ผลกระทบจากการผ่าคลอด … ในยุคสมัยที่เทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาในวงการแพทย์บ้านเรา โดยเฉพาะในเรื่องของการผ่าคลอดที่ถูกพัฒนาให้มีความปลอดภัย และสะดวกมากขึ้น

ผลกระทบจากการผ่าคลอด ควรทราบก่อนตัดสินใจ

สามารถช่วยเหลือคุณแม่ที่มีปัญหาต่าง ๆ ในระหว่างการคลอดทำให้การผ่าคลอดเป็นที่นิยมมากขึ้นสำหรับคุณแม่ยุคใหม่ และเป็นที่ต้องการของคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ เนื่องจากหลาย ๆ สาเหตุที่ทำให้การผ่าคลอดเป็นที่นิยมกันมากขึ้น และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

แต่คุณแม่รู้หรือไม่ว่า การผ่าคลอดนั้นมีผลกระทบอย่างต่อสุขภาพของคุณแม่และตัวทารกบ้าง เราเชื่อว่าคุณแม่หลาย ๆ ท่านอาจจะยังไม่ทราบในเรื่องนี้ ดังนั้นวันนี้เราจะขอนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบจากการผ่าคลอด ที่คุณแม่มือใหม่ทุกคนควรทราบ ก่อนตัดสินใจ ลองมาดูรายละเอียดไปพร้อมกันเลยค่ะ

ทำไมถึงต้องผ่าคลอด

คนเป็นแม่สมัยก่อนเลือกที่จะคลอดเองตามธรรมชาติ เนื่องจากมีข้อดีมากมาย แต่ก็มีคุณแม่หลาย ๆ ท่านที่พบกับปัญหาบางอย่างที่ไม่สามารถเลือกคลอดได้เองตามธรรมชาติ และทางเลือกที่เสี่ยงที่สุดในตอนนั้นก็คือ “การผ่าคลอด” นั่นเอง แต่ในยุคสมัยใหม่ที่อะไร ๆ ก็เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงการผ่าคลอดก็เช่นกัน ได้ถูกพัฒนาให้มีความปลอดภัย และรวดเร็วขึ้น จนในที่สุดก็กลายเป็นที่นิยมของคุณแม่ยุคนี้ไปโดยสิ้นเชิง แต่วัตถุประสงค์ที่แท้จริงของการผ่าคลอดนั้น เนื่องจากสาเหตุเหล่านี้ค่ะ

  1. การผ่าคลอดเนื่องจากทารกมีขนาดใหญ่มากกว่าปกติ เมื่อเทียบกับกระดูกเชิงกรานของคุณแม่แล้ว เพราะถ้าคลอดเองโดยธรรมชาติ อาจจะเกิดการติดขัดมาก มีความเสี่ยงสูงต่อการเสียชีวิตของทารกในครรภ์และมีความเสี่ยงต่อสุขภาพของคุณแม่ด้วย ดังนั้นคุณหมอจึงเลือกวิธีการผ่าคลอดเพื่อรักษาชีวิตของทารกและคุณแม่ไว้ให้ปลอดภัยที่สุด
  2. ก่อนคลอดท่าของทารกไม่อยู่ในลักษณะที่เหมาะสม เช่น ทารกไม่เอาศีรษะลง ทารกนอนขวางท้อง และศีรษะมาพร้อมกับแขนขา อย่างนี้ถือเป็นลักษณะที่ผิดปกติของทารกก่อนคลอด และมีความเสี่ยงต่อการคลอดยาก ทำให้คุณหมอต้องเลือกวิธีการผ่าคลอดนั่นเอง
  3. พบความผิดปกติระหว่างรอคลอด เช่น คุณแม่เกิดอาการปวดท้องคลอดอยู่เป็นเวลานาน แต่ไม่ยอมคลอดเสียที หรือในขณะที่รอคลอดพบว่า อัตราการเต้นของหัวใจลดลง เสี่ยงต่อการขาดอากาศหายใจทำให้เกิดการเสียชีวิตตามมา ความผิดปกติในลักษณะนี้ คุณหมอจึงพิจารณาเลือกวิธีการผ่าคลอดค่ะ
  4. คุณแม่มีอายุมากเกินไป หรือมีอายุมากว่า 35 ปี ประกอบกับมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ ร่างกายไม่แข็งแรงสมบูรณ์ อาจทำให้คุณแม่มีแรงในการคลอดลูกตามธรรมชาติ ซึ่งส่งผลให้เกิดความเสี่ยงในระหว่างคลอด คุณหมอก็จะเลือกวิธีการผ่าคลอดเพื่อความปลอดภัย
  5. คุณแม่ที่มีภาวะอาการแทรกซ้อน หรือมีโรคอื่น ๆ ไปพร้อมกับการตั้งครรภ์ ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงสูงระหว่างคลอด เช่น คุณแม่เป็นความดันโลหิตสูงชนิดที่รุนแรงมาก มีภาวะครรภ์เป็นพิษ อย่างนี้จึงไม่สมควรที่จะคลอดเองตามธรรมชาติ คุณหมอจะเลือกวิธีการผ่าคลอดเพื่อความปลอดภัยในการคลอด
  6. คุณแม่เกิดการติดเชื้อ หรือเป็นโรคเริมที่อวัยวะเพศ ซึ่งสามารถติดต่อมายังทารกได้ การผ่าคลอดจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพื่อป้องกันทารกที่มีภูมิคุ้มกันต่ำติดเชื้อ

