วิธีการรับมือกับทารก ที่ชอบร้องไห้กลั้น .. การร้องไห้เป็นเรื่องปกติที่คุณแม่ทุกคนจะต้องพบเจอค่ะ แต่สำหรับลักษณะการร้องที่มีความเสี่ยงนั้น คุณแม่อาจไม่สามารถปล่อยว่างได้ เพราะการร้องไห้ในลักษณะนี้มีความเสี่ยงต่อสุขภาพของลูกอย่างมาก ซึ่งเด็กบางคนที่มีภาวะอารมณ์แปรปรวน อาจจะร้องไห้นานจนติดเป็นนิสัย และบางครั้งก็ร้องไห้จนกลั้นหายใจ จึงเป็นที่มาของลักษณะการร้องไห้ที่เรียกว่า “ร้องไห้กลั้น” นั่นเองค่ะ
วิธีการรับมือกับทารก ที่ชอบร้องไห้กลั้น เเบบเห็นผล
สำหรับคุณแม่ที่กำลังพบกับปัญหาหนักใจ เกี่ยวกับลักษณะการร้องไห้ของลูก ที่ชอบร้องไห้กลั้นอยู่เป็นประจำ ส่งผลให้คุณแม่เกิดความเครียด และไม่รู้ว่าจะรับมือกับพฤติกรรมเหล่านี้ได้อย่างไร วันนี้เรามีคำตอบดี ๆ มาแนะนำค่ะ แต่สิ่งแรกคุณแม่จะต้องทราบถึงสาเหตุของการร้องไห้ที่ลูกทำก่อนนะคะ รายละเอียดดังนี้
สาเหตุสำหรับที่ทำให้ลูกร้องไห้กลั้น
- พันธุกรรม สำหรับผลการศึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ สรุปได้ว่า การที่เด็กทารกร้องไห้กลั้นนั้น เกิดจากปฏิกิริยาของร่างกายที่ตอบสนองต่อความเจ็บปวด ความโกรธ และเมื่อถูกขัดใจค่ะ แต่อาการร้องไห้กลั้นไม่ได้เกิดขึ้นทุกคนนะคะ ทางการแพทย์พบว่า พันธุกรรมมีส่วนเกี่ยวข้องอยู่ด้วย ซึ่งอาการดังกล่าวเกิดมาจากคุณแม่เคยเป็นตอนยังเล็กค่ะ
- ร้องไห้กลั้น เพราะไม่ได้รับการสนองตอบต่อความต้องการอย่างแท้จริง หรืออาจถูกปล่อยให้ร้องไห้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน ทำให้ลูกเกิดภาวะอาการเครียด เมื่อร้องไห้จึงทำให้มีอาการร้องไห้กลั้นได้เช่นกันค่ะ
ลักษณะของอาการร้องไห้กลั้นที่คุณแม่ควรทราบ
ลักษณะของอาการร้องไห้กลั้นนั้น คุณแม่จะสังเกตได้จากการที่ทารกเริ่มร้องไห้หนักขึ้นเรื่อย ๆ เป็นช่วงจังหวะที่หายใจออกมายาวนานเหมือนกลั้นหายใจไปประมาณ 10 – 20 วินาที หรือคล้าย ๆ กับคนหมดสติในช่วงเวลาสั้น ๆ จนบางครั้งคุณแม่อาจจะสังเกตเห็นใบหน้า ปากและเล็บเริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีเขียวคล้ำ แล้วร้องดังขึ้นมาใหม่ การร้องไห้กลั้นนี้จะทำให้อัตราการเต้นของหัวใจเบาลง แล้วร่างกายจะกลับสู่สภาวะปกติขึ้นมาเอง โดยสังเกตได้จากสีผิวที่กลับมามีเลือดฝาดเหมือนเดิม ระยะเวลการร้องไห้กลั้นอาจใช้เวลานานถึง 1 นาที ซึ่งไม่ดีต่อสุขภาพของลูกน้อยอย่างมากค่ะ
ผลกระทบที่เกิดจากการร้องไห้กลั้นของเด็กเล็ก
- การร้องไห้กลั้นเกิดจากการตอบสนองของร่างกายทารกแบบนอกเหนือการควบคุมทางจิตใจ นั่นหมายความว่า อาการ้องไห้กลั้นของเด็กทารกนี้ เกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ ร้องกลั้นเพียงต้องการบางสิ่งบางอย่างจากคุณแม่เท่านั้น การร้องกลั้นของทารกจึงไม่มีผลกระทบต่อพัฒนาการด้านต่าง ๆ
- การร้องกลั้นเป็นเวลานาน อาจทำให้เซลล์สมองตายได้ เนื่องจากการร้องไห้แล้วกลั้นหายใจ คุณแม่จะเห็นว่าร่างกายของลูกบริเวณหน้า ผิว เล็บ และมือ ที่เปลี่ยนสีเป็นสีเขียวคล้ำ นั่นเพราะร่างกายขาดออกซิเจนเป็นเวลานาน ถ้าลูกร้องกลั้นแบบนี้บ่อย ๆ อาจจะทำให้อันตรายถึงชีวิตได้ค่ะ
