ความเหนื่อยล้า ของคุณแม่ระหว่างตั้งครรภ์ ช่วงเวลาสำคัญของผู้หญิงทุกคน คือการได้ตั้งครรภ์และรับรู้ถึงอีกหนึ่งชีวิตที่กำลักเจริญเติบโตภายในร่างกายของผู้เป็นแม่ แต่การตั้งครรภ์นั้นอาจจะมีปัญหาอย่ามาก ต่อคุณแม่มือใหม่ที่ไม่เข้าใจและไม่สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วระหว่างตั้งครรภ์ได้ จนทำให้เกิดอาการเครียดเพิ่มขึ้นแทน ที่จะรู้สึกดีกับการตั้งครรภ์ แต่อาการต่าง ๆ ระหว่างตั้งครรภ์สามารถผ่านไปได้อย่างราบรื่น เพียงคุณแม่เปิดใจ เข้าใจและเรียนรู้ที่จะปรับตัวให้พร้อมกับอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างตั้งครรภ์

ซึ่งอาการที่พบบ่อยที่สุดระหว่างตั้งครรภ์ นั่นก็คือ ความเหนื่อยล้าระหว่างตั้งครรภ์ จนเกิดส่งผลไปถึงอารมณ์ ทำให้คุณแม่หลายๆ ท่านเกิดอาการหงุดหงิดง่าย อารมณ์แปรปรวนตลอดทั้งวัน และเกิดความเครียดสะสมได้ ซึ่งอาการเหล่านี้เป็นผลเสียต่อพัฒนาการของทารกในครรภ์ ดังนั้น เพื่อลดอาการเหนื่อยล้าระหว่างการตั้งครรภ์ วันนี้เรามีวิธีการบรรเทาอาการเหนื่อยล้าระหว่างตั้งครรภ์มาแนะนำกันค่ะ วิธีการจะเป็นอย่างไรมาดูพร้อมกันเลยค่ะ

ความเหนื่อยล้า ของคุณแม่ระหว่างตั้งครรภ์

ทำความเข้าใจกับอาการที่เกิดขึ้นระหว่างตั้งครรภ์

การตั้งครรภ์ในระยะแรก ๆ นั้น คุณแม่จะมีความรู้สึกอึดอัดจากอาการบางอย่าง เช่น อาการคลื่นไ และความเหนื่อนล้า อาการเหล่านี้เป็นอาการที่คุณแม่ตั้งครรภ์ทุกคนจะพบเจอค่ะ ซึ่งถือเป็นอาการปกติของระยะเริ่มแรกของการตั้งครรภ์ คุณแม่จะมีอาการเหนื่อยมากกว่าปกติ เพราะร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งระบบการทำงานของอวัยวะ การปรับโครงสร้างเพื่อรอรับครรภ์ที่ขยายใหญ่ขึ้น ระดับฮอร์โมนที่ขึ้น ๆ ลง ๆ เพื่อปรับสมดุลในร่างกายให้คงที่ และอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปตามระดับของฮอร์โมน ทำให้ร่างกายของคุณแม่มีภาวะเหนื่องล้าอยู่บ่อยครั้งนั่นเองค่ะ

สำหรับอาการที่ผิดปกติระหว่างตั้งครรภ์ก็มีผลต่อ ภาวะความเหนื่อยล้าของร่างกายด้วยเช่นกัน นั่นคือ อาการเลือดกำเดาไหล และการติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะ ซึ่งเป็นอาการที่พบบ่อยที่สุดในคุณแม่ตั้งครรภ์ช่วงแรก ๆ ค่ะแต่หลังจากที่คุณแม่รู้ตัวว่าตั้งครรภ์ ร่างกายของคุณแม่จะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาในเวลาอันรวดเร็ว เพราะการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ เป็นไปอย่ารวดเร็ว ภายในระยะเวลาไม่กี่เดือน เมื่ออายุครรภ์ได้ 4 เดือนไปแล้ว คุณแม่จะเริ่มกับมารู้สึกปกติ เนื่องจากร่างกายของคุณแม่ปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงแล้ว ดังนั้นอาการอึดอันในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ เป็นอาการทั่วๆไป คุณแม่เพียงแค่ปรับตัวและรู้จักปฏิบัติอย่างถูกต้องก็จะสามารถลดความเหนื่อยล้าเหล่านั้นลงได้ค่ะ

