เมื่อพูดถึงถุงยางอนามัยผู้หญิง หลายคนอาจจะยังไม่เคยได้ยิน และไม่รู้ว่ามีประโยชน์อย่างไรบ้าง ไม่ทราบว่าจะใช้แบบไหน มีวิธีการใช้ที่ถูกต้องอย่างไร ใช้แล้วจะเป็นอันตรายหรือไม่ วันนี้เรานำข้อมูลเรื่องถุงยางอนามัยสำหรับผู้หญิงมาฝากกันแล้ว

ถุงยางอนามัยผู้หญิง คืออะไร

ถุงยางอนามัยผู้หญิง คืออุปกรณ์ที่ผลิตมาจากสารสังเคราะห์ มีความบอบบาง ยืดหยุุ่นตามธรรมชาติ ใช้สำหรับสอดเข้าไปในช่องคลอดของผู้หญิงก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งมีความสำคัญในการช่วยป้องกันไม่ให้เชื้ออสุจิผ่านเข้าไปในโพรงมดลูก เป็นวิธีการคุมกำเนิดชนิดหนึ่งที่ใช้ได้ผลดี อีกทั้งยังช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้อีกด้วย

วิธีการใช้ถุงยางอนามัยสตรี

ก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์ ตุฯจะต้องทำการใส่ถุงยางอนามัยไว้ก่อน ซึ่งลักษณะของถุงยางอนามัยสตรีจะมีห่วงทั้ง 2 ด้านโดยด้านปลายถุงจะปิด อีกด้านหนึ่งเปิด เมื่อจะใส่ต้องจับบีบห่วงในถุงยางให้เล็กลง โดยมีขั้นตอนดังนี้

1.ล้างมือให้สะอาด ฉีกซองแกะถุงยางอนามัย หากต้องการเพิ่มความหล่อลื่นก็ให้ทาสารหล่อลื่นที่ถุงยางอนามัยก่อน ถ้าไม่มีสารหล่อลื่นก็ใช้น้ำมันทาก็ได้ ซึ่งคุณภาพของถุงยางอนามัยสามารถทนต่อน้ำมันโดยไม่ทำให้เสื่อมสภาพแต่อย่างใด เพราะทำมาจากสารสังเคราะห์โพลียูรีเทน

2.นั่งหรือนอนในที่ในท่าที่สะดวก หลังจากนั้นจึงสอดใส่ถุงยางอนามัยสตรีเข้าไปในช่องคลอด จะยืนท่าแยกขาเล็กน้อย นั่งยองๆ หรือนอนชันเข่าก็ได้ตามแต่สะดวก โดยให้จับห่วงที่ด้านปลายของถุงยางให้เล็กลง และสอดเข้าไปในช่องคลอด

3.ใช้นิ้วชี้หรือนิ้วกลางใส่เข้าไปตรงกลางของถุงยาง แล้วค่อยๆ ดันห่วงที่อยู่ในช่องคลอดให้เข้าไปให้ลึกที่สุดจนถึงปากมดลูก

4.จับขอบยางที่ปากช่องคลอดให้ไม่บิดหรือพันกัน และอยู่ในตำแหน่งที่แนบสนิทพร้อมใช้งานได้ทันที

5.หลังจากมีเพศสัมพันธ์เสร็จแล้ว ใช้มือจับห่วงที่อยู่ภายนอกให้แน่นป้องกันไม่ให้น้ำอสุจิเล็ดลอดออกมาได้ หลังจากนั้นก็ปิดปากถุงให้สนิท แล้วค่อยๆ ดึงถุงยางออกมาจากช่องคลอด และพยายามเก็บให้เรียบร้อยห่อกระดาษทิ้งในถังขยะติดเชื้อ

ข้อดีของถุงยางผู้หญิง

ถุงยางอนามัยของผู้หญิงใช้ในการคุมกำเนิด และป้องกันเชื้อโรคที่ติดต่อทางเพศสัมพันธุ์ ซึ่งประโยชน์ก็คล้ายกับถุงยางอนามัยสําหรับผู้ชาย มีข้อดีดังนี้

1.ช่วยในการคุมกำเนิดในกรณีที่ยังไม่พร้อมมีบุตร ในรายที่คุมกำเนิดด้วยวิธีอื่นไม่ได้ หรือผู้ที่กินยาคุมกำเนิดแต่ลืมกินยาคุมบ่อยๆ จนเกิดความไม่มั่นใจในประสิทธิภาพของยาคุมที่กิน ว่าจะทำให้เกิดการตั้งครรภ์ได้หรือไม่ ก็สามารถใช้ถุงยางอนามัยสตรีคู่กันได้

2.ใช้ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์ เช่น โรคซิฟิลิส หนองใน โรคหูดหงอนไก่ โรคเริม ไวรัสตับอักเสบ และไวรัสเอดส์ ซึ่งการใช้ถุงยางอนามัยจะช่วยโอกาสการติดเชื้อ และแพร่เชื้อโรคได้เป็นอย่างมาก

