6 เรื่องน่ารู้ เกี่ยวกับการทำ เด็กหลอดแก้ว การทำเด็กหลอดแก้ว เป็นเทคโนโลยีที่จะช่วยแก้ปัญหาการมีบุตรยากได้ดี ซึ่งก็จะคล้ายกับการทำกิ๊ฟท์หรือการทำซิป แต่การทำเด็กหลอดแก้วนั้น ทางการแพทย์จะเลี้ยงตัวอ่อนในหลอดแก้วทดลองก่อน จนเมื่อตัวอ่อนมีความสมบูรณ์และมีขนาดที่เหมาะสม ก็จะนำกลับเข้าสู่มดลูกเพื่อให้เกิดการตั้งครรภ์ตามปกติต่อไป อย่างไรก็ตามการทำหลอดแก้วก็จะต้องทำความเข้าใจให้มากขึ้น โดยมี 6 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการทำเด็กหลอดแก้วดังนี้
6 เรื่องน่ารู้ เกี่ยวกับการทำ เด็กหลอดแก้ว
1.ต้องจำกัดไข่ที่ใช้ในการทำเด็กหลอดแก้วหรือไม่
ในการทำเด็กหลอดแก้วจะไม่มีการจำกัดจำนวนไข่ที่ใช้ กล่าวคือไม่ว่าจะเจาะไข่มาได้เท่าไหร่ก็จะนำมาใช้ในการทำเด็กหลอดแก้วทั้งหมดนั่นเอง นั่นก็เพราะการทำเด็กหลอดแก้วมีโอกาสที่จะเกิดเป็นตัวอ่อนที่สมบูรณ์เพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์เท่านั้น จึงไม่จำกัดไข่เพื่อให้ได้ตัวอ่อนมากที่สุด แต่ทั้งนี้ตัวอ่อนที่จะนำกลับเข้าสู่ร่างกาย จะจำกัดเพียงแค่ไม่เกิน 4 ตัวอ่อนเท่านั้น โดยเลือกตัวอ่อนที่สมบูรณ์ที่สุด ส่วนตัวอ่อนที่เหลือก็จะถูกนำไปแช่แข็งเอาไว้ เพื่อใช้ในอนาคตต่อไป หากการปฏิสนธิไม่ประสบความสำเร็จนั่นเอง
2.มีอัตราความสำเร็จมากน้อยเพียงใด
สำหรับความสำเร็จในการทำเด็กหลอดแก้ว จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยด้วยกัน เช่น
- ความสมบูรณ์ แข็งแรง ของเชื้ออสุจิผู้ชาย และไข่ของผู้หญิง โดยหากพบว่าเชื้ออสุจิหรือไข่อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือทั้งคู่ไม่แข็งแรง ก็จะทำให้อัตราความสำเร็จมีน้อยมาก
- ประสิทธิภาพของห้องปฏิบัติการ รวมถึงความพร้อมของอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ที่ใช้ ซึ่งจะต้องมีมาตรฐานพอสมควร
- ความชำนาญของผู้ที่ทำการเลี้ยงตัวอ่อน เพราะการเลี้ยงตัวอ่อนจะมีขั้นตอนที่ต้องทำความเข้าใจและทำอย่างระมัดระวังเพื่อให้เกิดความผิดพลาดน้อยที่สุด หากขาดความชำนาญก็จะมีโอกาสสำเร็จต่ำได้
3.การรอดชีวิตของตัวอ่อน ที่ใส่กลับเข้าไปในร่างกาย
เมื่อใส่ตัวอ่อนกลับเข้าไปในร่างกาย ไม่ได้หมายความว่าตัวอ่อนจะรอดทุกตัวเสมอไป โดยอัตราการรอดชีวิตส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณร้อยละ 20 เท่านั้น โดยจะรู้ได้อย่างไรว่าตัวอ่อนรอดชีวิต ก็ดูได้จากการฝังตัวในมดลูกของตัวอ่อนนั่นเอง อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าตัวอ่อนจะทำการฝังตัวเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังมีโอกาสที่ส่วนหนึ่งจะแท้งออกมาได้เหมือนกัน ดังนั้นโอกาสในการรอดชีวิตของตัวอ่อนจึงมีน้อยมาก ยิ่งในคนที่มีอายุมากด้วยแล้ว คืออายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป ก็ยิ่งมีโอกาสสำเร็จต่ำมาก จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมบางคนจึงล้มเหลวในการทำเด็กหลอดแก้ว บางคนได้ลูกแฝด ซึ่งหากล้มเหลวก็จะต้องทำใหม่ โดยเอาตัวอ่อนที่ฟรีสแข็งไว้มาใส่เข้าไปใหม่อีกครั้ง จนกว่าจะสำเร็จ
