ตับนับว่าเป็นอวัยวะที่สำคัญต่อร่างกายของคนเราอย่างมาก เพราะหากเมื่อไหร่ก็ตามที่ตับเกิดการอักเสบ หรือได้รับความเสียหาย ตับก็จะไม่สามารถทำหน้าที่ของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกต่อไป และยังส่งผลทำให้เกิดความผิดปกติต่อสุขภาพของร่างกายโดยรวมอีกด้วย ซึ่งปัจจุบัน โรคไวรัสตับอักเสบบี ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดการเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ซึ่งมากถึงร้อยละ 70–75 กันเลยทีเดียว นอกจากนี้ โรคไวรัสตับอักเสบบียังถูกจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 โรคติดเชื้อที่ทำให้คนเสียชีวิตมากที่สุดอีกด้วย ซึ่งรู้หรือไม่ว่าในประเทศไทยเรานั้นพบว่ามีผู้เป็น โรคไวรัสตับอักเสบบี เรื้อรังกว่า 3.5 ล้านคน วันนี้เราเลยจะพาคุณไปรู้จักกับโรคนี้กันว่าเป็นอย่างไร และมีความน่ากลัวมากแค่ไหน

โรคไวรัสตับอักเสบบี คืออะไร

โรคไวรัสตับอักเสบบี คือ การอักเสบของเซลล์ตับ ที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี (HBV) ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่ทำให้ผู้ได้รับเชื้อมีแนวโน้มเกิด ภาวะตับอักสบเรื้อรัง ตับแข็ง และอาจกลายเป็นมะเร็งตับในที่สุดได้นั่นเอง ปัจจุบันพบว่า ผู้ป่วยมะเร็งตับส่วนใหญ่ 90% มักจะมีประวัติเป็นโรคไวรัสตับอักเสบมาก่อน นับว่าเป็นโรคร้ายแรงที่มีความน่ากลัวไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งสาเหตุของการเกิดโรคก็มาจากหลายปัจจัยด้วยกัน

อาการของโรคไวรัสตับอักเสบบี

หลังจากที่ผู้ป่วยได้รับการติดเชื้อ โรคไวรัสตับอักเสบบี ผู้ป่วยเด็กประมาณ 10% และ ผู้ใหญ่ประมาณ 30-50% จะมีอาการของโรคในระยะเฉียบพลันได้ในช่วง 1-3 เดือนแรก ซึ่งอาการที่มีจะคล้ายกับอาการเจ็บป่วยอื่น ๆ แต่จะมีอาการที่แสดงชัดเจนดังนี้

  • เบื่ออาหาร โดยผู้ป่วยจะทานอาหารได้น้อยลง หรือแทบไม่อยากทานอะไรเลย สังเกตร่วมกับมีน้ำหนักตัวลดลงอย่างรวดเร็ว
  • ผู้ป่วยจะมีไข้ต่ำ ๆ อ่อนเพลีย ตาเหลือง ตัวเหลือง มีปัสสาวะเป็นสีเข้ม
  • ในผู้ป่วยที่มีอาการเรื้อรังมากกว่า 6 เดือน จะมีเลือดออกในทางเดินอาหาร เนื่องจากเส้นเลือดโป่งพอง

วิธีการรักษาไวรัสตับอักเสบบี

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าไม่ใช่ผู้ป่วย โรคไวรัสตับอักเสบบี เรื้อรังทุกคนต้องการการรักษา แต่จะพิจารณาการรักษาเฉพาะผู้ป่วยที่ยังมีการแบ่งตัวของไวรัสบี ร่วมกับมีการอักเสบของตับ หรือมีโรคตับอยู่ ซึ่งแพทย์จะพิจารณารักษาในผู้ป่วยที่มีข้อบ่งชี้ ส่วนการรักษาด้วยยาต้านไวรัส แพทย์จะพิจารณาว่าสามารถหยุดยาเมื่อมีข้อบ่งชี้ ตามแนวทางการรักษาปัจจุบัน โดยผู้ป่วยบางรายอาจต้องรับประทานยาระยะยาว ผู้ป่วยจึงไม่ควรหยุดยาเอง และเฝ้าติดตามระวังการเกิดมะเร็งตับไปพร้อมกัน ในการรักษาจะใช้ยาชนิดรับประทาน เพื่อไปยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัสตับอักเสบบี หรือ การใช้ยาฉีดเพื่อกระตุ้นภูมิต้านทานของผู้ป่วย ยาตัวนี้มีฤทธิ์ไปกระตุ้นภูมิต้านทานของผู้ป่วยให้ต่อสู้ไวรัสตับอักเสบบีเป็นหลัก

