พ่ออุ้มท้องแทนแม่ ตอน คุณพ่อชาวญี่ปุ่นได้สัมผัสชีวิตการเป็นแม่แทนภรรยา

พ่อบ้านอุ้มท้องแทนแม่ โดย ผู้ว่าราชการจังหวัดของเกาะคิวชูในญี่ปุ่นร่วมทดลองสัมผัสประสบการณ์ “อุ้มท้อง” เพื่อเข้าใจถึงความยากลำบากของคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ เพื่อรณรงค์ให้บรรดาสามีแบ่งเวลาดูแลภรรยาและช่วยแบ่งเบาภาระงานบ้าน

โฆษณาชุด “เมื่อผู้ว่าอุ้มท้อง” จัดทำขึ้นโดยสภายุทธศาสตร์ภูมิภาคคิวชู เพื่อรณรงค์ให้บรรดามนุษย์เงินเดือนชาวญี่ปุ่นจัดสรรเวลาทำงานและดูแลครอบครัวอย่างสมดุล ภายใต้แคมเปญ “Work Life Balance”

โฆษณาชุดนี้ได้ให้ตัวแทนผู้ว่าราชการจังหวัดบนเกาะคิวชูสวมชุดน้ำหนัก 7.3 กิโลกรัมเพื่อสัมผัสประสบการณ์ของคุณแม่ตั้งครรภ์ ที่ต้องอุ้มท้องโย้ทำงานบ้าน และเดินทางไปทำกิจวัตรประจำวันต่างๆ ซึ่งบรรดาคุณผู้ชายแทบจะไม่เคยรับรู้ถึงความยากลำบากของบรรดาว่าที่คุณแม่เช่นนี้มาก่อน

พ่อเมืองทั้ง 3 คนที่เป็นพ่อคนด้วย ต้องสัมผัสถึงการใช้ชีวิตโดยแบกน้ำหนักที่ท้องนั้นยากลำบากแค่ไหน? ตั้งแต่การเดินเหิน การเคลื่อนไหว แม้แต่การก้มตัวสวมรองเท้าหรือหยิบของก็ทำได้ยาก และยังต้องทำงานบ้าน ซักผ้าล้างจาน, ขึ้นรถโดยสาร จนถึงไปจับจ่ายซื้อของต่างๆ

บรรดาผู้ว่าฯที่ได้สัมผัสประสบการณ์ “อุ้มท้องแทนเมีย” ต่างบ่นว่าปวดหลังปวดเอว และรู้ซึ้งถึงความลำบากคุณแม่มือใหม่ ทุกคนต่างขอบคุณภรรยาที่ทำงานบ้านและดูแลครอบครัวเป็นอย่างดีทั้งๆที่ตั้งครรภ์อยู่

โครงการรณรงค์นี้เกิดขึ้นเพื่อกระตุ้นให้บรรดาคุณผู้ชายเห็นว่า เหล่าภรรรยาที่ถึงแม้จะอยู่กับบ้านก็มีภาระที่หนักหนา ยิ่งในยามที่ตั้งท้องด้วยแล้วก็ยิ่งเหน็ดเหนื่อยมากขึ้น และมีผลการสำรวจพบว่าผู้ชายชาวญี่ปุ่นช่วยทำงานบ้านและดูแลลูกน้อยที่สุดในโลก โดยเฉพาะสามีจากเกาะคิวชูช่วยงานภรรยาน้อยกว่าภูมิภาคอื่นๆในญี่ปุ่น

สภายุทธศาสตร์ภูมิภาคคิวชูเจ้าของโครงการรณรงค์นี้ยังได้เชิญนักธุรกิจใหญ่ในภูมิภาคมาร่วมให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนการสร้างความสมดุลระหว่างการทำงานกับชีวิตครอบครัว โดยลดการทำงานนอกเวลาลง เพราะองค์กรหลายแห่งได้พิสูจน์แล้วว่า ชั่วโมงการทำงานที่ยาวนานไม่ได้ทำให้ประสิทธิผลการทำงานเพิ่มขึ้น แต่การจัดสรรเวลาและรูปแบบการทำงานที่เหมาะสม ทำให้พนักงานสามารถทำงานและดูแลครอบครัวได้ดีไปพร้อมๆกัน.