4.การทำเด็กหลอดแก้ว เหมาะกับใคร
การทำเด็กหลอดแก้ว เหมาะกับผู้ที่มีบุตรยาก เนื่องจากสาเหตุดังต่อไปนี้
- ผู้หญิงมีปัญหาท่อนำไข่อุดตัน จึงทำให้ไข่และตัวอสุจิไม่สามารถปฏิสนธิกันได้ รวมถึงผู้ที่ท่อนำไข่ถูกทำลายด้วย
- กรณีที่มีบุตรยากเพราะฝ่ายชายมีตัวอสุจิที่ไม่แข็งแรงหรือน้อยเกินไป รวมถึงปัญหาอื่นๆ เกี่ยวกับเชื้ออสุจิ ทำให้ไม่สามารถมีลูกตามปกติได้
- ผู้ที่พยายามมีบุตรมากว่า 3 ปี และไม่สามารถหาสาเหตุได้ว่าเพราะอะไรจึงทำให้มีบุตรยาก
- ผู้ที่เคยแก้ปัญหาการมีบุตรยากด้วยการกระตุ้นการตกไข่และผสมเทียมด้วยการฉีดอสุจิเข้าสู่โพรงมดลูกมาแล้ว แต่ก็ไม่สำเร็จ จึงต้องการลองทำวิธีทำเด็กหลอดแก้วดู
- คู่สมรสที่อยากมีบุตร แต่ไม่สามารถมีได้ จึงจำเป็นต้องใช้ไข่ที่ได้รับการบริจาคจากผู้อื่น
5.อุปสรรคทีมักจะพบบ่อยๆ
สำหรับอุปสรรคในการทำเด็กหลอดแก้ว ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องความพร้อมทางด้านร่างกายของคู่สามี-ภรรยา และความพร้อมทางด้านการเงิน เพราะมีค่าใช้จ่ายในการทำเด็กหลอดแก้วสูงมาก โดยพบว่าหากผู้หญิงมีร่างกายไม่แข็งแรงหรือมีเนื้องอก ก็จะทำให้ตัวอ่อนไม่สามารถฝังตัวในมดลูกได้ หรือหากผ่านขั้นตอนการตั้งครรภ์ไป ก็มีโอกาสแท้งได้สูงเช่นกัน หรือในกรณีที่ตัวอสุจิของฝ่ายชายไม่สมบูรณ์ ก็จะทำให้เกิดความล้มเหลวในการปฏิสนธิได้นั่นเอง
6.การปฏิบัติตัว หลังนำตัวอ่อนกลับเข้าสู่ร่างกาย
หลังจากนำตัวอ่อนกลับเข้าสู่ร่างกายแล้ว เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนและให้การปฏิสนธิเป็นไปอย่างสมบูรณ์ที่สุด โดยหลังจากกลับบ้านแล้ว แพทย์จะให้นอนพักอีกประมาณ 12-24 ชั่วโมง และห้ามทำงานหนักใดๆ ทั้งสิ้น รวมถึงห้ามมีเพศสัมพันธ์ในช่วงนี้ด้วย ที่สำคัญไม่ควรทานยานอกเหนือจากที่แพทย์สั่งเด็ดขาด เพราะยาบางชนิดอาจมีผลทำให้ตัวอ่อนแท้งออกมาได้ นอกจากนี้ควรเน้นการทานอาหารที่มีประโยชน์เป็นหลัก และทำจิตใจให้สบายเพื่อให้ห่างไกลจากความเครียดนั่นเอง
การทำเด็กหลอดแก้ว เป็นอีกหนึ่งวิธีในการแก้ปัญหามีบุตรยากที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก แต่ก็มีค่าใช้จ่ายสูงและมีโอกาสที่จะเกิดความสำเร็จและล้มเหลวได้เหมือนกับวิธีอื่นๆ เช่นกัน ดังนั้นก่อนจะทำเด็กหลอดแก้ว ก็ควรศึกษาและทำความเข้าใจให้ดีก่อน
= = = = = = = = = = = =
ติดตามความรู้ดี ๆ และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่
https://www.facebook.com/teamkonthong/
We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about how can you grow up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or have any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook
https://www.facebook.com/teamkonthong/
บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..
1.ปอดอักเสบ เกิดจากอะไร? แม่ท้องเป็นโรคนี้จะส่งผลต่อลูกในครรภ์ไหม