
- ทำหมันเปียก สะดวก ปลอดภัย และสามารถทำได้หลังจากที่เพิ่งคลอด และในส่วนของคุณแม่ผ่าคลอดสามารถทำหมันไปพร้อมๆ กันได้เลย
- ทำหมันเปียกเป็นวิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพมาก
- ทำหมันเปียกไม่มีผลข้างเคียงใดๆ สามารถพักฟื้นและใช้ชีวิตโดยปกติได้
- ทำหมันเปียกไม่ส่งผลกระทบต่อการให้นมบุตรและการดำเนินชีวิตใดๆ
- ทำหมันเปียกสามารถร่วมรักได้โดยที่ไม่มีผลข้างเคียงใดๆ
ข้อเสีย
ทำหมันเปียกถึงจะมีข้อดีมากมายหลายข้อ แต่ก็มีข้อเสียด้วยเช่นกัน ซึ่งข้อเสียในการทำหมันเปียกนั้นก็จะมีดังนี้
- ทำหมันเปียกเป็นการทำหมันหลังจากที่เพิ่งคลอดระยะเวลาไม่เกิน 6 สัปดาห์ หรือภายใน 48 ชั่วโมงจึงทำให้คุณแม่มีอาการอ่อนเพลียมากเพิ่มขึ้น
- ทำหมันเปียก จะต้องทำการผ่าตัดใต้สะดือหน้าท้องทำให้เกิดมีรอยแผลผ่าตัดอยู่บริเวณหน้าท้อง
- ทำหมันเปียกไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศได้
การทำหมันแห้ง และ หมันเปียก มีความแตกต่างกันอยู่ตรงที่ระยะเวลาในการทำ ซึ่งการทำหมันชนิดแห้งนั้นจะต้องรอเวลาให้เลย 6 สัปดาห์หลังจากคลอดขึ้นไป ส่วนการทำหมันเปียกนั้นสามารถทำได้เลยหลังจากที่เพิ่งคลอดในระยะเวลาไม่เกิน 6 สัปดาห์หรือภายใน 48 ชั่วโมง ซึ่งการทำหมันทั้งสองอย่างต่างก็มีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดได้เหมือนๆ กัน ขึ้นอยู่กับความชอบของคุณแม่แต่ละท่านว่าจะเลือกทำหมันรูปแบบไหนนั่นเอง
= = = = = = = = = = = =