มะเร็งปากมดลูก Q : ดิฉันสงสัยค่ะแล้วก็อยากทราบว่า ลูกสาวของดิฉันอายุ 11 ปี สามารถฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้จริงหรือเปล่าคะ อยากทราบข้อมูลเรื่องนี้ค่ะ
มะเร็งปากมดลูก
A: จริงค่ะ มะเร็งปากมดลูก หรือ มะเร็งที่เกิดขึ้นจากความผิดปกติของเซลล์บริเวณปากมดลูก ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาทันเวลา ก็จะลุกลามไปยังอวัยวะใกล้เคียง เช่น กระเพาะปัสสาวะ ท่อไต ลำไส้ เป็นต้น จนยากต่อการรักษา จนกระทั่งเกิดการเสียชีวิต
จากรายงานในประเทศไทยที่พบ คือ มะเร็งเต้านมทำให้ผู้หญิงเสียชีวิตอันดับที่หนึ่ง และมะเร็งปากมดลูกเป็นอันดับที่สอง ถือว่าน่ากลัวอีกหนึ่งโรคสำหรับผู้หญิง ตลอดจนพบว่ามีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นประมาณปีละ 10,000 คน หากเทียบเป็นวันจะพบว่ามีผู้หญิงที่เป็นมะเร็งปากมดลูกเสียชีวิตถึงวันละ 14 คน นับเป็นข้อมูลที่น่ากลัวเพิ่มขึ้นไปอีก ผู้หญิงทุกคนจึงควรรู้ว่านี่คือ เรื่องอันตรายที่เราสามารถดูแลป้องกันแต่เนิ่น ๆ ได้
โดยสาเหตุการเกิดโรคนี้ไม่ใช่เพราะกรรมพันธุ์ แต่เกือบทั้งหมดเกิดจากการติดเชื้อฮิวแมนแพ็ปพิลโลมา หรือ เชื้อ HPV ที่ก่อให้เกิดมะเร็งบริเวณปากมดลูก โดยแบ่งเชื้อ HPV ออกเป็น 2 ชนิด คือ HPV ชนิดมะเร็ง มี 14 สายพันธุ์ เป็นสาเหตุหลักของมะเร็งปากมดลูกกับ HPV ชนิดที่ไม่ก่อให้เกิดมะเร็ง แต่เป็นหูดหงอนไก่บริเวณอวัยวะเพศ
การติดเชื้อ HPV ติดต่อจากเพศสัมพันธ์เป็นหลัก ซึ่งหลังจากติดเชื้อนี้แล้วจะมีการเปลี่ยนแปลงเป็นเซลล์มะเร็งใน 10-15 ปี และที่น่ากลัวมาก ๆ นั่นคือ มักไม่แสดงอาการใด ๆ ในช่วงแรกให้เห็น ซึ่งเมื่อเซลล์มะเร็งลุกลามแล้ว จะพบอาการผิดปกติ เช่น มีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ ตกขาวผิดปกติ เท่านั้นเอง
ดังนั้นการป้องกันเรื่องเพศสัมพันธ์ การสวมถุงยางอนามัยเป็นอีกทางหนึ่งที่ดี การตรวจสุขภาพร่างกายทุกปี รวมถึงการฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อ HPV และยังมีการพบข้อมูลอีกว่าร้อยละ 50-80 ของผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์ มีโอกาสต่อการติดเชื้อ HPV อย่างน้อย 1 ครั้งในชีวิต จึงสรุปได้ว่าผู้หญิงทุกคนที่มีเพศสัมพันธ์ มีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปากมดลูก
และคำตอบที่ว่าลูกสาวอายุ 11 ปี สามารถฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้แล้วจริงหรือไม่ ตอบว่า จริงค่ะ นั่นเพราะวัคซีน HPV สามารถให้ได้ในผู้หญิงอายุตั้งแต่ 9-26 ปี แต่ก็มีข้อแนะนำเพิ่มเติมว่าควรวัคซีนตัวนี้ในเด็กที่อายุ 11-12 ปี ขึ้นไป และคำถามที่ว่าทำไมเด็กผู้หญิงควรได้รับการฉีดวัคซีนตัวนี้ นั่นก็เพราะธรรมชาติของโรคนี้จะใช้เวลาในการเกิดโรคนานกว่า 10-15 ปีหลังการได้รับเชื้อ ดังนั้นการฉีดวัคซีนตัวนี้ในวัยก่อนได้รับเชื้อคือ ก่อนวัยรุ่น จะทำให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งมีรายงานพบว่าการฉีดวัคซีนจะสร้างภูมิต้านทานโรคและป้องกันได้นานถึง 5-9 ปี ส่วนในผู้หญิงที่อายุ 26 ปี ขึ้นไป ที่ต้องการฉีดวัคซีนตัวนี้ ควรปรึกษาแพทย์
ทั้งนี้ในการฉีดวัคซีน HPV จะพบอาการข้างเคียงเล็กน้อย เช่น แดง บวม ปวด แต่อย่างไรอาการจะหายได้เองภายใน 3 วันเท่านั้น จึงสรุปได้ว่าในวัยเด็กที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกัน จะทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพราะสามารถกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อการติดเชื้อ HPV ได้
การใส่ใจสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ และเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ สำหรับคุณแม่ สำหรับผู้หญิงทุกคน เพราะอย่างที่ข้อมูลบอกไว้ ผู้หญิงทุกคนมีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งปากมดลูก ซึ่งหากเรารู้จัก รู้ทัน ป้องกันมะเร็งปากมดลูกแต่เนิ่น ๆ อนาคตย่อมไม่เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคนั่นเอง
= = = = = = = = = = =
ติดตามความรู้ดี ๆ และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่
https://www.facebook.com/teamkonthong/
We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about how can you grow up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or have any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook
https://www.facebook.com/teamkonthong/
บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..
1.เสื้อผ้าเด็กแรกเกิด ควรเลือกแบบสายผูก หรือแบบกระดุมดีกว่ากัน