การทำกิ๊ฟท์ คืออะไร? ในปัจจุบัน คนที่มีลูกยากเริ่มหันมาพึ่งเทคโนโลยีกันมากขึ้น และทำกิ๊ฟท์ก็เป็นวิธีหนึ่งที่คู่สามีภรรยาส่วนใหญ่เลือก โดยมีข้อมูลเกี่ยวกับการทำ GIFT ดังนี้
การทำกิ๊ฟท์ คืออะไร?
ทำกิ๊ฟท์ (GIFT) ก็คือการแก้ปัญหาการมีบุตรยาก โดยมีหลักการคือ จะนำไข่ของฝ่ายหญิงและตัวอสุจิของฝ่ายชายมารวมกัน จากนั้นก็ฉีดกลับเข้าไปในท่อนำไข่แล้วรอให้เกิดการปฏิสนธิ ซึ่งหากการปฏิสนธิเสร็จสมบูรณ์ เซลล์ไข่ก็จะเคลื่อนตัวมาฝังอยู่ที่มดลูกและเกิดการตั้งครรภ์ตามธรรมชาติในที่สุด อย่างไรก็ตามวิธีการดังกล่าวนี้ก็อาจต้องใช้เวลาและมีค่าใช้จ่ายพอสมควรเลยทีเดียว เพราะการทำกิ๊ฟท์ไม่ใช่ว่าจะสำเร็จทันทีที่ทำเสมอไป อาจเกิดความล้มเหลวจนต้องทำหลายๆ ครั้งเหมือนกัน
ใครบ้างที่สามารถทำกิ๊ฟท์ เพื่อการมีบุตรได้
ผู้ที่สามารถทำกิ๊ฟท์ เพื่อการมีบุตรได้ คือ
- ผู้ที่มีบุตรยากและเคยรักษาด้วยการฉีดเชื้อแล้ว แต่ไม่สำเร็จ
- ผู้ที่มีพังผืดในอุ้งเชิงกราน
- ผู้ที่มีอายุมาก
อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ที่มีปัญหาท่อนำไข่อุดตันทั้งสองข้าง จะไม่สามารถรักษาด้วยวิธีการทำ GIFT ได้ เพราะวิธีนี้จะต้องฉีดตัวอสุจิและเซลล์ไข่เข้าไปในท่อนำไข่ให้เกิดการปฏิสนธิกันนั่นเอง
การทำกิ๊ฟท์ มีขั้นตอนอย่างไร
สำหรับวิธีทำกิ๊ฟท์ มีขั้นตอนทั้งหมด 5 ขั้นตอน ได้แก่
ขั้นตอนที่ 1
การกระตุ้นรังไข่ เป็นการกระตุ้นเพื่อให้ไข่สุกและเกิดการตกไข่ในจำนวนที่ต้องการ ซึ่งอาจต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 7-10 วัน
ขั้นตอนที่ 2
การเจาะไข่ คือการเจาะแล้วดูดเอาไข่ออกมาจากถุงที่เก็บไข่เอาไว้ เพื่อนำมาเตรียมพร้อมในการปฏิสนธิต่อไป
ขั้นตอนที่ 3
การย้ายเซลล์ไข่และอสุจิเข้าสู่ท่อนำไข่ โดยจะนำเอาเซลล์ไข่และอสุจิจากฝ่ายชายมารวมกัน จากนั้นก็ย้ายกลับเข้าไปไว้ในท่อนำไข่ของฝ่ายหญิงเพื่อให้เกิดการปฏิสนธิกัน ซึ่งจะนิยมใช้วิธีการส่องกล้องทางหน้าท้องมากที่สุด
ขั้นตอนที่ 4
การให้ฮอร์โมน เพื่อให้ร่างกายของฝ่ายหญิงมีฮอร์โมนมากพอสำหรับเตรียมพร้อมมดลูกในการตั้งครรภ์ โดยฮอร์โมนที่เพียงพอจะช่วยให้เกิดการฝังตัวของตัวอ่อนอย่างสมบูรณ์แบบและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ขั้นตอนที่ 5
ทดสอบการตั้งครรภ์ เพื่อตรวจเช็คดูว่าการตั้งครรภ์เป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบหรือไม่ โดยจะตรวจหลังการทำกิ๊ฟท์ประมาณ 12 วัน
