เมื่อฤดูหนาวเข้ามา สิ่งที่แม่ๆ จะต้องระวังเป็นอย่างมากก็คือโรคต่างๆ ที่อาจจะเกิดกับลูกน้อยได้ง่าย ซึ่งก็เป็นเรื่องที่สร้างความกังวลและหนักใจให้แก่บรรดาคุณแม่ไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นโรคไข้หวัดในเด็ก หรือโรคอะไรก็ตาม โดยวันนี้เราก็จะมาพูดถึงโรคที่มักจะพบได้บ่อยในช่วงหน้าหนาวกัน เพื่อดูแลป้องกันลูกรักให้ห่างไกลจากโรคเหล่านี้นั่นเอง

ไข้หวัดในเด็ก เกิดจากอะไร

โรคไข้หวัดในเด็ก สาเหตุหลักที่เจ้าตัวเล็กเป็นหวัดนั้นมาจากการติดเชื้อไวรัส ซึ่งจะติดต่อกันผ่านทางน้ำมูก น้ำลาย การไอจาม โดยเฉพาะบ้านไหนที่อยู่ในชุมชนแออัด เช่น โรงเรียน ที่รับเลี้ยงเด็ก ห้างสรรพสินค้า ตลาด ก็จะมีโอกาสป่วยได้ง่ายกว่า

วิธีดูแลเมื่อลูกเป็นหวัด

เวลาที่ลูกป่วยเป็นหวัดแม่ๆ อย่างเราจะต้องทำอย่างไรบ้าง เพราะเด็กยังไม่สามารถบอกถึงความอึดอัด ความไม่สบายตัวให้เรารู้ได้ วันนี้ทางเว็บคนท้องจึงมีวิธีการดูแลรักษาไข้หวัดในเด็กมาฝากกันค่ะ

  1. กระตุ้นให้ลูกกินนม นอกจากช่วยให้ร่างกายต้านทานโรคแล้ว ยังเป็นวิธีการที่จะช่วยลดอาการไอได้อีกวิธีหนึ่ง แต่ถ้ามีอาการเบื่ออาหารแนะนำให้พบหมอโดยด่วน
  2. เช็ดตัวเพื่อลดอาการตัวร้อน ด้วยน้ำอุ่น หรือน้ำอุณภูมิห้อง
  3. ถ้าลูกน้อยมีไข้สูง มีอาการซึม ตาแดง หายใจลำบาก เบื่ออาหาร ไม่ยอมกินนม ไอ ให้รีบพบหมอทันที

5 โรคอื่นๆ ที่มักจะพบในช่วงหน้าหนาว

ลองมาดูโรคที่มาพร้อมกับหน้าหนาวที่ไม่ใช่ไข้หวัดกันบ้างนะคะ ว่ามีอะไรบ้างที่คุณพ่อคุณแม่อย่างเราต้องระวัง

1.โรคหัด

ถือว่าเป็นโรคภูมิแพ้ชนิดหนึ่งที่พ่อแม่จะต้องระวังเป็นอย่างมาก พบบ่อยในเด็กเล็ก มีระดับความรุนแรงมากถึงขั้นเสียชีวิตเลยทีเดียว

  • สาเหตุเกิดจากการติดเชื้อไว้รัส Rubeola virusจะพบในเด็กที่ยังไม่มีภูมิคุ้มกัน โดยระยะการฟักตัวของโรคไข้หวัดในเด็กชนิดนี้อยู่ที่ 10-14 วัน สามารถติดต่อกันได้จากคนสู่คน ด้วยวิธีการ ไอ จาม และน้ำลาย
  • อาการคนไข้ที่มีอาการของโรคหัด ได้แก่ ไข้สูง ไอ ตาแดง มีตุ่มแดงๆ เล็กๆ บริเวณผิวหนัง บางคนมีต่อมน้ำเหลือง สำหรับโรคนี้สามารถหายได้เองภายใน 7 วัน
  • วิธีดูแลรักษา เด็กที่เป็นโรคหัดสามารถหายเองได้ถ้ามีร่างกายแข็งแรงและไม่มีภาวะแทรกซ้อน สามารถรักษาได้ตามอาการ
  • วิธีป้องกัน พาลูกไปรับวัคซีนป้องกัน

2.โรคท้องร่วง จากไวรัสโรต้า

โรคท้องร่วง และอาเจียน ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโรคที่พบได้บ่อยสำหรับบ้านที่มีเด็กเล็กต่ำกว่า 5 ปี ยิ่งเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวยิ่งต้องระวังมากเป็นพิเศษ

  • สาเหตุของการเกิดโรค เกิดจากการที่ร่างกายลูกน้อยได้รับเชื้อไวรัสโรต้า
  • อาการ จะมีไข้สูง อาเจียน ถ่ายบ่อยหรือเหลวเป็นน้ำ จนร่างกายขาดน้ำได้ พร้อมทั้งมีอาการอ่อนเพลีย ปวดท้องร่วมด้วย
  • วิธีดูแลรักษา ทุกวันนี้ยังไม่มียารักษาเฉพาะ ทางหมอจะมีการดูแลไปตามอาการ แต่หลักๆ แล้วจะคอยป้องกันไม่ให้เกิดภาวะการขาดน้ำและเกลือแร่ พักฟื้นให้ร่างกายกลับมาปกติ
  • วิธีป้องกัน โรคโรต้าสามารถป้องกันได้ด้วยการหยอดวัคซีนทางปาก