จากสาเหตุที่เรากล่าวมานั้น ล้วนแต่ต้องเลือกวิธีการผ่าคลอดเพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพของคุณแม่และทารก แต่สำหรับคุณแม่ที่มีภาวะร่างกายเป็นปกติดีอยู่ ไม่ต้องการคลอดเองตามธรรมชาติ แล้วตัดสินใจเลือกที่จะคลอดโดยวิธีการผ่าคลอดนี้ อาจจะต้องคิดทบทวนอีกสักรอบนะคะ เพราะนั่นอาจจะทำให้คุณคิดผิดก็ได้ แต่สำหรับคุณแม่ที่มีร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ต้องการผ่าคลอด จะมีผลกระทบอย่างไรบ้าง มาดูต่อกันค่ะ

ผลกระทบของการผ่าคลอดที่ส่งผลต่อสุขภาพของคุณแม่

  • การผ่าคลอดจะต้องใช้ยาสลบ หรือยาระงับความรู้สึก ซึ่งคุณแม่ทราบหรือไม่ว่า ผลข้างเคียงของยาสลบนี้อาจทำให้เกิดความผิดปกติของกระบวนการทำงานภายในร่างกายได้ เช่น ปอดเกิดการอับเสบจากการสำลักน้ำ หรืออาหารเจ้าไปขณะดมยา ความดันโลหิตต่ำ และกดการหายใจ
  • คุณแม่บางท่านอาจจะเกิดอาการตกเลือด ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ในขณะทำการผ่าตัดและหลักการผ่าตัดได้ เนื่องจากสภาพร่างกายของคุณแม่แต่ละคนไม่เหมือนกัน อาจทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการตกเลือดระหว่างหรือหลังคลอดได้
  • คุณแม่ท้องแรกอาจมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อหลังผ่าคลอดได้ เช่น การติดเชื้อที่มดลูก การติดเชื้อที่แผลผ่าตัด และเกิดการติดเชื้อที่ระบบทางเดินปัสสาวะ เป็นต้น
  • ส่งผลต่อลำไส้ อาจเกิดความระคายเคืองต่อลำไส้ขณะทำการผ่าคลอด ส่งผลให้ลำไส้หยุดการทำงาน หรือผลจากยาสลบ ทำให้ลำไส้เคลื่อนไหวลดลง ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบบ่อยมาในระหว่างการผ่าคลอด

การผ่าคลอดนอกจากมีผลต่อสุขภาพของคุณแม่โดยตรงแล้ว ยังมีผลต่อสุขภาพของทารกด้วยเช่นกันค่ะ คุณแม่ลองอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมดังนี้

Sponsored

ผลกระทบของการผ่าคลอดที่ส่งผลต่อสุขภาพของทารก

  • ทารกเสี่ยงต่อการพิการได้ เนื่องจากการผ่าคลอดนั้นคุณหมอจะต้องใช้มีดกรีดบริเวณผนังมดลูก มีดนั้นอาจพลาดไปโดยอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งของทารกได้ เช่น แขน หรือขา
  • ทารกมีภาวะหายใจเร็วในช่วงระยะแรกหลังคลอด เนื่องจากทรวงอกของทารกที่ผ่าคลอดไม่ได้บีดรัดโดยช่องคลอด ทำให้น้ำถูกกำจัดออกมาจากปอดช้า ส่งผลให้เกิดการหายใจที่เร็วขึ้นหลังคลอด
  • เสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด เนื่องจากการผ่าคลอดไม่สามารถกำหนดเวลาคลอดจริง ๆ ได้ และอาจจะทำให้ร่างกายของทารกยังไม่พร้อมที่จะออกมาสู่โลกภายนอก หรือร่างกายยังเจริญเติบโตไม่เต็มที ส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว ซึ่งปัญหาด้านสุขภาพที่พบบ่อย คือ ทารกมีภาวะตัวเหลือง เพราะการทำงานของตับไม่สมบูรณ์ และมีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เป็นต้น
  • ทารกอาจพลาดโอกาสดี ๆ ในการดื่มน้ำนมเหลืองที่อุดมไปด้วยสารอาหารและภูมิคุ้มกันชั้นยอด เนื่องจากน้ำนมเหลืองจะมีเฉพาะ 24 ชั่วโมงหลังคลอดเท่านั้น คุณแม่มีรับการผ่าคลอดจะยังไม่สามารถให้ลูกดูดนมได้ทันที เพราะมีอาการเจ็บแผล หรือยังไม่หมดฤทธิ์ยาสลบ ซึ่งผิดกับคุณแม่ที่คลอดโดยธรรมชาติที่สามารถให้ลูกดูดนมแม่ได้ทันทีหลังคลอด ข้อดีของการดูดนมทันทีคือคุณแม่จะฟื้นตัวเร็วกว่านั่นเองค่ะ

เมื่อทราบถึบเหตุผลและผลกระทบของการผ่าคลอดแล้ว คงจะทำให้คุณแม่หลายท่านทราบแล้วว่า จะเลือกวิธีการคลอดแบบใดดี แต่สำหรับคุณแม่ที่มีความผิดปกติ จนต้องได้รับการผ่าคลอดก็ไม่ต้องกังวลไปนะคะ การผ่าคลอดในยุคสมัยนี้มีความปลอดภัยสูง และมีเทคโนโลยีทันสมัยเข้ามาช่วย แต่ถ้าไม่สบายใจแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและขอคำแนะนำในการปฏิบัติตัวหลังผ่าคลอดอย่างถูกต้องและเหมะสมค่ะ

= = = = = = = = = = = =

ติดตามความรู้ดี ๆ  และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่
https://www.facebook.com/teamkonthong/

We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about how can you grow up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or have any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook

https://www.facebook.com/teamkonthong/

บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..

1.ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอ ในเด็ก ร้ายแรงมากแค่ไหน

2.8 วิธีการดูแลลูกน้อย เมื่อมีอาการป่วยเป็นไข้หวัด