วิธีนับลูกดิ้น เป็นการตรวจสอบเบื้องต้น ที่คุณแม่สามารถทำเองได้ ซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงสุขภาพของทารกในครรภ์ว่าแข็งแรงหรือไม่ จึงเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่คุณแม่ต้องใส่ใจ และเรียนรู้วิธีการนับอย่างถูกต้อง โดยขั้นตอนการนับก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร ดังนั้นมาดูกันสิว่าจะต้องนับกันอย่างไร และแบบไหนที่แสดงว่าลูกน้อยในครรภ์ไม่ปกติ

วิธีนับลูกดิ้น นับอย่างไรให้ถูกต้อง

การนับลูกดิ้นนั้นสามารถทำได้หลายวิธี ดังต่อไปนี้

1.ดูการดิ้นตลอด 24 ชั่วโมง

วิธีนี้เหมาะสำหรับคุณแม่ที่มีเวลา โดยต้องคอยจดบันทึกการดิ้นของลูกน้อยตลอดทั้งวัน 24 ชั่วโมง หรืออาจเฉพาะในช่วงที่คุณแม่ตื่นคือ ตั้งแต่เวลา 9 โมงเช้า จนถึงบ่าย 3 โมงเย็นก็ได้ ซึ่งวิธีนี้อาจไม่ค่อยสะดวกสำหรับคุณแม่ที่ต้องออกไปทำงานนอกบ้าน

2.การนับด้วยเทคนิค Sadovsky technique

วิธีนับลูกดิ้น แบบ Sadovsky technique เป็นเทคนิคหนึ่งที่นำมาใช้สังเกต การดิ้นหลังจากลูกเพิ่งได้รับอาหาร ซึ่งเป็นช่วงที่ร่างกายของทารกมีปริมาณน้ำตาลในเลือดสูง จึงช่วยกระตุ้นการดิ้นได้เป็นอย่างดี ดังนั้นคุณแม่สามารถจดบันทึกการดิ้นของลูกในช่วงนี้ได้ โดยลูกควรดิ้นอย่างน้อย 3 ครั้งหลังจากมื้ออาหารผ่านไป 1 ชั่วโมง ดังนั้นถ้ารวมทั้ง 3 มื้อ ลูกควรดิ้นมากกว่า 10 ครั้งขึ้นไป จึงจะนับว่าปกติ แต่ถ้าภายใน 1 ชั่วโมงลูกดิ้นน้อยกว่า 3 ครั้งให้รออีก 1 ชั่วโมง ซึ่งถ้ายังดิ้นน้อยกว่า 3 ครั้งอีก คุณแม่ควรไปพบแพทย์ทันที

3.ดูการดิ้นหลังมื้ออาหาร

วิธีที่ 3 นี้นับการดิ้นหลังมื้ออาหารคล้ายกับวิธีที่ 2 เพียงแต่เด็กต้องดิ้นอย่างน้อย 4 ครั้งต่อมื้อ หรืออย่างน้อย 12 ครั้งต่อวัน โดยถ้าหลังมื้ออาหาร 1 ชั่วโมงแล้ว พบว่าลูกดิ้นน้อยกว่า 4 ครั้ง ก็ให้สังเกตต่อจนครบ 6 ชั่วโมง จึงค่อยนับจำนวนที่ลูกดิ้น และถ้านับแล้ว ลูกยังดิ้นน้อยกว่า 4 ครั้งใน 6 ชั่วโมง หรือน้อยกว่า 12 ครั้งใน 1 วัน ให้รีบไปพบแพทย์

4.นับการดิ้นตามชั่วโมง

วิธีนับลูกดิ้น โดยการนับการดิ้นภายใน 1ชั่วโมง เมื่อลูกดิ้นอย่างน้อย 3 ครั้ง หรือมากกว่านั้นใน 1ชั่วโมง ถือว่าปกติ หรืออาจเพิ่มเวลาเป็นภายใน 2 ชั่วโมง ถ้าลูกดิ้นมากกว่า 10 ครั้งใน 2 ชั่วโมงก็ถือว่าปกติเช่นกัน

5.วิธี count to ten

วิธีนับลูกดิ้น สุดท้าย ให้สังเกตการดิ้นของลูกในช่วงแต่ละวัน 10-12 ชั่วโมง ซึ่งลูกควรดิ้นมากกว่า 10 ครั้ง ถือว่าปกติ

เริ่มนับลูกดิ้นได้ตอนไหน

โดยปกติแล้ว ทารกในครรภ์จะเริ่มดิ้นเมื่ออายุครรภ์ 18-22 สัปดาห์ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยของคุณแม่แต่ละคน ที่จะรับรู้การดิ้นได้ช้าเร็วแตกต่างกัน เช่น คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ท้องแรก อาจรู้สึกช้ากว่าคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ท้องที่ 2 ส่วนคุณแม่ที่พุงแฟบกว่าก็จะรู้สึกถึงการดิ้นได้เร็วกว่าคุณแม่ที่มีพุงหนา ดังนั้นแพทย์จึงแนะนำให้เริ่มนับการดิ้นของลูก เมื่อเลยช่วงอายุครรภ์ที่ 28 สัปดาห์ไปแล้ว เพราะการดิ้นของลูกช่วงนี้จะมีอัตราที่สม่ำเสมอและคงที่มากกว่า โดยคุณแม่ต้องรู้วิธีนับลูกดิ้นที่ถูกต้องด้วย

