ไวรัสเริม หากพูดถึง “เริม” คนทั่วไปอาจจะคิดว่าเป็นอาการที่เกิดขึ้นกับร่างกาย เล็ก ๆ น้อย ๆหรือไม่ส่งผลต่อร่างกายมากนัก จะมีก็เพียงสร้างความรำคาญให้เท่านั้นเอง แต่จริง ๆ แล้วรู้ไหมว่า อันตรายจากการติดไวรัสเริมนั้นมีมากกว่าเราคิด โดยเฉพาะในแม่ตั้งครรภ์ ที่มีการระบุว่ามีความเสี่ยงต่อการแท้งสูงขึ้นถึง 3 เท่า เลยทีเดียว ไปทำความรู้จักกับเรื่องนี้พร้อม ๆ กันค่ะ

ไวรัสเริม สาเหตุของการติดไวรัสชนิดนี้

เกิดจากการติดเชื้อ Herpes simplex  virus โดยแบ่งออก เป็น 2 ชนิด คือ Herpes simplex  virus 1 มักเกิดบริเวณปาก ผิวหนังเหนือสะดือขึ้นไป กับ Herpes simplex  virus 2 ที่เชื้อมักเกิดขึ้นในบริเวณอวัยวะเพศ ติดเชื้อได้จากการจูบ การใช้แก้วน้ำร่วมกัน  เพศสัมพันธ์ ซึ่งเชื้อไวรัสเริมชนิดนี้ อาจส่งผลให้ทารกที่คลอดทางช่องคลอดติดเชื้อด้วย หรือหากติดเชื้อไวรัสเริมในระหว่างที่ตั้งครรภ์อ่อน ๆ จะมีความเสี่ยงต่อการแท้งมากขึ้นถึง 3 เท่า หรือเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด

อาการติดไวรัสเริม

  1. ปวดเมื่อย อ่อนเพลีย มีอาการปวดแสบปวดร้อนบริเวณตา หรือปาก หรือริมฝีปาก ตามมาด้วยอาการบวม และในอีก 2-3 วัน จะมีตุ่มน้ำใสเกิดขึ้น และแตกตัวออกใน 24 ชั่วโมง จากนั้นแผลจะตกสะเก็ด และหายใน 2-3 วัน และในบางคนสามารถกลับมาเป็นซ้ำได้อีกแต่อาการไม่มากเท่าเดิม เพราะร่างกายมีภูมิต้านทานแล้ว และหายเองได้ภายใน 10 วัน
  2. อวัยวะเพศบวม ตกขาว ซึ่งจะมีอาการ ป่วยมีไข้ ปวดศีรษะ ปวดตามตัว ร่วมด้วย และหากมีอาการอักเสบมากขึ้นจะส่งผลให้ปัสสาวะลำบาก ทั้งนี้เริมที่เกิดกับอวัยวะเพศ จะโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้อีกภายใน 5 ปี

ไวรัสเริมความเสี่ยง ที่ส่งผลต่อสุขภาพครรภ์

1.แม่ตั้งครรภ์เสี่ยงแท้งสูงขึ้น 3 เท่า หรือเสี่ยงคลอดก่อนกำหนด

2.หากทารกในครรภ์ติดเชื้อไวรัสเริม จะส่งผลให้ทารกมีตุ่มน้ำใส และส่งผลต่อการเกิดความพิการ  รวมถึงทำให้ทารกในครรภ์เสียชีวิตได้

แม่ตั้งครรภ์ป้องกันดูแลและรักษาไวรัสเริม

อาการบวม และในอีก 2-3 วัน จะมีตุ่มน้ำใสเกิดขึ้น และแตกตัวออกใน 24 ชั่วโมง จากนั้นแผลจะตกสะเก็ด และหายใน 2-3 วัน และในบางคนสามารถกลับมาเป็นซ้ำได้อีกแต่อาการไม่มากเท่าเดิม เพราะร่างกายมีภูมิต้านทานแล้ว และหายเองได้ภายใน 10 วัน

2.อวัยวะเพศบวม ตกขาว ซึ่งจะมีอาการ ป่วยมีไข้ ปวดศีรษะ ปวดตามตัว ร่วมด้วย และหากมีอาการอักเสบมากขึ้นจะส่งผลให้ปัสสาวะลำบาก ทั้งนี้เริมที่เกิดกับอวัยวะเพศ จะโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้อีกภายใน 5 ปี

ไวรัสเริมความเสี่ยง ที่ส่งผลต่อสุขภาพครรภ์

1.แม่ตั้งครรภ์เสี่ยงแท้งสูงขึ้น 3 เท่า หรือเสี่ยงคลอดก่อนกำหนด

2.หากทารกในครรภ์ติดเชื้อไวรัสเริม จะส่งผลให้ทารกมีตุ่มน้ำใส และส่งผลต่อการเกิดความพิการ  รวมถึงทำให้ทารกในครรภ์เสียชีวิตได้

Sponsored

แม่ตั้งครรภ์ป้องกันดูแลและรักษาไวรัสเริม

1.อยู่ในความดูแลของหมอ ซึ่งจะมีการรักษาตามอาการ  โดยหากพบว่ามีแผลหรือมีการติดเชื้อที่อวัยวะเพศในช่วงเวลากำหนดคลอด อาจมีการผ่าคลอด เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อสู่ทารกในระหว่างคลอด

2.ทารกหลังคลอดที่แม่ตั้งครรภ์ติดไวรัสเริม จะมีการแยกออกไปดูแลต่างหาก ประมาณ 7-10 วัน

3.หากเริมเกิดขึ้นที่บริเวณปาก ให้ดื่มน้ำมาก ๆ และบ้วนปากด้วยน้ำเกลือ

4.หากเกิดเริมที่อวัยวะเพศ  เมื่อมีอาการคัน แสบ แก้ไขได้ด้วยการทายา และควรนั่งแช่น้ำอุ่นครั้งละประมาณ 10 นาที โดยทำประมาณ 2-3 ครั้งต่อวัน จะช่วยบรรเทาอาการได้มากขึ้น

5.รักษาสุขภาพให้แข็งแรง ไม่เครียด นอนหลับ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกาย เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสเริมซ้ำ

= = = = = = = = = = = =

ติดตามความรู้ดี ๆ  และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่
https://www.facebook.com/teamkonthong/

We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about how can you grow up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or have any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook

https://www.facebook.com/teamkonthong/

บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..

1.6 คุณประโยชน์ของนมแพะ มาดูสิว่ามีอะไรบ้าง

2.นมแพะดีอย่างไร ทำไมจึงเป็นตัวช่วยเสริม ที่ดีต่อลูกรัก