แนวทางการป้องกัน

สำหรับแนวทางการป้องกันไม่ให้ โรคไวรัสตับอักเสบบี สามารถป้องกันได้ดังนี้

  1. สิ่งแรกที่จะสามารถช่วยป้องกันไม่ให้เราเสี่ยงต่อการเกิด โรคไวรัสตับอักเสบบี คือ ตรวจสุขภาพร่างกายเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะการตรวจเช็คตับปีละ 1 ครั้ง และตรวจคัดกรองมะเร็งตับเป็นระยะ หากมีความเสี่ยงจะได้รับการรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ
  2. ควรได้รับการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันไวรัสตับอักเสบ หากร่างกายยังไม่มีภูมิคุ้มกัน เพราะสามารถช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคได้ในระดับหนึ่ง
  3. หลีกเลี่ยงการรับประทานยาพร่ำเพรื่อติดต่อกันเป็นเวลานาน หากไม่ได้อยู่ในความดูแลของแพทย์เพราะการทานยาติดต่อกันก็เป็นสาเหตุหลักของการเกิด โรคไวรัสตับอักเสบบี ได้ด้วยเช่นกัน
  4. ให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พร้อมกับเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อเป็นการเสริมสร้างภูมิต้านทานโรคให้กับตนเอง

ทารกที่ได้รับวัคซีนครบ ช่วยลดความเสี่ยงการติดโรคได้สูง

การฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบบีเป็นการป้องกันโรค ที่ได้ผลเกือบ 100% และภูมิคุ้มกันที่ได้จากวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบีจะอยู่ติดตัวไปได้ตลอด  การฉีดวัคซีนสามารถทำได้ตั้งแต่อายุ 1 ปีขึ้นไป โดยช่วงวัยนี้จะเป็นเป็นช่วงวัยที่คุณพ่อคุณแม่เริ่มพาลูกๆ ออกไปมีกิจกรรมนอกบ้าน หรือเริ่มเข้าโรงเรียน มีโอกาสที่จะได้รับเชื้อจากการรับประทานอาหาร ดื่มน้ำ หรือสัมผัสกับเชื้อได้ง่าย ซึ่งควรได้รับฉีดวัคซีน 2 ครั้ง ห่างกัน 6 เดือน สำหรับผู้ใหญ่ที่ไม่มีภูมิคุ้มกันโรคไวรัสตับอักเสบบี ควรได้รับการฉีดวัคซีน 2 ครั้ง ห่างกัน 6-12 เดือน ซึ่งการได้รับวัคซีนครบตั้งแต่วัยเด็กจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคได้สูงมาก ๆ

Sponsored

ก็ได้รู้จักกันไปแล้วกับโรคไวรัสตับอักเสบบี ซึ่งจากข้อมูลต่าง ๆ ที่เราได้กล่าวไปนั้นจะเห็นได้ว่าเป็นโรคที่มีความน่ากลัวอีกหนึ่งโรค เพราะฉะนั้นหากใครที่มีความเสี่ยงให้คุณพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพและรับการรักษาที่ถูกต้องทันที สำหรับใครที่ไม่อยากเสี่ยงต่อการเกิดโรคการได้รับวัคซีนอย่างถูกต้องนับว่าเป็นวิธีที่จะช่วยให้คุณไม่เสี่ยงต่อการเกิดโรคได้ดีไม่น้อยเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามการดูแลสุขภาพ และการเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณมีสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืนได้ดีมาก ๆ

= = = = = = = = = = = =

ติดตามความรู้ดี ๆ  และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่
https://www.facebook.com/teamkonthong/

We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about how can you grow up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or have any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook

youtube:KonThong Channel คนท้อง
IG :Team_konthong
Tiktok :Teamkonthonth

บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..

1.ตั้งครรภ์น้ำหนักลด ในช่วงไตรมาสแรก ผิดปกติหรือไม่

2.รีวิว 7 แอพคนท้อง ที่คุณแม่ควรมี เพื่อการตั้งครรภ์คุณภาพ