คุณแม่ที่มีลูกน้อยจำเป็นต้องกินนมผง ควรศึกษาวิธีชงนมเด็กอย่างถูกต้อง เพื่อลูกน้อยมีสุขภาพที่ดี ได้รับสารอาหารครบถ้วน และป้องกันการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร ซึ่งอาจปนเปื้อนมากับนม และภาชนะที่ใช้ในการชงนมให้ลูกได้ สำหรับวิธีการชงนมที่ถูกต้องควรทำแบบไหน ในบทความนี้มีให้อ่านกันค่ะ
วิธีชงนมเด็ก ที่ถูกต้องทำอย่างไร
การชงนมเด็กใช่ว่าจะมีเพียงการนำน้ำใส่ขวด ตักนมผงใส่แล้วแกว่งเบาๆ เหมือนที่เคยทำกันมา แต่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ควรระมัดระวัง กลับมีผลต่อสุขภาพที่ดีของลูกน้อยเป็นอย่างมาก ซึ่งวิธีชงนมเด็กแบบไหน ที่คุณแม่ควรนำมาปฎิฏิบัติ มาดูกันต่อเลย
1.ล้างมือให้สะอาด
วิธีชงนมเด็ก อันดับแรกเลยคือการล้างมือฟอกสบู่ให้สะอาดทุกครั้ง ก่อนหยิบจับสัมผัสอุปกรณ์ ของใช้ในการชงนมให้ลูกน้อย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะสุขภาพลูกน้อยยังไม่แข็งแรงพอ ที่จะต่อต้านเชื้อโรคชนิดต่างๆ ที่อาจแฝงอยู่ตามนิ้วมือของผู้ที่ทำการชงนมได้ ดังนั้นการล้างมือให้สะอาด แล้วชงนม จึงช่วยป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายของลูกได้ดีที่สุด
2.อุปกรณ์ที่ใช้ชงนม จะต้องผ่านการฆ่าเชื้อด้วยความร้อนทุกครั้ง
การทำความสะอาดขวดนมและอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงนึ่งฆ่าเชื้อด้วยความร้อนที่เหมาะสม ก่อนนำมาชงนมให้ลูกจะช่วยป้องกันการติดเชื้อได้ดี
3.อ่านขั้นตอนการชงนมข้างกระป๋องนมทุกครั้ง
วิธีชงนมเด็ก คุณแม่หรือผู้ดูแลเด็ก จะต้องทำความเข้าใจถึงการชงนมให้ถูกต้อง จะได้ไม่พลาดวิธีชงนมที่ถูกต้อง ว่าควรจะต้องระมัดระวัง ทั้งอัตราของน้ำและนมผง ต้องตวงอย่างถูกสัดส่วนตามช้อนที่ให้มากับนม หากใส่น้ำมากไป จะทำให้ลูกได้รับสารอาหารไม่พอเพียง ส่วนการใส่น้ำน้อยเกินไป ก็อาจจะทำให้ลูกน้อยมีระบบการย่อยอาหารไม่ดี ไตทำงานหนัก นอกจากนี้ยังทำให้ร่างกายของลูกเกิดภาวะขาดน้ำได้อีกด้วย
4.ใช้น้ำต้มสุกที่วางไว้จนอุ่นแล้ว
น้ำที่ใช้ชงนม ควรต้มให้เดือด หลังจากนั้นนำมาวางให้เย็นตัวลงโดยเทใส่ในภาชนะทนร้อน เช่น ขวดแก้ว จากนั้นรอให้มีอุณหภูมิเย็นลง แล้วนำมาเทน้ำใส่ขวดนมให้ได้ปริมาณตามต้องการ แล้วจึงตักนมผงในปริมาณที่ระบุตามสลากข้างกระป๋อง ชงนมให้ลูกกินได้ สำหรับน้ำที่จะนำมาให้ใช้น้ำดื่มที่สะอาดมาต้ม จะเป็นน้ำกรอง หรือน้ำบรรจุขวดก็ได้ ข้อควรระวังห้ามใช้น้ำบรรจุขวดที่ไม่ได้ผ่านการต้มมาใช้ชงนมให้ลูกโดยเด็ดขาด เพราะลูกน้อยยังมีภูมิต้านทานต่ำเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ รวมถึงระบบทางเดินอาหาร และโรคอื่นๆ ได้
5.ปิดฝาขวดให้สนิท
ควรใส่จุกนมกับฝาเกลียวของขวดนมตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมขวด หลังจากชงนมแล้วงดใช้มือไปจับบริเวณจุกยาง เพื่อเลี่ยงการสัมผัสจุกนมโดยตรง ซึ่งอาจทำให้เชื้อโรคปนเปื้อนได้ หลังจากนั้นให้แกว่งขวดเบาๆ โดยใช้ข้อมือหมุนวนเป็นวง เพื่อให้นมผงละลาย ช่วยป้องกันการเกิดฟองอากาศในนม ซึ่งเมื่อลูกน้อยดูดกลืนลงกระเพาะ ทั้งที่มีฟองอากาศจะทำให้ลูกน้อยปวดท้องได้ หากบังเอิญเขย่าแล้วนมมีฟอง ให้วางทิ้งไว้สักครู่ เมื่อฟองยุบแล้วจึงค่อยนำมาป้อนลูก