Sponsored

ลูกดิ้นแบบไหน ปกติ

ทารกในครรภ์แต่ละคน มีรูปแบบการดิ้นที่แตกต่างกัน ซึ่งส่วนใหญ่ทารกที่ดิ้นมาก ดูเป็นเรื่องปกติ คุณแม่จะไม่ค่อยกังวลใจ แต่ในขณะเดียวกันถ้าพบว่าทารกดิ้นน้อย ให้คุณแม่คอยหมั่นสังเกตด้วยการนับการดิ้น  เช่น ภายในเวลา 10-12 ชั่วโมง ถ้าลูกยังดิ้นเกินกว่า 10 ครั้งขึ้นไปก็ถือเป็นเรื่องปกติ ส่วนการดิ้นของทารกในช่วงเวลากลางคืน ในเวลาสามทุ่มถึงตีหนึ่ง อาจพบว่าทารกดิ้นแรงกว่าปกติ เพราะเป็นช่วงเวลาที่คุณแม่พักผ่อน โดยเมื่อเทียบกับตอนกลางวัน คุณแม่อาจรู้สึกว่าทำไมลูกไม่ค่อยดิ้น ซึ่งแท้จริงแล้ว ทารกรู้สึกตกใจจากการเปลี่ยนอิริยาบถอันรวดเร็วของคุณแม่จึงทำให้เงียบไป และในช่วงกลางวันคุณแม่ก็มักจดจ่อกับการทำงานมากกว่า เลยไม่ค่อยสนใจการดิ้นของลูก ดังนั้นคุณแม่ไม่ต้องกังวลใจกับเรื่องเหล่านี้ เพียงแค่สังเกตว่าการดิ้นของลูกเป็นไปตามเกณฑ์ ก็ถือว่าลูกปลอดภัย

ลูกดิ้นแบบไหน ไม่ปกติ

แม้ว่าการที่ลูกดิ้นมากๆ จะทำให้คุณแม่รู้สึกวางใจมากกว่าการที่ลูกดิ้นน้อยๆ แต่ถ้าอยู่ๆ ลูกดิ้นมากกว่าปกติในระยะหนึ่ง แล้วก็หยุดดิ้น จนไม่มีการดิ้นเกิดขึ้นอีกเลย ให้คุณแม่สงสัยว่าทารกในครรภ์อาจเสียชีวิต ดังนั้นคุณแม่จำเป็นต้องรีบไปพบแพทย์โดยด่วน และแน่นอนว่าถ้าลูกดิ้นน้อยไม่ตรงตามเกณฑ์ ก็จำเป็นต้องรีบไปโรงพยาบาลเช่นกัน โดยเฉพาะคุณแม่ที่มีอายุครรภ์มากขึ้น ใกล้คลอด หรือเลยกำหนดคลอดไปแล้ว ควรต้องไปพบแพทย์ ซึ่งสาเหตุที่ลูกดิ้นน้อยนั้น อาจมาจาก โพรงมดลูกแคบจนทารกไม่สามารถดิ้นได้ หรือเกิดอันตรายกับทารกในครรภ์ เนื่องจากการขาดออกซิเจน หรือรกเสื่อม ดังนั้นการสังเกตการดิ้นจึงสำคัญ โดยเฉพาะถ้าปล่อยทิ้งไว้นาน หรือทารกหยุดดิ้นไปนานเกินกว่า  12 ชั่วโมง อาจนำมาซึ่งการสูญเสียได้

การนับการดิ้นของทารกในครรภ์สามารถช่วยรักษาชีวิตลูกได้ ซึ่งถ้าทำถูกตามวิธีนับลูกดิ้น แล้วพบว่าลูกดิ้นน้อยลง คุณแม่ควรหยุดทำงาน นั่งนิ่งๆ และอาจหาอาหาร ขนม หรือน้ำหวาน ร่วมกับฟังเพลง เล่านิทาน ตลอดจนพูดคุย และลูบท้องทารกในครรภ์ สิ่งเหล่านี้ จะช่วยกระตุ้นให้ลูกกลับมาดิ้นอีกครั้ง แต่ถ้าทำทุกวิถีทางแล้ว ลูกยังดิ้นน้อยผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง ดังนั้นไม่ควรรอให้สายจนเกินไป

= = = = = = = = = = = =

ติดตามความรู้ดี ๆ  และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่ https://www.facebook.com/teamkonthong/

We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about growing up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook

https://www.facebook.com/teamkonthong/

บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..

1.ผ่าคลอดกี่วัน ขับรถได้? และคำแนะนำดีๆ ที่คุณแม่ต้องอ่าน

2.ผ่าคลอด มีลูกได้กี่คน? และคำแนะนำสำหรับคนท้องที่เคยผ่าคลอดมาก่อน