3.ไข้หวัดใหญ่

ไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคที่พบบ่อยในช่วงฤดูฝนไปยังฤดูหนาว เป็นโรคที่ติดเชื้อกันทางระบบการหายใจ ระดับความรุนแรงตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงขั้นตายได้

  • สาเหตุมาจากเชื้อไวรัส influenza virus ที่พบได้บ่อยมาก ในฤดูหนาว
  • อาการแรกเริ่มด้วยการมีไข้สูง ปวดตามเนื้อตามตัว ปวดหัวร่วมด้วย ร่างกายอ่อนเพลีย ไม่ค่อยมีเรี่ยวแรง บางครั้งมีอาการไอและน้ำมูกร่วมอยู่ด้วย
  • วิธีดูแลรักษาไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ถ้าสงสัยว่าเป็นไขหวัดใหญ่จะต้องไปหาหมอ เพื่อที่จะได้รับการรักษาได้ถูกต้อง
  • วิธีป้องกันสามารถป้องกันไม่ให้ลูกเป็นหวัดได้ด้วยการพาไปฉีดวัคซีน

4.ปอดบวมปอดอักเสบ

เป็นอีกหนึ่งโรคไข้หวัดในเด็กที่อันตรายเป็นอย่างมากสำหรับบ้านที่มีเด็กเล็ก พบบ่อยในช่วงหน้าฝนและหน้าหนาวเช่นเดียวกัน

  • สาเหตุเกิดจากการที่เชื้อไวรัส หรือเชื้อแบคทีเรียเข้าไปอยู่ในปอด หรือถุงลม ทำให้เนื้อในส่วนนั้นรับออกซิเจนได้น้อยกว่าปกติ
  • อาการ เบื้องต้นจะรู้สึกแน่นหน้าอก หายใจไม่ได้ สังเกตุลูกจะหายใจเร็วและแรง ส่วนใหญ่เด็กที่เป็นโรคปอดบวมจะมีอาการเหล่านี้หลังจากเป็นไข้สูง ไอ มีเสมหะ
  • วิธีดูแลรักษาทางหมอจำเป็นที่จะต้องให้ยาปฏิชีวนะ ยาลดไข้และตัวอื่นๆ เพื่อการรักษาตามอาการ
  • วิธีป้องกัน หลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่แออัด ล้างมือให้สะอาด หากมีไข้สูงไม่หายง่ายจะต้องรีบพบหมออย่างเร่งด่วน

5.โรคอีสุกอีใส

สำหรับโรคนี้ก็เป็นโรคที่เด็กๆ มักจะป่วยได้มากเช่นกัน โดยเฉพาะเด็กอายุ 5-9 ปี ช่วงที่กำลังไปโรงรียน ยิ่งในช่วงหน้าหนาวไปยังต้นๆ หน้าร้อน ถือว่าระบาดหนักเลยก็ว่าได้ สำหรับไข้หวัดในเด็กโรคนี้สามารถติดต่อได้จากการสัมผัสตัว

Sponsored
  • สาเหตุเกิดจากการที่ร่างกายได้รับเชื้อไวรัส Varicella หรือ Human herpesvirus type 3 เป็นตัวเดียวกันกับโรคงูสวัด
  • อาการเริ่มแรกลูกน้อยจะมีไข้ ปวดเมื่อยตามตัว เบื่ออาหาร ร่างกายอ่อนเพลีย ต่อมาจะมีตุ่มน้ำใสๆ ขึ้นมา จะมีอาการคันบริเวณตุ่ม
  • วิธีดูแลรักษาเด็กที่เป็นอีสุกอีใส จะมีไข้เพียงไม่กี่วันก็หาย ส่วนตุ่มจะแตก เป็นสะเก็ดและหายได้เอง ดังนั้นคุณแม่จะต้องดูแลให้ลูกนอนพักและดื่มน้ำ รวมถึงทำความสะอาดร่างกายบ่อยๆ
  • วิธีป้องกัน ปัจจุบันสามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน

และนี่ก็คือโรคที่ต้องระวังในช่วงหน้าหนาวนั่นเอง ซึ่งการรู้ไว้ก่อนก็ย่อมจะดีกว่าค่อยมาศึกษาเอาตอนที่ลูกป่วยเป็นไข้หวัดในเด็กนะคะ อย่างไรก็ตามไม่มีอะไรที่น่ากลัว ถ้าวันนี้เราได้มีการเตรียมตัว เตรียมความพร้อมในการรับมือเมื่อลูกเป็นหวัด แล้วเราจะผ่านหน้าหนาวไปได้อย่างสบายใจเลยทีเดียว

อ้างอิง : phyathai

= = = = = = = = = = = =

ติดตามความรู้ดี ๆ  และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่
https://www.facebook.com/teamkonthong/

We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about how can you grow up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or have any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook

https://www.facebook.com/teamkonthong/

บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..

1.ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอ ในเด็ก ร้ายแรงมากแค่ไหน

2.8 วิธีการดูแลลูกน้อย เมื่อมีอาการป่วยเป็นไข้หวัด