- กรณีที่ลูกมีภาวะโรคอื่นร่วมด้วย การร้องไห้ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น เช่น ทารกเคยมีประวัติภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก หรือมีความผิดปกติของหัวใจ ซึ่งหากมีอาการร้องไห้กลั้นเกิดขึ้นบ่อย ๆ อาจทำให้มีผลเสียต่อสุขภาพได้ คุณแม่ควรรีบพาไปพบแพทย์เพื่อขอคำปรึกษา จะได้นำมาปฏิบัติอย่างถูกต้องและเหมาะสมต่อไปค่ะ
วิธีรับมือกับลูกที่ชอบร้องไห้กลั้นแบบเห็นผล
- เมื่อลูกร้องไห้กลั้นบ่อย ๆ คุณแม่ต้องควบคุมสติอารมณ์ของตนเองก่อน อย่าพึ่งคิดมาก เพราะยิ่งทำให้ลูกมีสภาวะเสี่ยงเพิ่มมากยิ่งขึ้นได้ เมื่อคุณแม่ตั้งสติได้แล้ว ก็ลองมองหาสาเหตุว่าอะไรเป็นตัวกระตุ้นให้ลูกร้องไห้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน
- กรณีทีทารกร้องไห้กลั้นบ่อย ๆ คุณแม่จะต้องอุ้มลูกมาแนบกับอก และสำรวจดูว่าลูกน้อยและบริเวณใกล้เคียงมีอะไรที่เป็นอันตรายหรือไม่ เช่น มีแมลงกัดต่อย หรือเริ่มไม่สบาย อาจจะทำให้ลูกเกิดความกลัว จนต้องร้องไห้หนัก ๆ ยิ่งคุณแม่ไม่อุ้มหรือปลอบโยนด้วยแล้ว ยิ่งทำให้อาการกลัวของลูกรุนแรงขึ้น การร้องไห้กลั้นจึงเกิดบ่อยขึ้น
- คุณแม่จะต้องให้ลูกนอนพักผ่อนอย่างเพียงพอในแต่ละวัน เพราะความเครียด อาการหงุดหงิดง่าย และสาเหตุหลักของการร้องไห้บ่อย ๆ นั้นคือ การที่ร่างกายไม่พร้อมที่จะเรียนรู้ รู้สึออ่อนเพลีย และไม่สบายเนื้อสบายตัว สิ่งเหล่านี้เป็นตัวกระตุ้นชั้นดีที่ทำให้ลูกน้อยเกิดการร้องไห้กลั้นเป็นเวลานานได้
- เบี่ยงเบนความสนใจ โดยการพอลูกออกไปเที่ยวบ้าง หรือพาออกไปรับลมด้านนอกเพื่อให้ร่างกายได้รับออกซิเจนอย่างเต็มที่ เพราะส่วนหนึ่งของการร้องไห้บ่อย ๆ อาจเกิดจากลูกรู้สึกอึดอัดเมื่ออยู่ในห้องคับแคบ การร้องไห้กลั้นอาจต้องการบอกให้คุณแม่ทราบว่า พวกเขาต้องการออกไปเดินเล่นในสวนหลังบ้านบ้างนั่นเองค่ะ
การร้องไห้ของเด็กทารกเป็นเรื่องปกติธรรมชาติ คุณแม่เพียงต้องพยายามทำความเข้าใจ และสนองตอบความต้องการของลูกให้ถูกต้อง สำหรับคุณแม่มือใหม่หลายท่านที่มีลูกคนแรก แน่นอนว่าประสบการณ์การเลี้ยงเด็กอ่อนยังน้อยอยู่ ประกอบกับการที่ต้องเลี้ยงลูกเพียงลำพังด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้คุณแม่เกิดความกังวลและความเครียดมากขึ้นค่ะ
อย่างไรก็ตาม ถึงคุณแม่จะมีประสบการณ์ไม่มาก แต่ก็สามารถทำความเข้าใจและเรียนรู้ได้ จากข้อมูลข้างต้นที่เราเอามาแนะนำนั้น น่าจะเป็นประโยชน์กับคุณแม่ไม่มากก็น้อย และเราก็หวังอย่างยิ่งว่า คุณแม่จะสามารถผ่านพ้นชีวิตในช่วงนี้ไปได้อย่างราบรื่นนะคะ ของให้มีความสุขกับลูกน้อยในทุกวันค่ะ
= = = = = = = = = = = =
ติดตามความรู้ดี ๆ และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่
https://www.facebook.com/teamkonthong/
We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about how can you grow up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or have any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook
https://www.facebook.com/teamkonthong/
บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..