ทักษะการกิน เด็กก่อนวัยเรียน คือ เด็กที่มีอายุ 1-6 ปี ถือเป็นวัยที่มีพัฒนาการและการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พัฒนาการด้านสมอง ซึ่งมีการศึกษาแล้วพบว่าเด็กวัย 1-5 ปี มีพัฒนาการด้านสมองมากกว่า 80% ความสำคัญจึงอยู่ที่ว่าพ่อแม่ควรมีการให้ลูกทานอาหารอย่างถูกต้อง และมีการฝึกทักษะที่ดีในการทานอาหารให้ลูกด้วย
นั่นเพราะปัจจัยต่าง ๆ ล้วนมีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของลูกนั่นเอง โดยเฉพาะการเน้นให้ลูกทานโปรตีน ซึ่งถือว่าในช่วงวัยนี้ มีความต้องการโปรตีนมากกว่าวัยอื่น ๆ แต่ขณะเดียวกันพ่อแม่บางคนก็อาจจะมองข้ามในการดูแลใส่ใจเรื่องนี้ไป เนื่องจากว่าเด็กวัยนี้สามารถทานอาหารร่วมกับพ่อแม่ได้แล้ว จึงทำให้ความใส่ใจลดลง งั้นเรามาทำความเข้าใจเรื่องนี้ให้มากขึ้น รวมถึงมาฝึกทักษะที่ดีในการทานอาหารให้ลูกในวัยนี้กันดีกว่าค่ะ
ทักษะการกิน
ฝึกทักษะที่ดีในการทานอาหาร
1.เน้นทานโปรตีน และฝึกนิสัยการทานอาหารให้หมด รวมถึงนั่งทานข้าวพร้อมกับพ่อแม่ได้แล้ว
2.ควรมีการเริ่มให้ลูกค่อย ๆ หัดทานอาหารใหม่ที่เป็นประโยชน์ทีละน้อย โดยมีการปรุงแต่สีสันกับรสชาติตามที่ลูกชอบ ซึ่งหากพบว่าลูกไม่ทาน ณ ตอนนั้น อย่าบังคับให้เขาทานต่อนะคะ ให้เว้นระยะสักนิดเพื่อให้เขามีการปรับตัว จากนั้นจึงค่อย ๆ ให้เขาทดลองอาหารใหม่อีกครั้งในวันถัด ๆ ไป
3.ฝึกมารยาทในการทานอาหาร และเป็นตัวอย่างที่ดีในการทานอาหารที่เป็นประโยชน์ พยายามชักจูงความสนใจให้เขาชอบการทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และเน้นโปรตีน ผัก ผลไม้ เป็นหลัก
4.ฝึกนิสัยการทานอาหารเช่นเดียวกับพ่อแม่ คือ ทานอาหารให้ครบ 3 มื้อหลัก ไม่ทานจุบจิบ ทานผลไม้แทนขนมหวานเมื่อรู้สึกหิว โดยระหว่างอาหารมื้อหลักควรให้ลูกดื่มนมจืดหรือดื่มน้ำผลไม้ด้วย ทั้งนี้ในการฝึกควรมีการเริ่มให้ลูกหัดดื่มนมจากถ้วยตั้งแต่อายุ 6 เดือน
5.ไม่ปรุงอาหารรสจัดให้เด็กวัยนี้ เช่น เผ็ดจัด หวานจัด เค็มจัด มันจัด เปรี้ยวจัด เพราะระบบย่อยของเด็กยังไม่แข็งแรงเท่าผู้ใหญ่นั่นเอง
6.ควรทานอาหารที่ย่อยง่าย และเป็นอาหารสำหรับเด็กที่มีฟันบดเคี้ยวได้บ้างแล้ว
7.ฝึกนิสัยให้เขาทานอาหารช้า ๆ เคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืน ไม่รีบทานรีบกลืน และสร้างบรรยากาศที่ดีบนโต๊ะอาหาร เพื่อเพิ่มบรรยากาศที่ดีในการอยากทานอาหารมากขึ้น
โภชนาการเด็กก่อนวัยเรียน
1.เด็กในวัย 1 -3 ปี อาหารหลักที่เหมาะกับเด็กก่อนวัยนี้ คือ ข้าว เนื้อสัตว์ย่อยง่าย ผัก ผลไม้ และนม ควรได้รับพลังงานอย่างเพียงพอ 100 กิโลแคลอรีต่อกิโลกรัมน้ำหนักตัว ยกตัวอย่าง ดื่มนมจืด 2-3 แก้ว ต่อวัน ไข่ 1 ฟองต่อวัน เนื้อสัตว์ย่อยง่าย 3 ช้อนโต๊ะต่อวัน ผักผลไม้หลายสี 2 ทัพพีต่อวัน ผลไม้ 3 ส่วนต่อวัน น้ำมันพืช 2-3 ช้อนชา ต่อวัน เป็นต้น
2.เด็กในวัย 4-6 ปี ควรได้รับอาหารในสัดส่วนที่พอดี ยกตัวอย่าง ข้าวหรือแป้ง วันละ 6 ทัพพี ผักใบเขียว เช่น แครอท ดอกกะหล่ำ ผักกาดขาว หน่อไม้ฝรั่ง ประมาณ 3 ทัพพีต่อวัน น้ำมันพืช 5 ช้อนชาต่อวัน ส่วนผลไม้ ควรทานผลไม้สดตามฤดูกาล 2-3 ส่วนต่อวัน เช่น ส้ม 1 ลูก กับ กล้วย 1 ลูก หรือ ส้ม 1 ลูก กับ กล้วย 1 ลูก กับมะละกอสุก 1 ส่วน เป็นต้น นมจืด 2-3 แก้วต่อวัน รวมถึงเพิ่มการทานเนื้อปลา ตับ ไข่แดง เลือด ให้มากขึ้น เพื่อช่วยในให้มีการพัฒนาการด้านสมอง และอาหารทะเล เพื่อจะได้รับไอโอดีนในการเสริมสร้าง IQ อย่างเพียงพอ และป้องกันโรคเอ๋อด้วย เป็นต้น
= = = = = = = = = = = =
ติดตามความรู้ดี ๆ และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่
https://www.facebook.com/teamkonthong/
We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about how can you grow up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or have any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook
https://www.facebook.com/teamkonthong/
บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..