ตรวจทานความถูกต้องโดย ศ.พญ.จรุงจิตร์ งามไพบูลย์
ทำอย่างไรดีเมื่อลูกมีอาการผื่นแพ้ขึ้นตามร่างกาย แต่ไม่รู้ว่าแพ้อะไรกันแน่ คุณแม่รู้ไหมว่านั่นอาจเกิดจากอาการผื่นแพ้อาหารทารก เนื่องจากการแพ้อาหารบางชนิดที่ได้รับประทานเข้าไปนั่นเอง ซึ่งอาจมีอาการได้ทั้งแบบเฉียบพลันและไม่เฉียบพลัน ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรทำความเข้าใจกับการที่เด็กแพ้อาหารว่าเกิดจากอะไร มีอาหารชนิดใดบ้างที่ทำให้แพ้ได้ง่าย และมีวิธีการดูแลรักษาอย่างไร รวมถึงวิธีสังเกตทารกแพ้อาหาร เพราะจะได้ช่วยเหลือ พาลูกไปรักษาได้ทันเวลา โดยเราก็มีข้อมูลเกี่ยวกับการแพ้อาหารในเด็กมาฝากคุณแม่กันด้วย
การแพ้อาหารในเด็ก คืออะไร
อันดับแรกเราต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่าการแพ้อาหารในเด็กนั้น คืออะไร? อธิบายง่ายๆ เลยก็คือการที่เด็กรับประทานอาหารบางชนิดแล้วเกิดอาการผิดปกติขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นผื่นแดง คัน หายใจติดขัด และอาการอื่นๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ นอกจากนี้เด็กบางคนแค่สัมผัสอาหารก็เกิดการแพ้ได้แล้ว แม้ว่าจะไม่ได้รับประทานเข้าไปก็ตาม
เด็กแพ้อาหาร ผื่นแพ้อาหารทารก เกิดจากสาเหตุอะไร
สาเหตุที่ทำให้พบอาการแพ้อาหารได้บ่อยในเด็ก ก็เพราะว่าระบบภูมิคุ้มกันที่ยังไม่แข็งแรง ประกอบกับระบบย่อยอาหารที่ยังไม่สมบูรณ์มากนัก จึงทำให้แพ้อาหารที่รับประทานเข้าไปได้ง่าย และยิ่งหากลูกไม่ได้ดื่มนมแม่ด้วยแล้วก็จะยิ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิดอาการแพ้ได้มากขึ้นไปอีก นอกจากนี้พันธุกรรมก็เป็นสาเหตุหนึ่งด้วยเช่นกัน โดยหากเด็กคนไหนที่พ่อแม่เป็นโรคภูมิแพ้ ก็จะมีโอกาสเกิดภูมิแพ้ได้สูงนั่นเอง
อาการเด็กแพ้อาหาร เป็นอย่างไร?

เมื่อพูดถึงผื่นแพ้อาหารทารก คุณแม่อาจคิดว่าจะต้องมีอาการเป็นผื่นเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลย เพราะอาการสามารถแสดงอาการออกได้หลายแบบ โดยมักจะมีอาการใน 3 ระบบหลักของร่างกายดังนี้
- ระบบผิวหนัง อาการที่แสดงได้แก่ เป็นผื่นนูนแดงและมีอาการคัน โดยอาจมีลักษณะเหมือนเป็นผื่นลมพิษ หรือเป็นผื่นเม็ดทราย บางครั้งก็เป็นตุ่มน้ำใสแล้วแตกออกมาเป็นแผลแฉะๆตามหน้า แขนขาและตามตัว
- ระบบทางเดินอาหาร อาการที่แสดงได้แก่ ปวดท้อง ท้องเสีย คลื่นไส้อาเจียน มีมูกปนเลือดออกมากับอุจจาระ
- ระบบทางเดินหายใจ อาการที่แสดงได้แก่ แน่นจมูก หายใจมีเสียงหวีดในลำคอ น้ำมูกไหล และอาจมีอาการไอจามร่วมด้วย
คุณแม่สามารถตรวจเช็กอาการของลูกน้อยได้ว่ามีความเสี่ยงเป็นภูมิแพ้หรือไม่ ด้วยการเข้ามาทำเกี่ยวกับภูมิแพ้ในเด็กเลย ซึ่งจะช่วยประเมินความเสี่ยงเบื้องต้นได้ดี ทำให้รู้เท่าทันและป้องกันได้ก่อน ส่วนในกรณีที่ลูกมีอาการก็สามารถพาลูกไปพบแพทย์และรักษาได้ทัน นอกจากนี้คุณแม่ควรรู้ด้วยว่าอาหารประเภทไหนบ้างที่เด็กมักจะเกิดการแพ้ได้ง่าย ไปดูข้อมูลกันต่อเลยไปดูข้อมูลกันต่อเลย
ประเภทอาหารที่เด็กทารกมักแพ้

โดยปกติเรามักจะได้ยินแค่ว่าเด็กทารกแพ้นมวัว แพ้ไข่ แต่รู้ไหมว่าความจริงแล้วเด็กทารกสามารถแพ้อาหารได้มากกว่านั้น ซึ่งมีอาหาร 6 ประเภทที่พบบ่อยๆ ดังนี้
- ไข่ พบบ่อยในเด็กอายุ 1 ปีแรก และส่วนใหญ่จะหายแพ้เมื่ออายุประมาณ 3-5 ปี
- นมวัว พบบ่อยในเด็กอายุ 1 ปีแรก และมักจะหายแพ้เมื่ออายุประมาณ 2-6 ปี
