เสมหะ หรือเสลดมักเกิดหลังจากที่เด็กป่วยเป็นไข้หวัดหรือหวัดลงคอ ทำให้เกิดเสมหะข้นเหนียวคั่งค้างอยู่ตามลำคอเป็นจำนวนมาก เมื่อเด็กมีอาการไออย่างมีเสมหะและหายใจลำบาก หรือ มีอาการเจ็บคอร่วมด้วย เนื่องจากไอเป็นเวลานานทำให้เกิดการระคายเคือง คุณแม่ไม่ควรนิ่งนอนใจ เพราะหากปล่อยไว้อาจทำให้มีโรคร้ายต่างๆ ตามมาได้ อย่างเช่น ภาวะปอดอักเสบ ปอดแฟบ หัวใจทำงานหนัก และอาจจะอันตรายถึงชีวิตได้ วันนี้เราจึงมี วิธีละลายเสมหะ หลากหลายวิธีมาแนะนำ ต้องบอกเลยว่าได้ผลดีแน่นอน
วิธีละลายเสมหะในเด็ก
เสมหะเกิดจากการระคายเคืองบริเวณลำคอทำให้เกิดการติดเชื้อกลายเป็นเสมหะขึ้นมา บางคนเกิดเสมหะจากการเป็นโรคภูมิแพ้อากาศ หรือภาวะไซนัสอักเสบ หลอดลมอักเสบ หรือป่วยเป็นโรคหอบหืด เมื่อลูกน้อยมีเสมหะคุณแม่สามารถ ละลายเสมหะ ให้กับลูกน้อยได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้
1.ให้ลูกจิบน้ำอุ่นบ่อยๆ
เมื่อลูกมีอาการไอแบบมีเสมหะ คุณแม่ควรให้ลูกจิบน้ำอุ่นบ่อยๆ เพราะน้ำอุ่นเป็นยาขับเสมหะอย่างดี และการให้ลูกดื่มน้ำอุ่นมากๆ ยังเป็นการเพิ่มน้ำให้กับร่างกายและช่วยลดเสมหะที่เหนียวข้นลงได้ และเมื่อเสมหะลดการเหนียวข้นลงก็จะสามารถระบายเสมหะออกได้ดี ดื่มน้ำอุ่นมากๆ ถือเป็น วิธีละลายเสมหะ ได้ดีที่สุดพยายามให้ลูกจิบน้ำอุ่นบ่อยๆ เพราะความร้อนจะช่วยให้น้ำแทรกตัวเสมหะได้ดี
2.ให้ลูกกลั้วคอด้วยน้ำเกลือ
อีกหนึ่งวิธีกำจัดเสมหะ ให้กับลูกได้ดีนั่นก็คือให้ลูกกลั้วคอด้วยน้ำเกลือ โดยการนำเกลือเพียงเล็กน้อยมาละลายกับน้ำเปล่าที่สะอาดและนำมาให้ลูกกลั้วคอจะช่วยลดเสมหะได้ดี ลดความเหนียวข้นของเสมหะได้อย่างรวดเร็ว
3.กลั้วคอ หรือดื่มน้ำโซดา
วิธีละลายเสมหะ ด้วยน้ำโซดาเพราะโซดามีคาร์บอนไดออกไซด์มีคุณสมบัติช่วยละลาย เพราะฉะนั้นการให้ลูกดื่มน้ำโซดาหรือจะนำมากลั้วคอด้วยน้ำโซดาจะช่วย ละลายเสมหะ ได้ดีแต่ข้อนี้ไม่ควรใช้กับเด็กเล็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ขวบเพราะอาจยิ่งทำให้ลำคอของเด็กเกิดการอักเสบมากยิ่งขึ้น
4.รับประทานอาหารประเภทต้ม
ในช่วงที่ลูกป่วยมีไข้หวัดหรือมีอาการไอแบบมีเสมหะ อาการประเภทต้มจะมีคุณสมบัติในการช่วยลดเสมหะได้ดี ในช่วงนี้คุณแม่ควรให้ลูกทานอาหารประเภทต้มอุ่นๆ มากขึ้น และอาหารต้มที่มีเครื่องเทศสมุนไพรก็จะยิ่งช่วยลดเสมหะให้กับลูกน้อยได้ดีอย่างเช่น ซุปฟักทองร้อนๆ เพราะฟักทองมีกรดโอเมกา 3 ช่วยลดการอักเสบและขับเสมหะได้ดี แกงจืดเต้าหู้หมูสับ เพราะรากผักจะช่วยแก้ไอแก้หวัดและขับเสมหะได้
5.รับประทานผลไม้รสเปรี้ยว