วิธีการลดอาการเหนื่อยล้าระหว่างตั้งครรภ์

  • ปรับสมดุลภายในร่างกาย คุณแม่ที่เริ่มตั้งครรภ์แรก ๆ ร่างกายจะมีความอ่อนเพลียมากเป็นพิเศษ ดังนั้น คุณแม่ควรหาเวลาพักผ่อนประมาณ 20 – 30 นาทีต่อวันเป็นอย่างน้อย โดยวันละ 2 – 3 ครั้ง เพื่อให้ร่างกายได้ปรับสมดุลและสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ แต่ถ้าคุณแม่เริ่มรู้สึกเหนื่อย ก็ควรพักทันทีนะคะ ไม่ควรฟื้นไว้เพราะนั่นยิ่งทำให้อาการหนักขึ้น
  • พาดเท้าให้สูงขึ้น วิธีนี้สามารถช่วยบรรเทาอาการบวมน้ำและช่วยให้คุณแม่รู้สึกสดชื่นขึ้นได้ค่ะ เนื่องจากการยกเท้าไว้ที่สูง เลือดจะไหลที่คั่งค้างอยู่จะไหลเวียนลงมา เมื่อยกเท้าวางไว้ที่เดิม การไหวเวียนของเลือดก็จะดีขึ้น ยิ่งช่วยที่ร่างกายเริ่มปรับเปลี่ยนโครงสร้าง คุณแม่จะมีอาการเหนื่อนล้า ปวดขา และข้อเท้าบวมได้ ถ้าคุณแม่เริ่มรู้สึกมีอาการบวม หรือเริ่มปวดข้า ก็ควรยกขาไว้ที่สูงนะคะ ท่านี้สามารถทำได้ทุกเวลา ตามความต้องการของคุณแม่เลยค่ะ รับรองไม่เป็นอันตราย แต่ไม่ควรยกไว้นาน ๆ เพียงแต่ไม่กี่นาทีก็พอค่ะ
  • เลือกรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ๆ อยู่เสมอ ลดอาหารที่มีไขมันมาก ๆ หรือการหวาน ในระหว่างมื้อถ้าคุณแม่รู้สึกหิว แนะนำให้เลือกรับประทานผัก และผลไม้แทนจะช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงขึ้นค่ะ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบทุกมื้อ และดื่มน้ำให้เพียงพอ เท่านี้ร่างกายของคุณแม่ก็จะกลับมาสดชื่นแล้วล่ะค่ะ การรับประทานอาหารยังสามารถลดความเครียดระหว่างการตั้งครรภ์ลงได้อีกด้วยค่ะ
  • ลดการรับประทานอาหารหวาน เพราะอาหารที่มีรสหวามมาก ๆ จะทำให้ร่างกายอ่อนเพลียมากกว่าเดิม และไม่มีแรงไปตลอดทั้งวัน ดังนั้น เพื่อสุขภาพร่างกายที่ดี คุณแม่ควรเลือกดื่มน้ำผลไม้ที่คั้นสด ๆ แทนการดื่มน้ำหวาน เพราน้ำผลไม้มีความหวานตามธรรมชาติอยู่แล้ว การดื่มน้ำผลไม้เป็นประจำจะช่วยเพิ่มความสดชื่นและดีต่อสุขภาพอีกด้วย
  • ใช้เครื่องอำนวยความสะดวกทุกชนิด คุณแม่ตั้งครรภ์จงจำไว้ว่า ระหว่างการตั้งครรภ์ ร่างกายของคุณแม่จะไม่สามารถทำกิจกรรมหนัก ๆ ดังเช่นก่อนตั้งครรภ์ได้ และไม่ควรยกของหนักเพราะนอกจากจะทำให้ปวดเมื่อยแล้ว ยังมีความเสี่ยงต่อสุขภาพของทารกในครรภ์อีกด้วย ดังนั้น ถ้าคุณแม่มีความจำเป็นต้องร่วมทำกิจกรรมหนัก ๆ เช่นการขนของ การจัดของ หรือแม้แต่การทำงานบ้าน คุณแม่ควรหาเครื่องอำนวยความสะดวกเพื่อช่วยให้การทำงานเหล่านั้นเบาขึ้น เช่นถ้าต้องการทำงานบ้าน คุณแม่ก็ควรเลือกใช้เครื่องดูดฝุ่นที่มีน้ำหนักเบา แทนการกวาด เป็นต้น การใช้เครื่องอำนวยความสะดวกนั้น นอกจากจะทำให้งานเสร็จเร็วแล้ว คุณแม่ยังมีเวลาพักผ่อนอีกด้วยค่ะ
  • หยุดงานบ้าน หรืองานอื่น ๆ บ้าง คุณแม่ตั้งครรภ์ที่จำเป็นต้องทำงานเป็นประจำ หลังเลิกงานก็ควรหยุดพักเรื่องงานบ้านแล้วค่อยทำวันหยุดงาน เพื่อให้ร่างกายของคุณแม่ได้พักบ้าง การทำงานตั้งแต่เช้าจรดค่ำ อาจจะส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ได้ ดังนั้น จงหยุดทำงานบ้างเพื่อลูกเถอะค่ะ

คุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีร่างกายอ่อนแอมากกว่าปกติอยู่แล้ว ยิ่งทำงานหนัก หรือหักโหมกับงานมากเมื่อก่อนก็ยิ่งทำให้ร่างกายของคุณแม่อ่อนเพลีย โดยเฉพาะช่วยอายุครรภ์ได้เพียง 12 สัปดาห์แรก การเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนในช่วงนี้ จะทำให้คุณแม่มีอาการเหนื่อยล้า คลื่นไส้และอารมณ์อ่อนไหวได้ง่าย ดังนั้นคุณแม่จึงต้องพยายามพักผ่อนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หาเวลานั่นพักระหว่างวัน รับความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมงาน และครอบครัวบ้าง ความเหนื่อย้าอาจทำให้คุณแม่ยิ่งรู้สึกหมดแรง ลองวิธีดูแลสุขภาพร่างกายให้ดีอยู่เสมอ หรือปฏิบัตตามคำแนะนำข้างต้น อาจจะช่วยให้คุณแม่ผ่านช่วงเวลานี้ไปได้แบบสบายค่ะ

Sponsored

= = = = = = = = = = = =

ติดตามความรู้ดี ๆ  และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่
https://www.facebook.com/teamkonthong/

We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about how can you grow up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or have any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook

https://www.facebook.com/teamkonthong/

บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..

1.แพ้ท้องระดับไหน เช็คสิ อาการแพ้ท้องของคุณ รุนแรงหรือไม่

2.10 อาหารวิตามินบี 6 สูง ช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องได้ดี