6.หยดน้ำนมลงบนหลังมือ
เพื่อทำการทดสอบว่านมไม่ร้อนจนเกินไป ซึ่งอาจทำให้ลวกปากลูกจนเป็นแผลได้ อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับป้อนลูกเมื่อทำการทดสอบ จะรู้สึกอุ่นสบาย
เรื่องน่ารู้กับการชงนมลูก ที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม
ได้รู้วิธีชงนมเด็กที่ถูกต้องแล้ว ก็มีอีกหนึ่งเรื่องที่ควรรู้ โดบในวัยทารก ลูกน้อยยังมีกระเพาะอาหารที่เล็กมาก การชงนมในปริมาณที่มากเกินไปอาจทำให้ลูกดื่มไม่หมด จึงทำให้น้ำนมมีเหลือในขวด คุณแม่ควรทำอย่างไร
1.สำหรับนมที่ชงมาป้อนลูกแล้ว ลูกน้อยกินไม่หมด นมจะบูดเสียได้ง่าย ควรให้ลูกกินให้หมดภายใน 1 ชั่วโมง แต่หากลูกไม่กินก็ต้องทิ้งไปเลย ห้ามเก็บไว้
2.ส่วนนมที่ชงแล้ว แต่ยังไม่ได้กินให้นำไปแช่เย็น โดยปิดฝาขวดให้สนิท และแช่ตู้เย็นช่องธรรมดาในอุณหภูมิ 2-4 องศาเซลเซียส เก็บได้ไม่เกิน 24 ชั่วโมง หากไม่ได้แช่ตู้เย็นสามารถให้ลูกน้อยกินได้ภายในเวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมงเท่านั้น
3.ส่วนใหญ่ลูกน้อยชอบกินนมที่อุ่นกำลังดี ใกล้เคียงอุณหภูมิร่างกาย หากคุณแม่ชงนมแล้วนำเข้าตู้เย็นก่อนจะนำมาป้อนลูก คุณแม่ควรนำมาทำให้อุ่น โดยวางลงในชาม หรือหม้อที่ใส่น้ำร้อนสักครู่ แต่ควรหลีกเลี่ยงการอุ่นนมในไมโครเวฟ เพราะความร้อนจะมากเกินไป อาจลวกปากลูกได้ ซึ่งหลังจากคุณแม่อุ่นนมในน้ำร้อนแล้ว ก็เพียงแค่แกว่งขวดเบาๆ หลังจากนั้นให้ทดลองหยดนมลงที่หลังมือ 1-2 หยด เป็นการทดสอบอุณหภูมิของนม หากรู้สึกไม่อุ่นจัดเกินไป ก็ให้ลูกดื่มได้
4.เมื่อนำขวดนมออกจากตู้เย็นและอุ่นให้ร้อนแล้ว ห้ามนำกลับเข้าตู้เย็นอีกเด็ดขาด เพราะนมที่มีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิขึ้นลง โอกาสที่เชื้อโรคเจริญเติบโตได้สูง หากนำมาให้ลูกกินอีกจะทำให้เกิดการเจ็บป่วยได้ง่าย
5.ควรเลือกใช้อุปกรณ์ในการชงนมให้น้อยชิ้น ทำความสะอาดง่ายจะได้ประหยัดเวลาในการเตรียมตัวชงนม และมีเวลาดูแลลูกน้อยมากขึ้น
6.ขณะป้อนนมลูก ควรหยุดพักเพื่อไล่ลมในท้องให้ลูกน้อยเป็นระยะๆ และเมื่อลูกกินนมอิ่มแล้ว ต้องให้ลูกเรอเอาลมออกจากกระเพาะอาหารด้วย จะได้ไม่ทำให้เกิดอาการท้องอืดหรือปวดท้อง
สำหรับคุณแม่ที่มีลูกน้อยจำเป็นต้องกินนมผง ต้องศึกษาถึงวิธีชงนมให้ลูกน้อยอย่างเข้าใจ และเน้นถึงสุขภาพอนามัยของลูกเป็นหลัก จะได้ไม่พลาดจนทำให้ลูกน้อยมีความเจ็บป่วยเกิดขึ้น ซึ่งนอกจากจะทำให้ลูกน้อยเติบโตช้าแล้ว ยังจะสร้างความวิตกกังวล และความไม่สบายใจให้กับคุณแม่อีกด้วย การเริ่มต้นด้วยการชงนมอย่างถูกวิธีในวันนี้ ย่อมส่งผลดีต่อสุขภาพลูกน้อยให้มีพลานามัยที่สมบรูณ์ต่อไป
= = = = = = = = = = = =
ติดตามความรู้ดี ๆ และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่