เมื่อแพทย์ระบุว่าลูกติด เชื้อไวรัส hMPV อาจทำให้เกิดข้อสงสัย ด้วยชื่อที่ไม่ค่อยคุ้นหู แต่จริง ๆ แล้ว ไวรัส hMPV นั้นไม่ใช่ไวรัสชนิดใหม่แต่อย่างใด ดังนั้นวันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับไวรัสชนิดนี้กัน ว่าคืออะไร ทำไมจึงทำให้ลูกน้อยป่วยบ่อย

เชื้อไวรัส hMPV คืออะไร

เชื้อไวรัส hMPV หรือ Human Metapneumovirus (ฮิวแมนเมตานิวโมไวรัส) คือไวรัสชนิดหนึ่งที่ทำให้เกิดการติดเชื้อที่ระบบทางเดินหายใจ ซึ่งสามารถตรวจพบด้วยวิธี swab โดยการป้ายเชื้อแล้วนำไปเพาะตรวจในห้องปฏิบัติการ เช่นเดียวกับการตรวจหาเชื้อไข้หวัดใหญ่และเชื้อ RSV ส่วนฤดูกาลระบาดในประเทศไทยของเชื้อโรคนี้ คือช่วงฤดูฝน ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ถึง กันยายน และฤดูหนาว ตั้งแต่เดือนธันวาคม ถึง มีนาคม

อาการของผู้ที่ติดไวรัส hMPV

เมื่อผู้ป่วยได้รับ เชื้อไวรัส hMPV แล้วมักจะมีอาการใกล้เคียงกับผู้ป่วยที่ติดเชื้อ RSV โดยจะมีอาการดังนี้ คือ มีไข้ ไอ น้ำมูกไหล ที่ไม่รุนแรง จนถึงขั้นรุนแรง ทำให้เป็น ปอดอักเสบ และหลอดลมอักเสบชนิด Bronchiolitis ได้ ส่วนกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสติดเชื้อไวรัส hMPVได้ง่าย ได้แก่ เด็กเล็กอายุ 1-5 ปี ซึ่งมีภูมิต้านทานต่ำกว่าเด็กโต นอกจากนี้ผู้ใหญ่ที่พักผ่อนน้อย ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเอดส์ โรคปอด โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง โรคมะเร็ง ก็สามารถรับเชื้อได้ง่ายและอาจมีอาการทางระบบทางเดินหายใจที่รุนแรงได้เช่นกัน

การติดเชื้อร่วมกับไวรัสอื่น ๆ

นอกจากผู้ป่วยจะติดเชื้อ hMPV แล้ว ยังพบว่าการป่วยในแต่ละครั้งนั้น อาจพบเชื้อที่ทางเดินหายใจชนิดอื่น ๆ ร่วมด้วยอีกได้ เช่น เด็กที่ป่วยเป็นโรคหลอดลมอักเสบชนิด Bronchiolitis เมื่อแพทย์ทำการตรวจจะพบว่ามีการติดเชื้อโรคมากกว่า 2 ชนิดขึ้นไป จึงทำให้การรักษาโรคต้องใช้เวลายาวนานขึ้น เพราะผู้ป่วยมักมีอาการรุนแรง นอกจากนี้ยังมีผลการวิจัยออกมายืนยันว่า เด็กทารกที่มีหลอดลมฝอยอักเสบจากการติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ เมื่อมีอายุ 3-5 ปีจะมีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคหืดได้เพิ่มขึ้นด้วย ดังนั้นการป้องกันการเกิดโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจจึงเป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็กเล็ก เป็นต้น

การรักษาผู้ป่วย

การรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัส hMPV คือการรักษาตามอาการป่วย เช่น ยาแก้ไข้ ยาแก้ไอ ยาลดน้ำมูก และพ่นยา ซึ่งคล้ายกับการรักษาผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ เพราะในปัจจุบันยังไม่มียาฆ่าเชื้อหรือยาต้านไวรัสตัวนี้ และโดยทั่วไปแล้วผู้ป่วยที่มีอาการไม่มากก็มักจะมีอาการที่ดีขึ้นภายใน 5-7 วัน ส่วนในรายที่มีอาการรุนแรง เช่น ปอดบวม หอบ หัวใจล้มเหลว ควรต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ ซึ่งต้องพ่นยา เคาะปอด และให้ออกซิเจนเพื่อช่วยในการหายใจ และต้องอยู่ในห้องไอซียูจนกว่าอาการจะดีขึ้น