- ถั่วลิสงและถั่วเปลือกแข็ง พบบ่อยในเด็กอายุ 1-2 ปี ส่วนใหญ่มักจะไม่หายจากอาการแพ้
- ถั่วเหลือง พบบ่อยในเด็กอายุ 1 ปีแรก และมักจะหายแพ้เมื่ออายุประมาณ 3-6 ปี
- ข้าวสาลี พบบ่อยในเด็กอายุ 1 ปีแรก และมักจะหายแพ้ในช่วงอายุ 4-18 ปี
- อาหารทะเล พบบ่อยในเด็กขวบปีแรก จึงไม่แนะนำให้เริ่มอาหารทะเลในวัยทารก ควรเริ่มหลังอายุ 1 ปีไปแล้ว เพราะถ้ามีอาการแพ้ในวัยทารก จะต้องงดไปอย่างน้อย 1-2 ปีแล้วค่อยมาลองกินใหม่อีกครั้ง
วิธีสังเกตทารกแพ้อาหาร ที่คุณพ่อคุณแม่ต้องเฝ้าระวัง
อยากรู้ว่าเด็กแพ้อาหารหรือไม่และแพ้อาหารชนิดใด คุณแม่จะต้องสังเกตหลังจากที่ลูกรับประทานอาหารเสร็จ โดยมักจะมีผื่นขึ้นมาให้เห็นทันที หากมีอาการแพ้ ซึ่งขอแนะนำให้คุณแม่ป้อนอาหารลูกทีละอย่างในปริมาณน้อยๆ แล้วสังเกตดูก่อนว่าลูกมีอาการใดๆ หรือไม่ จากนั้นก็ให้จดบันทึกไว้ทั้งรายการอาหารและอาการผิดปกติที่พบ จะทำให้ประเมินได้ง่ายขึ้นว่าลูกแพ้อาหารชนิดใด โดยหากพบว่าลูกแพ้อะไรก็ให้หลีกเลี่ยงอย่าให้ลูกรับประทานอาหารชนิดนั้นเด็ดขาด อย่างไรก็ตามคุณแม่ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับอาการแพ้ของลูกได้ เพื่อหาแนวทางการดูแลป้องกันที่ดีที่สุด
เด็กทารกแพ้อาหารเป็นแล้วหายได้ไหม?
อย่างที่ได้บอกให้คุณแม่ได้รู้กันไปแล้วว่าการที่เด็กแพ้อาหารนั้น อาจเกิดการแพ้อาหารได้หลายชนิด ซึ่งมีระดับความรุนแรงแตกต่างกันไป ดังนั้นจะรักษาหายได้ไหมนั้นก็ขึ้นอยู่กับชนิดของอาหารที่แพ้ด้วย เช่น นมวัว และไข่ ส่วนใหญ่ก็จะหายเป็นปกติได้เองเมื่อโตขึ้น แต่ถ้าแพ้แป้งสาลีหรือถั่วลิสงละก็ โอกาสที่จะหายได้นั้นมีน้อยมาก ซึ่งมักจะแพ้ไปจนโต จึงต้องระมัดระวังในการรับประทานอาหารอยู่เสมอ โดยเด็กที่เสี่ยงภูมิแพ้ควรดื่มนมแม่เป็นหลัก เพราะมีคุณสมบัติ Hypo-Allergenic (H.A.) ที่ช่วยลดความเสี่ยงการแพ้อาหารได้ และยังมีสารอาหารที่สำคัญมากกว่า 200 ชนิด รวมถึง โปรตีนในนมแม่บางส่วน มี PHP หรือ Partially Hydrolyzed Proteins ซึ่งเป็นโปรตีนที่ถูกย่อยให้มีขนาดเล็กลงด้วยเอ็นไซม์ตามธรรมชาติในนมแม่ รวมทั้งมี จุลินทรีย์โพรไบโอติกหลายชนิด เช่น Bifidus BL ซึ่งเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและลดความเสี่ยงของการเกิดภูมิแพ้ โดยสังเกตได้จากทารกที่ได้รับนมแม่อย่างเหมาะสมจะมีการเกิดภูมิแพ้น้อยกว่า และมีภูมิคุ้มกันที่ดีกว่า
ผื่นแพ้อาหารทารก อาจเกิดขึ้นได้เสมอ เพราะเราไม่อาจรู้ได้เลยว่าลูกจะแพ้อาหารชนิดใด ดังนั้นคุณแม่ควรสังเกตลูกน้อยให้ดี ว่าลูกมีอาการผิดปกติใดบ้างหรือเปล่า โดยคุณแม่สามารถป้องกันได้ด้วยการเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งกับ
N Sensitive club เพราะที่นี่เรามีข้อมูลมากมายเกี่ยวกับการที่ทารกมีผื่นแพ้อาหาร และสามารถทำแบบทดสอบเพื่อประเมินความเสี่ยงได้อีกด้วย ซึ่ง N Sensitive Club ก็เป็นคลับที่คุณแม่ส่วนใหญ่ไว้ใจมากที่สุด
แหล่งอ้างอิง
- https://www.phyathai.com/article_detail/1990/th/ภูมิแพ้ในเด็กที่พ่อแม่_ต้องรู้_
- https://www.vejthani.com/th/2015/10/ภูมิแพ้อาหาร/
- https://www.bch.in.th/food-allergy-article/
- Dallas DC, et al. J Mammary Gland Biol Neoplasia. 2015 Dec;20(3-4):133-47.
- Dallas DC, et al. J Nutr. 2014 Jun;144(6):815-20
- Grönlund MM, et al. Clin Exp Allergy. 2007 Dec;37(12):1764-72.