3.สามารถใส่ถุงยางอนามัยสตรีไว้ล่วงหน้าได้ถึง 8 ชั่วโมง

4.ปลอดภัยเนื่องจากไม่มีผลกระทบต่อฮอร์โมนของผู้หญิง ทำให้ไม่ส่งผลกระทบต่อการมีประจำเดือน

5.สามารถใส่และถอดได้เองโดยไม่ต้องให้คุณหมอทำให้แบบยาฝังคุมกำเนิด หรือใส่ห่วงอนามัย อีกทั้งยังสามารถใส่ป้องกันตัวเองได้ในกรณีที่ฝ่ายชายไม่ให้ความร่วมมือในการคุมกำเนิด

6.ถุงยางอนามัยสำหรับสตรีสามารถสอดใส่เข้าไปได้ลึกมาก จึงที่จะไม่ทำให้เกิดปัญหาในระหว่างการมีเพศสัมพันธ์

7.แม้ว่ากิจกรรมทางเพศจะสิ้นสุดลงแล้ว ฝ่ายผู้ชายก็ไม่ต้องรีบถอนอวัยวะเพศออกทันทีเหมือนกับการใช้ถุงยางอนามัยผู้ชาย

8.ประสิทธิภาพดีกว่าถุงยางอนามัยผู้ชาย เพราะสามารถใช้ร่วมกับเจลหล่อลื่นที่เป็นน้ำมันได้เป็นอย่างดี

9.หากไม่ต้องการคุมกำเนิดก็สามารถหยุดใช้และพร้อมที่จะมีลูกได้ทันที

Sponsored

ข้อเสียของถุงยางผู้หญิง

1.ขั้นตอนการใส่ค่อนข้างยุ่งยาก

2.อาจจะทำให้ผู้หญิงบางคนเกิดอาการแพ้ โพลี่ยูเรเทน จนเกิดอาการคันได้ หรือมีอาการตกขาวได้

3.ราคาค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับถุงยังอนามัยสำหรับผู้ชาย และหาซื้อได้ยากกว่า

4.มีความเสี่ยงที่ทำให้เกิดการตั้งครรภ์ได้ หากใช้ไม่ถูกวิธี หรือสอดใส่ไม่ตรงในถุง

5.ในระหว่างการใช้อาจจะทำให้ถุงยางอนามัยหลุดเข้าไปค้างอยู่ในช่องคลอดได้

6.อาจจะทำให้เกิดมีเสียงขึ้นมาจนทำให้เสียอารมณ์ได้

7.อาจทำให้ผู้หญิงที่ใช้จะขาดความมั่นใจเมื่อมองเห็นถุงยางอนามัยค้างอยู่ที่อวัยวะเพศตัวเอง

เหมาะกับใครบ้าง

1.เหมาะกับผู้ที่ต้องการคุมกำเนิดแบบชั่วคราวหรือแบบฉุกเฉินโดยเฉพาะในกรณีไม่เคยได้กินยาคุมกำเนิดมาก่อน ตลอดจนถึงผู้ที่ลืมกินยาคุมบ่อยๆ

2.เหมาะสำหรับผู้ที่แพ้ถุงยางอนามัยแบบเป็นกาวลาเท็กซ์ ซึ่งจะเป็นถุงยางอนามัยสำหรับผู้ชาย

3.เหมาะสำหรับผู้ที่ตัวเองมีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่นซิฟิลิสหนองใน ไวรัสตับอักเสบ โรคเอดส์

4.ผู้หญิงที่คุมกำเนิดด้วยวิธีอื่นอยู่แล้ว แต่อยากป้องกันไม่ให้ติดเชื้อโรคทางเพศสัมพันธ์ก็สามารถใช้ได้

ถุงยางอนามัยสำหรับสตรี มีการผลิตออกมาจำหน่ายนานหลายปีแล้วมีการใช้แพร่หลายในสตรีต่างประเทศ แต่ในเมืองไทยยังไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนัก หากต้องการซื้อมาใช้ สามารถหาซื้อได้จากโรงพยาบาลต่างๆ ร้านขายยาขนาดใหญ่ และในร้านค้าออนไลน์ก็มีขายด้วยเช่นกัน

= = = = = = = = = = = =

ติดตามความรู้ดี ๆ  และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่
https://www.facebook.com/teamkonthong/

We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about how can you grow up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or have any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook

https://www.facebook.com/teamkonthong/

บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..

1.ตั้งครรภ์น้ำหนักลด ในช่วงไตรมาสแรก ผิดปกติหรือไม่

2.รีวิว 7 แอพคนท้อง ที่คุณแม่ควรมี เพื่อการตั้งครรภ์คุณภาพ