การป้องกันไวรัส hMPV

ในปัจจุบัน ยังไม่มีวัคซีนป้องกันไวรัส hMPV และแม้ว่าเชื้อ hMPV จะถูกค้นพบมานานแล้ว แต่อาการที่แสดงว่าติดเชื้อนั้นคล้ายกับการเป็นไข้หวัดหรือโรคทางเดินหายใจอื่น ๆ และสามารถหายได้เอง จึงทำให้ผู้ป่วยไม่ทราบว่าเคยติดเชื้อโรคนี้ นอกจากต้องรอผลวิเคราะห์จากห้องปฏิบัติการเท่านั้น ดังนั้นจึงควรหมั่นดูแลสุขภาพ โดยยึดหลักการป้องกันเช่นเดียวกับการป้องกันการเป็นไข้หวัดดังต่อไปนี้

1.กินร้อน

หลักสุขภาพดีข้อแรก เพื่อป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย คือการทานอาหารที่ปรุงสุกร้อนๆ เพราะการตั้งอาหารทิ้งไว้จะเป็นการเพิ่มปริมาณให้กับเชื้อโรค ซึ่งเมื่อทานไปแล้วอาจทำให้เกิดการติดเชื้อโรคต่างๆ ทั้งเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย นอกจากนี้ถ้าทานอาหารไม่หมดควรนำเข้าตู้เย็นภายใน 3 ชั่วโมง และควรนำมาอุ่นให้ร้อนก่อนทานทุกครั้ง

2.ช้อนกลาง

การทานอาหารร่วมกัน โดยการใช้ช้อนกลาง จะช่วยป้องกันการติดเชื้อ เช่น ไวรัสตับอักเสบเอและบี ไข้หวัด และไวรัส hMPV ได้ ซึ่งแม้ว่าจะเป็นการทานอาหารกันเองภายในครอบครัว ก็ควรฝึกลูกให้ใช้ช้อนกลางจนเป็นนิสัย

3.ล้างมือบ่อยๆ

โดยทั่วไปแล้วไม่ควรเอามือเข้าปาก หรือล้วงแคะแกะเกาจมูก โดยเฉพาะถ้ามีอาการป่วย ซึ่งถ้าจำเป็นจริงๆควรล้างมือให้สะอาด โดยเฉพาะในเด็กเล็กที่มักเผลอเอามือเข้าปากเป็นประจำ คุณพ่อและคุณแม่ควรกำชับให้ลูกล้างมือบ่อยๆ และสอนให้ลูกล้างมือให้ถูกวิธี เพราะเด็กมีภูมิต้านทานโรคน้อย จึงทำให้ติดเชื้อโรคได้ง่าย

4.หลีกเลี่ยงแหล่งชุมชน

Sponsored

การพาเด็กๆ ไปที่ที่มีคนมากมาย เช่น แหล่งชุมชน ห้างสรรพสินค้า ย่อมมีโอกาสเสี่ยงที่จะติดเชื้อโรคได้ง่าย ยิ่งเป็นเด็กทารก หรือเด็กเล็กๆ แล้ว ถ้าไม่มีความจำเป็นก็ควรจะหลีกเลี่ยง โดยการพาไปสถานที่เปิดโล่งแจ้ง มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก เช่น สวนสาธารณะ หรือสถานที่ธรรมชาติต่างๆ ก็น่าจะดีกว่า

5.ใส่หน้ากากอนามัย

ในกรณีที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงที่จะพาลูกไปอยู่ในที่แออัด หรือมีผู้คนพลุกพล่าน เช่น ต้องพาลูกไปโรงพยาบาล คุณแม่ควรใส่หน้ากากอนามัยให้กับลูก เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้อย่างง่ายดาย

6.ไม่คลุกคลีกับคนป่วย

เมื่อพบว่ามีคนป่วย อย่างแรกเลย คือหลีกเลี่ยงที่จะอยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วย หรือควรจะหาหน้ากากมาใส่เพื่อระวังสารคัดหลั่งของผู้ป่วยมาสู่ตัวลูก และไม่ควรไปสัมผัสตัวผู้ป่วย และควรล้างมือหากมีการโดนตัวผู้ป่วยด้วย

สรุป

เชื้อไวรัส hMPV นั้นจริงๆ ไม่ได้ก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อชีวิต เพียงแค่คุณแม่ดูแลสุขภาพของลูกน้อยให้ดี และเมื่อเกิดเจ็บป่วยขึ้นมา ก็รีบพาลูกไปพบแพทย์ เพื่อทำการรักษาก่อนที่จะมีอาการรุนแรง ก็จะช่วยให้ลูกน้อยหายจากอาการป่วยเร็วขึ้น

= = = = = = = = = = = =

ติดตามความรู้ดี ๆ  และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่
https://www.facebook.com/teamkonthong/

We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about how can you grow up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or have any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook

https://www.facebook.com/teamkonthong/

บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..

1.หัดกุหลาบ โรคนี้เป็นอย่างไร อันตรายต่อลูกน้อยมากแค่ไหน

2.โรคภูมิแพ้ตัวเอง คุณแม่รู้ไหม ลูกน้อยก็อาจเป็นได้