เพียงแค่ 5 ขั้นตอนนี้ก็สามารถมีบุตรได้อย่างง่ายดาย แต่อย่าลืมว่าการทำกิ๊ฟท์จะมีค่าใช้จ่ายมากพอสมควรและนอกจากนี้ก็อาจเกิดผลเสียได้เหมือนกัน
ผลกระทบและภาวะแทรกซ้อนจากการทำ GIFT
หลังขั้นตอนทำกิ๊ฟท์ อาจมีผลกระทบหรือภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ตามมาได้ ดังนั้นในระยะแรกๆ จึงต้องอยู่ในการดูแลอย่างเคร่งครัด และหมั่นสังเกตความผิดปกติที่เกิดขึ้นอยู่เสมอ โดยอาจมีผลกระทบและภาวะแทรกซ้อนดังนี้
- อาจมีการฟกช้ำและมีอาการเจ็บบริเวณที่ทำการฉีดยาและเจาะเลือดได้ เพราะการฉีดยาและการเจาะเลือดเพื่อตรวจหาระดับฮอร์โมนนั้น จะต้องทำหลายๆ ครั้ง จนกว่าจะได้ผลที่แน่ชัดนั่นเอง ดังนั้นจึงต้องเตรียมใจกับผลที่จะเกิดขึ้นเล็กน้อย
- มีอาการเจ็บและถ่วงบริเวณท้องน้อย เนื่องจากในบางคนเมื่อได้รับยากระตุ้นรังไข่มากเกินไป จะทำให้รังไข่มีขนาดที่ใหญ่ขึ้นมาก จึงทำให้เกิดอาการดังกล่าวนั่นเอง นอกจากนี้แม้ว่าจะไม่เคยมีรายงานว่ายาที่ใช้กระตุ้นทำให้เกิดการแพ้ ก็ควรเฝ้าระวังเช่นกัน เพราะในบางคนก็อาจมีโอกาสที่จะเกิดการแพ้ได้
- มีอาการอักเสบของอุ้งเชิงกราน เนื่องจากขั้นตอนในการเก็บไข่ อย่างไรก็ตามอาการอักเสบดังกล่าวมักจะไม่ค่อยพบบ่อยนัก แต่จะมีอาการเจ็บปวดได้บ้าง
- มีอาการอึดอัด แน่นท้อง และเจ็บบาดแผลที่ได้นำไข่และอสุจิกลับเข้าไปในท่อนำไข่ แต่ส่วนใหญ่แล้วอาการเหล่านี้จะหายไปเองภายใน 2-3 วัน อย่างไรก็ตามหากมีอาการรุนแรงขึ้นกว่าปกติ ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจเช็ค
ทำกิ๊ฟท์ เป็นวิธีการแก้ปัญหาการมีบุตรยากที่สามารถทำได้ง่าย แต่ต้องใช้ระยะเวลาพอสมควรและมีค่าใช้จ่ายมากเหมือนกัน นอกจากนี้ก็อาจมีข้อจำกัดในบางคนอีกด้วย ดังนั้นก่อนการทำกิ๊ฟท์ควรปรึกษาแพทย์ให้ดีก่อน ซึ่งหากไม่สามารถทำกิ๊ฟท์ได้ แพทย์ก็จะแนะนำวิธีการอื่นๆ ที่มีความเหมาะสมให้นั่นเอง
= = = = = = = = = = = =
ติดตามความรู้ดี ๆ และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่
https://www.facebook.com/teamkonthong/
We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about how can you grow up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or have any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook
https://www.facebook.com/teamkonthong/
บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..
1.ปอดอักเสบ เกิดจากอะไร? แม่ท้องเป็นโรคนี้จะส่งผลต่อลูกในครรภ์ไหม