เพราะผลไม้รสเปรี้ยวจะมีความเป็นกรดสูงมีฤทธิ์ช่วย ละลายเสมหะ ได้ดี การให้ลูกทานสมุนไพรและผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวอย่างเช่น มะนาว มะขาม เสาวรส ส้ม และสมุนไพรรสเผ็ดอย่าง พริกไทย พริก จะช่วยลดเสมหะได้ดี และยังช่วยให้ลูกชุ่มคออีกด้วย เป็นวิธีละลายเสมหะ ที่ปลอดภัยโดยที่ไม่ต้องพึ่งยา
6.ใช้วิธีเคาะปอดระบายเสมหะ
วิธีเคาะปอดคือการใช้แรงสั่นจากลมเพื่อให้กระทบผนังทรวงอกให้เสมหะที่เกาะอยู่บริเวณทางเดินหายใจค่อยๆ หลุดออก วิธีนี้จะมีหลายท่าด้วยกันโดยอาศัยแรงโน้มถ่วงช่วยคือ ให้อุ้มลูกให้ศีรษะพาดบ่าไหล่และคุณแม่ทำการเคาะบริเวณด้านบนหลังของลูก และอีกหนึ่งวิธีคือ ให้ลูกนอนหงายและทำการเคาะบริเวณไหปลาร้าใต้ราวนม จะช่วยให้ลูกหายใจโล่งขึ้น
7.ดูดเสมหะด้วยลูกยาง
หากพบว่าลูกมีเสมหะที่ข้นเหนียวคั่งค้างเป็นจำนวนมากจนทำให้ลูกหายใจไม่สะดวก คุณแม่สามารถใช้อุปกรณ์อย่างลูกยางดูดเสมหะให้ลูก โดยให้ลูกนอนหงายหันหน้าลูกไปทางด้านใดด้านหนึ่งเพื่อป้องกันการสำลักและทำการหยดน้ำเกลือเพื่อล้างจมูกก่อน 1 ครั้งเพื่อลดความข้นเหนียวของเสมหะ จากนั้นใช้ลูกยางส่วนปลายที่แหลมแย่เข้าไปในจมูกของลูกโดยไม่ต้องลึกมากและทำการดูดเสมหะให้กับลูก
ซื้อยาลดเสมหะเองได้ไหม
เมื่อลูกมีอาการไอแบบมีเสมหะนอกจาก วิธีละลายเสมหะ จากธรรมชาติแล้วคุณแม่สามารถหาซื้อยาลดเสมหะยาแก้ไอตามร้านขายยาทั่วไปเพื่อมาลดเสมหะให้กับลูกได้โดยยาที่คุณแม่สามารถซื้อให้ลูกทานเองได้ก็จะมีดังนี้
ยาขับเสมหะ (Expectorants)
ยาประเภทนี้จะออกฤทธิ์ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับลำคอ ลดการอักเสบของลำคอ ช่วยให้เสมหะลดการข้นเหนียวลงทำให้สามารถขับออกมาได้ง่าย ช่วยกระตุ้นทำให้เกิดการไอเพื่อขับเสมหะมากขึ้น และเมื่อร่างกายสามารถระบายเสมหะออกได้มากแล้วอาการไอก็จะลดลง อย่างไรก็ตามยาในกลุ่มนี้ก็อาจจะมีผลข้างเคียงเล็กน้อยทำให้ระคายเคืองทางเดินอาหารและทำให้มีอาการคลื่นไส้อาเจียนได้
ยาละลายเสมหะ (Mucolytics)
ตัวยาจะมีสรรพคุณช่วยลดความข้นเหนียวของเสมหะ ยับยั้งและป้องกันการเกิดเสมหะ โดยตัวยาจะกระตุ้นการทำงานของเนื้อเยื่อในลำคอ ช่วยขับเสมหะให้ออกมาอย่างง่ายดาย และตัวยายังมีสรรพคุณช่วยต้านอนุมูลอิสระและลดการอักเสบของลำคอได้ดีอีกด้วย
และนี่คือ 7 วิธีละลายเสมหะ แบบธรรมชาติที่ไม่ต้องพึ่งยา ที่เราได้นำมาฝากในวันนี้ เมื่อลูกมีอาการไอแบบมีเสมหะ มีเสมหะข้นเหนียว คุณแม่สามารถนำวิธีเหล่านี้ไปใช้เพื่อลดสมหะให้กับลูกได้ แต่ละวิธีนั้นมีความปลอดภัยและไม่มีผลข้างเคียงใดๆ แถมไม่ต้องเสียเงินในการซื้อยาอีกด้วย
= = = = = = = = = = = =